คงได้ยินข่าวใหญ่ของวงการรถยนต์ระดับโลกกันแล้ว เมื่อ FCA (Fiat Chrysler Automobiles) ยื่นข้อเสนอร่วมเป็นพันธมิตรกับ Renault ด้วยข้อแม้การถือหุ้นคนละครึ่ง 50:50 เพียงยี่ห้อเดียว ด้วยมูลค่าราว 40 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่รู้กันทั้งวงการว่า กลุ่มพันธมิตร Nissan-Renault-Mitsubishi จับมือกันมาตั้งนานแล้ว โดยไม่ได้ระบุใดๆ เกี่ยวกับค่าย Nissan เลยแหล่งข่าวภายในจาก Nissan ที่ไม่ต้องการเปิดเผยนาม ระบุว่า “มันเป็นแผนงานที่แย่ที่สุด” ที่ FCA จะควบรวมกับ Renault อันจะทำให้กลายเป็นค่ายรถยนต์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก จากเหตุการณ์นี้ต้องถือว่าเป็นวาระที่ตกต่ำอย่างมากของค่าย Nissan ซึ่งกำลังอยู่ในห้วงที่มีปัญหากับยอดขายที่ตกต่ำ ในหลายตลาด และกำลังตามแก้ไขการยอมรับจากสังคมหลังจากที่ อดีตประธาน Carlos Ghosn ถูกจับกุมในข้อหาเกี่ยวกับการเงิน และเพิ่งจะได้ประกันตัวครั้งที่ 2 ออกจากเรือนจำ ซึ่งยังต้องต่อสู้ทางคดีกันในศาลอีกยาวนาน รวมทั้งถูกถอดออกจากคณะกรรมการของบริษัทไปแล้ว บรรดานักวิเคราะห์เชื่อกันว่า จากกรณีนี้ ค่าย Nissan อาจตัดความสัมพันธ์กับ Renault หลังจากที่มีความพยายามจะควบรวมกันก่อนหน้านี้ “Nissan ถูกกันออกจากการเจรจาใดๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งทำให้บรรดาผู้บริหาร ไม่พอใจอย่างมาก และอาจทำให้เกิดการกระทบกระท่ังระหว่างคนของ Nissan กับ Renault ได้” Satoru Takada นักวิเคราะห์จากโตเกียว กล่าวกับสำนักข่าว เอเอฟพี ทันทีที่ Hiroto Saikawa ซีอีโอ Nissan ทราบข่าวคำเสนอของ FCA กับ Renault ก็ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเองยังมีใจที่เปิดกว้างสำหรับการเจรจาการควบรวมใดๆ และจะนำประเด็นนี้ เข้าเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการของ Nissan ร่วมกับ Renault โดย Jean-Dominique Senard ประธาน Renault “เป้าหมายของ Renault ทุกวันนี้ ก็คือ FCA” Satoru Takada กล่าว “สำหรับ Nissan การควบรวมของ FCA กับ Renault จะทำให้ตำแหน่งของ Nissan ในกลุ่มพันธมิตร ยิ่งตกต่ำลงไปอีก รวมทั้งความสัมพันธ์กับ Renault ก็จะยิ่งแย่ลง” FCA มีเป้าหมายในการผลิตรถไฟฟ้า และยานยนต์ไร้คนขับ ในอนาคต ขณะที่ปัจจุบันนี้ ค่ายรถยนต์หลายแห่ง มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีไปอย่างมาก ขณะที่ Renault เอง ก็เริ่มมียอดขายรถไฟฟ้า ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับ เช่นกัน หากข้อตกลงนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ โฆษกของ FCA ระบุว่า แต่ละฝ่ายจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราวปีละ 5.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการค้นคว้าและพัฒนา ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ และกิจกรรมอื่นๆ โดย FCA ระบุว่า จะไม่มีการปิดโรงงานใดๆ เกิดขึ้น แต่ไม่ได้ระบุถึงการลดจำนวนพนักงานใดๆ ปัจจุบัน Renault มืหุ้นอยู่ใน Nissan 43.4 % ขณะที่ รัฐบาลฝรั่งเศส มีหุ้นอยู่ใน 15 %