Mazda ปรับหน้า CX-5 ใหม่ รับปี 2025 เพื่อกลับมาทวงบัลลังก์ครอสโอเวอร์เอสยูวี หลังจากโมเดลนี้ เปิดตัวเจเนอเรชันที่ 2 เมื่อปลายปี 2017 นอกจากปรับหน้าตาใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดิม และเพิ่มเติมเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ยังปรับราคาลดลง เพื่อเน้นความคุ้มค่า คุ้มราคาด้วย
Mazda CX-5 2025 ยังคงเป็นครอสโอเวอร์เอสยูวี ในกลุ่ม ซี (C-SUV) ที่มีให้เลือก ทั้งแบบเครื่องยนต์เบนซิน รุ่น 2.0 S กับรุ่น 2.0 SP และดีเซล เทอร์โบ รุ่น XDL ที่ขับสนุก และประหยัดน้ำมัน
การเปลี่ยนแปลงของ Mazda CX-5 เริ่มจากการออกแบบภายนอกที่สร้างความ แตกต่างอย่างชัดเจน โดยผสมผสาน ระหว่างภาพลักษณ์ความสปอร์ทและ ความหรูหราอย่างลงตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ด้านหน้า เริ่มตั้งแต่ ไฟหน้าดีไซน์ใหม่โปรเจคเตอร์แบบ LED เปิด/ปิด และปรับระดับสูง/ต่ำ อัตโนมัติ กระจังหน้าสี Piano Black ดีไซน์ใหม่ และกันชนหน้าแบบไม่มีไฟตัดหมอก
ด้านหลัง ไฟท้ายใหม่ แบบ LED Signature และ กันชนหลังแบบใหม่ เสริมชุดตกแต่ง คิ้วข้าง ประตูใหม่ ล้ออัลลอย 3 แบบ 3 รุ่น ขนาด 17 นิ้ว ในรุ่น 2.0 S ขนาด 19 นิ้ว ในรุ่น 2.0 SP และ XDL และท่อไอเสีย ดีไซน์ใหม่
ส่วนรุ่น XDL ไม่เพียงได้กันชนหน้าดีไชน์ใหม่ ด้านล่างเปลี่ยนสปอยเลอร์หน้าให้เป็นสีเดียวกับตัวรถ รวมทั้งขอบซุ้มล้อ สเกิร์ทข้างหรือคิวขอบประตู และสเกิร์ทหลังด้านล่างใต้กันชนหลังให้เป็นสีเดียวกับตัวรถ ท่อไอเสียขนาดใหญ่
การตกแต่งภายในใหม่ด้วยเบาะ หนังสีดำ ตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล และ ใช้วัสดุตกแต่งภายในแบบ Real Wood และสีเงินชาตินโครม ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ทั้ง 2.0 S และ 2.0 SP
เบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วย ด้ายสีน้ำตาลเข้ม ในรุ่น เครื่องยนต์ดีเซล XDL
เบาะหนังสีดำด้ายสีน้ำตาลในรุ่น 2.0 S และ 2.0 SP
หนัง Nappa สีแดงเข้มๆ ด้ายสีน้ำตาลเข้ม ในรุ่น XDL
เสริมภาพลักษณ์ ด้วยหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า เพิ่มเทคโนโลยีความ สะดวกสบายให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น 2.0 S
Mazda CX-5 2025 ทุกรุ่น ยังติดตั้ง Apple CarPlay ที่เชื่อมต่อไร้สาย และรองรับ Android Auto โดย แสดงผลบนหน้าจอสี Center Display แบบทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ควบคุม ด้วย Center Commander ปุ่มควบคุม ระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง
หน้าจอสี Center Display แบบทัช สกรีนขนาด 8 นิ้ว
นอกจากนี้ Mazda CX-5 2025 ทุกรุ่น ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Sports Paddle Shift และเพิ่มความสะดวกสบายยิ่งขึ้น กับประตูท้าย เปิด/ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G (สกายแอคทีฟเบนซิน) ขนาด 2.0 ลิตร มาพร้อม เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ SKYACTIV-Drive ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถตอบสนองได้ดี ให้กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน เมตร พร้อมระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบ อิเลคทรอนิกไดเรคอินเจคชัน รองรับน้ำมันเชื้อเพลิง E85 ประหยัด น้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 13.9 กม./ ลิตร และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม FEEL THE DRIVE
เครื่องยนต์ SKYACTIV-D (สกายแอคทีฟคลีนดีเซล) 2.2 ลิตร มาพร้อมระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ชั้น ที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว ทั้งแรงและ ประหยัด ให้กำลังถึง 190 แรงม้า แรงบิดสูง 450 นิวตัน-เมตร พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ i-ACTIV AWD รวมถึงระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT สามารถประหยัดน้ำมันได้ถึง 15.9 กม. /ลิตร ได้รับการรับรองมาตรฐาน การปล่อยไอเสียระดับ Euro5
