Hyundai Palisade พรีเมียมครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีแบบเบาะ 3 แถวรุ่นใหม่ กลุ่ม D-segment มีให้เลือก 2 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 2WD Exclusive และรุ่น 4WD Prestige
มิติตัวรถ Hyundai Palisade ยาว/กว้าง/สูง 4,995/1,975/1,750 มม. ความยาวฐานล้อ 2,900 มม. ระดับต่ำสุดจากพื้น 203 มม.
ขนาดตัวใกล้เคียงกับครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี 6-7 ที่นั่ง อย่าง BMW X5 (4,922/2,004/1,745 มม.) Mazda CX-8 (4,900/1,840/1,730 มม.) Toyota Iinnova Zenix (4,760/1,850/1,790 มม.) และเอสยูวีอย่าง Tank 500 5,078/1,934/1,905 มม.
Hyundai Palisade รุ่นที่จำหน่ายในบ้านเรา เด่นด้วยกระจังหน้าแบบ Premium Parametric สีเข้ม (Dark Metallic Chrome) และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน DRL แบบ LED เอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมไฟแบบ Full LED ทั้งด้านหน้าและหลัง ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่น
กระจกมองข้างปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมกับไฟส่องสว่างใต้กระจกมองข้าง
ราวหลังคาสีเทา ในรุ่น 4WD Prestige (ท้ายรถจะมีตัวอักษร HTRAC 2.2D) มีหลังคา Sunroof ด้านหน้า/หลัง พร้อมม่านบังแดด
ไฟท้ายแบบ LED สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่่ 3 แบบ LED ประตูท้ายเปิด/ ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบ Smart
ห้องโดยสารกว้างขวาง หน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCD 12.3 นิ้ว คอนโซลหน้ารถแบบ Bride-type High Console มาพร้อมความสะดวกสบายและเรียบหรู
ระบบเครื่องเสียง Infinity Premium Sound System 12 จุด ยกระดับเสียงเพิ่มความพรีเมียม
กระจกมองหลังแบบไร้ขอบ พร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย เบาะคู่หน้าแบบ Captain Seat พร้อมระบบทำความร้อนและเย็น เสริมความสะดวกด้วยระบบ One Touch Walk-in System ระบบบันทึกตำแหน่งที่นั่งฝั่งคนขับ (2 ตำแหน่ง)
การออกแบบภายในที่เรียบหรู ประณีต ใส่ใจทุกรายละเอียด และฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ครบครัน พร้อมสร้างช่วงเวลาแห่งความสุขในทุกการเดินทาง ความสะดวกสบายภายใน หน้าจอแสดงผลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ LCD 12.3 นิ้ว พวงมาลัยปรับระดับ สูง/ต่ำ เข้า/ออก หุ้มหนัง พร้อม Paddle Shifters ปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ (Eco, Comfort, Sport, Smart)
กระจกมองหลังแบบไร้ขอบ พร้อมระบบตัดแสงอัตโนมัติ
เบาะหุ้มด้วยหนัง รุ่น Exclusive เบาะหุ้มด้วยหนัง Nappa รุ่น Prestige เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า
เบาะด้านคนขับมาพร้อมที่ดันหลัง Cushion Extension ระบบบันทึก 2 ตำแหน่ง
เบาะนั่งแถวที่ 2 แบบ Captain Seat นั่งสบาย พับ/เลื่อนเบาะได้สะดวกด้วยการกดปุ่มแบบวันทัส ข้างเบาะ หรือบนพนักพิง ด้านที่ติดกับประตู ใช้งานง่าย
เบาะนั่งแถวที่ 3 ปรับพับได้แบบ 60:40 นั่ง 3 คน ได้ แต่ 2 คน สบายกว่า
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 3 โซน ระบบปรับอากาศ สำหรับผู้โดยสารแถว 2 ระบบปรับเบาะอุ่น/เย็น แถวที่ 1 และ 2
เบาะแถว 2 และ 3 พับราบเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระมากขึ้น
ช่อง USB Type-C ข้างเบาะคู่หน้า ทั้ง ซ้าย/ขวา จ่ายไฟแรงชาร์จเร็วทันใจ
แท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย ในกล่องไม่สะดวกกับการใช้งาน และต้องระวังน้ำหก เพราะวางอยู่ในพื้นที่เดียวกับแก้วน้ำ
ไฟอ่านแผนที่แบบ LED ไฟในห้องโดยสารแบบ LED ช่องชาร์จไฟแบบ USB Type-C รอบห้องโดยสารมากถึง 6 ตำแหน่ง และยังมีช่องจ่ายไฟสำรอง 12V 4 ตำแหน่ง
กระจกไฟฟ้าปรับขึ้น/ลงอัตโนมัติพร้อมระบบกันหนีบ กุญแจรีโมที่พร้อมระบบ Smart Keyless Entry ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ เบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold
Palisade เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.2 ลิตร R2.2 CRDi รุ่น D4HB กำลังสูงสุด 197 แรงม้า ที่ 3,800 รตน. แรงบิดสูงสุด 440 นิวตัน - เมตร ที่ 1,750 - 2,750 รตน. ส่งกำลังอัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม Paddle Shift ความเร็วสูงสูด 190 กม./ชม. ระบบขับเคลื่อน 2WD ในรุ่น Exclusive และ 4WD ในรุ่น Prestige
การควบคุมระบบ 4WD ทำได้ง่ายเพียงการหมุน
ระบบพวงมาลัยเพาเวอร์แบบไฟฟ้า รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5.9 ม.
ระบบช่วงล่าง ด้านหน้า MacPherson strut ด้านหลัง Multi-link ระบบเบรกแบบจานเบรก พร้อมช่องระบายความร้อน ทั้งด้านหน้า/หลัง ขนาดจานเบรก ด้านหน้า 340 มม. ด้านหลัง 314 มม.
ระบบความปลอดภัย ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วย คู่หน้า ด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย เสริมด้วยเทคโนโลยี Hyundai SmartSense™ ที่มีทั้งระบบช่วยเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Forward Collision-Avoidance) ระบบเตือนและช่วยคุมพวงมาลัยเมื่อมีรถในจุดอับสายตา (Blind-Spot Collision Avoidance), ระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง (Safe Exit Assist), ระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (Lane Following Assist), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Smart Cruise Control) และระบบกล้องมองภาพจุดอับสายตา (Blind-Spot View Monitor)
ส่วนราคา Hyundai Palisade รุ่น Prestige ขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคา 2,499,000 บาท และ Exclusive ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 2,299,000 บาท พร้อมเฉดสีพรีเมียม 2 สี ได้แก่ ขาว Pearl White และ ดำ Space Black
ลองขับแล้วทั้ง 2 รุ่นต่างกันไม่มาก และไม่เน้นการลุย (ระดับต่ำสุดจากพื้น 203 มม.) ประกอบกับกำลังเครื่องเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป เลือกรุ่นเริ่มต้นก็พอแล้ว