ทดลองขับ
ฟอร์ด เรนเจอร์/เอเวอเรสต์
ABOUT THE AUTHOR
ภูเขม หน่อสวรรค์
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตนิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2559
คอลัมน์ Online : ทดลองขับ(4wheels)
ฟอร์ด ค่ายรถที่อัดแน่นอุปกรณ์ความปลอดภัย และอุปกรณ์ใช้งาน ล้ำหน้าคู่แข่งระดับเดียวกันเสมอมา ล่าสุดกับกระบะ เรนเจอร์ และเอสยูวีอย่าง เอเวอเรสต์ มีการเพิ่มอุปกรณ์ที่น่าสนใจหลายรายการสำหรับรุ่นตัวถังล่าสุด ปี 2016 ทางค่ายผู้ผลิตจึงจัดทริพทดลองขับ พร้อมการใช้งานของแต่ละระบบ
การทดลองขับของเรา เริ่มด้วยกระบะ เรนเจอร์ รุ่นทอพ 3.2 แอล ไวลด์ทแรค 4x4 6 เอที เครื่องยนต์ขนาดใหญ่สุดในกลุ่มเดียวกันที่ 3.2 ลิตร กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมชุดแต่งเสริมมาดบึกบึนรอบคัน กระจังหน้าปรับเปลี่ยนรูปทรงให้มีความดุดัน สมความเป็นตัวลุยมากขึ้น
ขณะที่ภายในห้องโดยสารเน้นความทันสมัย พวงมาลัย คันเกียร์ เบาะนั่ง และแผงข้างประตู สำหรับรุ่น ไวลด์ทแรค โดยเฉพาะ ระบบปรับอากาศ และระบบปัดน้ำฝน อัตโนมัติ พื้นที่กว้างขวางนั่งได้สบายไม่แพ้ รถเก๋ง หรือรถเอสยูวีเลยทีเดียว
จุดสำคัญ คือ ระบบความปลอดภัยที่ติดตั้งเพิ่มเติมเข้ามาล่าสุด และเราได้ทดลองใช้งานในทริพทดลองขับครั้งนี้เช่นกัน ตามนี้
ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ใช้เรดาร์วัดระยะห่างระหว่างรถคันหน้า โดยระบบจะตั้งค่าระบบควบคุมความเร็วแบบอัตโนมัติ เพื่อให้รถอยู่ห่างจากรถคันหน้าในระยะที่ปลอดภัยตามความเร็วที่ตั้งไว้ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรคตามคันหน้า หากรถคันหน้าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่ต่ำลง ระบบจะลดความเร็วลงอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างในระยะที่ปลอดภัย เมื่อถนนกลับมาโล่ง หรือคันหน้าเร่งความเร็ว ระบบจะเร่งความเร็วตามสภาพการจราจรกลับมาที่ความเร็วที่ตั้งค่าไว้
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับขี่กำลังเบนรถออกจากเลนโดยตั้งใจหรือไม่ หากระบบพบว่าผู้ขับขี่กำลังเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะเข้าควบคุมแรงบิดของพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า เพื่อดึงรถกลับเข้าสู่เส้นทางเดิม หากรถยังคงเคลื่อนออกนอกเลน สัญญาณเตือนการเปลี่ยนเลนจะแจ้งเตือนผู้ขับขี่ด้วยระบบสั่นที่พวงมาลัย (สามารถตั้งระดับความแรงของการสั่นได้)
ระบบเตือนการชนด้านหน้า ป้องกันการชนที่ความเร็วสูงกว่า 5 กม./ชม. หากระบบวัดค่าเวลาก่อนชนได้ต่ำกว่าที่กำหนดไว้ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมกะพริบไฟบนกระจกด้านหน้า และแสดงข้อความเตือนบนหน้าจอแสดงข้อมูล หากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อสัญญาณเตือน ระบบจะเตรียมพร้อมระบบเบรคไว้ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถหยุดรถได้อย่างรวดเร็วเมื่อแตะเบรค
ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ จะส่งสัญญาณแจ้งเตือนเมื่อตรวจพบว่าผู้ขับขี่มีอาการเหนื่อยล้า ระบบจะคาดการณ์ตำแหน่งที่รถควรจะอยู่โดยอ้างอิงจากตำแหน่งของช่องทางที่มีการบันทึกไว้ จากนั้นจึงวัดหาตำแหน่งที่แท้จริงของรถ หากพบว่ามีค่าความแตกต่างมาก ระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนหน้าจอควบคุม หากผู้ขับขี่ยังไม่มีการตอบสนอง ระบบจะแสดงสัญญาณที่หน้าจอแสดงข้อมูล เพื่อให้ผู้ขับขี่ทราบว่าควรหยุดพัก
อีกระบบที่ไม่มีโอกาสทดลองใช้งาน เนื่องจากเป็นเวลากลางวัน นั่นคือ ระบบเปิด/ปิดไฟสูงอัจฉริยะ ระบบจะทำงานที่ความเร็วสูงกว่า 40 กม./ชม. ระบบนี้ใช้กล้องที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าตรวจสอบสภาวะต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาว่าเมื่อใดต้องเปิดหรือปิดไฟสูง ระบบจะเปิดไฟสูงเมื่อบริเวณนั้นมืดมากพอ และไม่มีแสงไฟจากรถคันอื่นๆ โดยรอบ
ถัดมา คือ การทดลองขับเอสยูวี เอเวอเรสต์ รุ่นทอพ 3.2 แอล ไททาเนียม พลัส 4x4 เอที เครื่องยนต์บลอคเดียวกับกระบะ ขนาด 3.2 ลิตร กำลังสูงสุด 200 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา โดยมีระบบความปลอดภัยเหมือนกับที่ติดตั้งใน เรนเจอร์ แต่มีเพิ่มเติมเข้ามา ได้แก่
ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ช่วยให้การนำรถเข้าจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่าย โดยที่ผู้ขับขี่ควบคุมเพียงแค่การเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรค โดยไม่จำเป็นต้องบังคับพวงมาลัย
ระบบตรวจจับรถในจุดบอด มาพร้อมกับ ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด คอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอด หรือเมื่อมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากช่องจอด ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถถอยรถออกจากช่องจอดได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
จากการทดลองขับในครั้งนี้ พิสูจน์ได้ว่าบรรดาตัวลุยของ ฟอร์ด ทั้งกระบะ เรนเจอร์ และเอสยูวีอย่าง เอเวอเรสต์ นอกจากสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังติดตั้งระบบความปลอดภัย และระบบใช้งานต่างๆ ที่มีความล้ำหน้าคู่แข่งระดับเดียวกันอย่างเห็นได้ชัด แม้ระยะแรกอาจต้องทำความเคยชินอยู่บ้าง แต่หลังจากนั้นผู้ขับจะพบกับความสะดวกสบาย และปลอดภัย เทียบเท่ารถเก๋งราคาแพงนั่นเชียว !!