นอกจากนี้ ในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ยังมี การติดตั้งระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรี Uy Off-Road (Off-Road Traction Assist) เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความ ปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ตลอดการเดิน ทาง
ระบบช่วงล่างของ Mazda ที่ขึ้นเรื่องของการเกาะถนน ในรถรุ่นนี้ได้รับ การปรับปรุงช่วง ล่างใหม่ เพื่อเพิ่มความนุ่มสบายขณะโดยสาร โดยได้เสริมคานด้านล่างของห้องโดยสารตอนหลัง เพื่อเพิ่มความ แข็งแกร่งให้กับโครงสร้างตัวถัง และมีการเปลี่ยนสปริงและชอคอัพ ใหม่ ซึ่งจะช่วยลดแรงสะเทือนที่เข้ามายังพื้นห้องโดยสารด้านล่าง ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างราบรื่นและมอบความสบายให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น เพิ่มระบบ Cruising Traffic Support และ MRCC Stop & Go ในรุ่น 2.0 SP และ XDL
Mazda CX-5 2025 ยังมาพร้อม ระบบต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยระดับโลก i-Activsense อย่างครบครัน ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LAS (Lane-Keep Assist System) ระบบช่วยเตือนเมื่อผู้ขับเหนื่อยล้าขณะ ขับขี่ DAA (Driver Attention Alert) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบควบคุมความเร็วรถ อัตโนมัติ MRCC แบบ Stop & Go (Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุด อับสายตาขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมี รถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) / ระบบเตือนการชนด้าน หน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ SBS (Smart Brake Support) / ระบบช่วย หยุดรถอัตโนมัติ แบบ Advance หรือ Advance SCBS (Advanced Smart City Brake Support) ระบบช่วยหยุด รถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SCBS-R (Smart City Brake Suppo Reverse) ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ALH (Adaptive LED Headlamps) หน้า จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า
ทุกรุ่นปรับราคาลดลงจากรุ่นปัจจุบัน ประมาณ 100,000 ถึง 250,000 บาท ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง Mazda Premium Insurance (MPI) ฟรี Mazda Ultimate Service (MUS) โปรแกรมคุ้มครองและดูแลรถ 5 ปี ดอกเบี้ยต่ำสุดเริ่มต้นเพียง 1.99% เปิดให้ลูกค้าที่สนใจ สามารถจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 11-27 พ.ย. 67 ก่อนเปิดตัวอย่างเป็น ทางการ โดยเริ่มลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ผ่าน ช่องทาง https://m.mazda.co.th/prcx5reg เพื่อรับส่วนลดเพิ่มเติมอีก 20,000 บาท (ลูกค้าลงทะเบียนจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 11-27 พ.ย. 67 จองซื้อตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 67 และรับรถภายในวันที่ 31 ธ.ค. 67)
พิเศษสุดสำหรับลูกค้า Mazda Family รับเพิ่มบัตรน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท (ลูกค้าลงทะเบียนจองสิทธิ์ระหว่างวันที่ 11-27 พ.ย. 67 จองซื้อตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. 67 และรับ รถภายในวันที่ 31 ธ.ค. 67) ลูกค้าที่จองสิทธิ์ก่อนสามารถรับรถได้ทันทีหลังการเปิดตัวอย่างเป็นทางการทุกโชว์รูมทั่วประเทศ
ทั้งนี้ New Mazda CX-5 จะมีกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 พ.ย. 67 ในงาน Motor Expo 2024