ดร.ปรเมศร์ ลี้โกมลชัย กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทมโนยนต์ และ รองประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด ผู้จัดจำหน่ายชอคอับ TOKICO (โทคิโคะ) ผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่า กว่า 5 ทศวรรษ กลุ่มบริษัทมโนยนต์ ดำเนินธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับแถวหน้าของประเทศไทย โดยกลุ่มบริษัทมโนยนต์ในส่วนของธุรกิจสายการค้า (Trading Business) ดูแลตลาดสินค้าชิ้นส่วนอะไหล่ทดแทน (Replacement Market) ทั้งในประเทศและส่งออก มีบริษัทในเครือ 14 บริษัท โดยจำหน่ายสินค้าอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ทดแทน เช่นสินค้าในกลุ่มคลัทช์, เบรก , ช่วงล่าง, กลุ่มน้ำมันและผลิตภัณฑ์ของเหลว ชิ้นส่วนอะไหล่ที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ ชิ้นส่วนอะไหล่เครื่องยนต์สำหรับรถบรรทุก เครื่องจักรเพื่อการเกษตร และก่อสร้าง ที่มีคุณภาพ ด้วยแบรนด์สินค้าที่ได้มาตรฐาน OEM ส่งให้กับโรงงานผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นแบรนด์ได้รับการยอมรับจากลูกค้า
ปี 2562 มีรายได้รวมกว่า 6,800 ล้านบาทเติบโตเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับปี 2561 และในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศCLMV (กัมพูชา, ลาว, สหภาพเมียนมาร์, เวียดนาม) เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นตลาดมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และจากวิสัยทัศน์ที่มุ่งเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำในตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับตลาดชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ทดแทนในประเทศ (REM) ยังคงมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันตามจำนวนรถยนต์สะสม โดยเฉพาะรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ตามอายุและระยะทางการใช้งาน
ทั้งนี้ ชอคอับ TOKICO จะเป็นหนึ่งในสินค้าหลัก ที่จะมีส่วนผลักดันให้บริษัทฯบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจาก TOKICO เป็นชอคอับอันดับ1 ที่ส่งให้กับโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศ โดยหลังจากที่บริษัทฯได้รุกตลาด ชอคอับ TOKICO ในตลาด Aftermarket ได้รับการตอบรับอย่างดี
นิติ ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม.เอ็น. อินเตอร์ โฮลดิ้ง จำกัดผู้จัดจำหน่ายชอคอับ TOKICO (โทคิโคะ) ผู้เดียวในประเทศไทยกล่าวว่า ปัจจุบันชอคอับในตลาด Aftermarket มีทิศทางการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ อาทิ ปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น รอบการบำรุงรักษาของรถ อายุการใช้งานของชอคอับ ทำให้เกิดการแข่งขันอย่างดุเดือด ดังนั้นทาง TOKICO จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์การขับขี่และคุณภาพของชอคอับที่ได้มาตรฐานระดับสากลในราคาที่เหมาะสมควบคู่กับการวางกลยุทธ์ ได้แก่
Leader in product coverage ออกสินค้ารุ่นใหม่ และเบอร์ใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยครอบคลุมทุกประเภทการใช้งาน เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้รถ
Strong in distribution channel ผ่านผู้แทนจำหน่าย ร้านอะไหล่ และModern Trade ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ อีกทั้งยังมี Warehouse และระบบ Logistic ที่มีประสิทธิภาพ สามารถจัดส่งและกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อความต้องการของลูกค้า
Leader in customer satisfaction จัดโปรโมชั่นตามความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีการสนับสนุนกิจกรรมทางการตลาด โดยผ่านกิจกรรมBelow the line ไม่ว่าจะเป็น Trade Fair, Road show หรือการจัดTraining ให้กับลูกค้า รวมทั้งการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ผ่านทางSocial Media อาทิเช่น line@, facebook, E-catalogue ผ่าน website และ application
ปี 2563 บริษัทฯ มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่โดยนอกจาก ชอคอับมาตรฐานติดรถแล้ว ยังเน้นไปในกลุ่ม Series ใหม่ ทั้ง 3 Series ได้แก่
1. POWER-PLUS SERIES ชอคอับพาวเวอร์-พลัส: ชอคอับน้ำมันกระบอกยาว แกนใหญ่ 16 mm.(แท้) โดยเพิ่มความยาวขึ้นเหนือกว่าชอคอับมาตรฐาน เหมาะสำหรับรถกระบะที่มีการเสริมแหนบช่วงล่าง ให้สูงขึ้น (ตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป) และทนต่อการใช้งานหนัก
2. ALPHA-PLUS SERIES ชอคอับขนาดใหญ่ขึ้นพิเศษชนิดแกสอัลฟา-พลัส: เป็นชอคอับสมรรถนะสูงที่ผ่านการออกแบบ และทดสอบจากประเทศญี่ปุ่น พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการใช้ความเร็วแม้ขณะบรรทุกหนัก ช่วยให้รถทรงตัวได้ดีไม่เสียการควบคุมเหมาะสำหรับรถกระบะรถ MPV และรถตู้
3. S-PLUS SERIES ชอคอับเอส-พลัส ชอคอัพเกรดพิเศษชนิดแกส: สมรรถนะสูงที่ผ่านการออกแบบ และทดสอบ จากประเทศญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นเพื่อสนองตอบการขับขี่ในสไตล์ มอเตอร์สปอร์ทสามารถใช้กับสปริงโหลดได้ (ไม่เกิน 40 มม.) เหมาะสำหรับรถเก๋ง ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของช่วงล่างให้เกาะถนนมากขึ้นขณะใช้ความเร็ว เพื่อความเร้าใจในการขับขี่
ชอคอับรุ่นใหม่ที่แนะนำนี้ใช้กับรถยนต์รุ่นใหม่ ได้แก่ Toyota รุ่นALTIS ปี 2019 / COMMUTER ปี 2019 / CAMRY ปี 2018 / C-HR ปี2018 / ALPHARD, Honda รุ่น BR-V ปี 2016 / CR-V ปี 2012-2016 / FREED ปี 2013, Mazda รุ่น CX-3 ปี 2015 / CX-5 ปี 2017, Nissan รุ่นTeana ปี 2013 / Caravan E25 ปี 2001-12 / Caravan E26 ปี 2012, Suzuki รุ่น Swift ปี 2018 / Ciaz ปี 2015
อย่างไรก็ตาม TOKICO วางเป้าหมายปีนี้จะเติบโตมากกว่า 10% เพื่อรองรับความต้องการในตลาด ตามจำนวนรถยนต์สะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 5 ปีขึ้นไป ที่ถึงรอบระยะการบำรุงรักษา หรือเปลี่ยนชอคอับ ที่เข้ามาใช้บริการกับศูนย์บริการโมเดิร์นเทรด , อู่ หรือร้านอะไหล่ทั่วไป