สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานข่าวจากกรุงโตเกียว เปิดเผยว่า ผู้บริหารของ ์Nissan กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาปรับลดขนาดขององค์กร รวมทั้งปรับปรุงการบริหารงานภายใน โดยคาดว่าจะพิจารณาปรับลดประมาณการขายประจำปี ราว 1 ล้านคันก่อนหน้านี้การเกิดโรคระบาดร้ายแรง COVID-19 ยอดการขายและผลกำไรของค่าย ์Nissan ก็ลดลงอย่างมาก จากความจำเป็นในการใช้จ่ายเงินสด อันเป็นผลมาจากแผนงานขยายกิจการ นับตั้งแต่สมัยอดีตผู้นำอย่าง Carlos Ghosn ส่วนผลกระทบจากโรคระบาดครั้งนี้ เปรียบเสมือนตัวเร่ง และแรงกดดันให้ผู้บริหารต้องเร่งรีบในการปรับปรุงการบริหารงานให้เร็วขึ้น แหล่งข่าวระบุว่า แผนงานการปรับโครงสร้างของ ์Nissan กำหนดเอาไว้จนถึงเดือนมีนาคม 2566 โดยคาดหมายว่ายอดการขายในเวลานั้น จะมีปริมาณ 5 ล้านคัน ทั่วโลก อันจะทำให้บริษัทฯ ต้องปรับตัว ทั้งการรัดเข็มขัด และลดประมาณการผลิตในโรงงานแต่ละแห่ง ก่อนหน้านี้ Hiroto Saikawa อดีตซีอีโอ ประเมินยอดขายตามแผนงานดังกล่าวไว้เพียง 6 ล้านคัน โดยลดลงจากเป้าหมายของ Carlos Ghosn ที่ตั้งไว้ 8 ล้านคัน แต่จากผลสรุปในปีงบประมาณที่ผ่านมา Nissan ทำได้เพียงราว 5 ล้านคัน เท่านั้น ทั้งนี้ยังไม่รวมการคาดการณ์ของปีนี้ ที่ค่ายรถยนต์ทุกค่าย ประสบปัญหาด้านโรคระบาด อันจะทำให้ไม่สามารถทำได้ตามเป้าหมาย แหล่งข่าวระบุว่า “์Nissan ประเมินยอดขายประจำปีเอาไว้ราว 7-8 ล้านคัน มานานหลายปีแล้ว แต่สามารถทำได้จริงๆ เพียงมากกว่า 5 ล้านคัน เท่านั้น” “บริษัทฯ ไม่สามารถที่จะประเมินยอดขายในแง่ดีอีกต่อไป น่าจะมีการปรับลดขนาดของบริษัทฯ โดยหยิบยกขึ้นมากระทำอย่างจริงจัง เพราะยังมีประเด็นที่ต้องถกเถียงอีกมา สำหรับการบริหารงานในปีงบประมาณ 2563-2565 นี้” ขณะเดียวกัน ผู้บริหารอีกท่านหนึ่ง ก็ระบุว่า เป้าหมายน่าจะปรับลดลงต่ำกว่า 5 ล้านคันด้วยซ้ำ เพราะโรคระบาดร้ายแรง ที่จะทำให้ความต้องการของผู้บริโภคลดลงทั่วโลก ไม่มีรายงานว่า รายละเอียดของการปรับลดขนาดของบริษัทฯ ลงนี้ ฝ่ายบริหารจะลงมติกันเมื่อใด เมื่อเดือนกรกฎาคม ปีที่แล้ว Nissan ประกาศจะลดเป้าการผลิตของทั่วโลกลงเหลือราว 6.5 ล้านคัน ลดจากเป้าเดิม 1 ล้านคัน โดยมีแผนงานที่จะปิดสายการผลิต 3-4 แห่ง รวมทั้งปรับลดจำนวนพนักงาน โดยมีการประเมินกันว่า จะต้องปรับลดลงราว 10 % โฆษกของ Nissan ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อรายงานข่าวนี้ ระบุเพียงว่า “จะมีการแถลงรายละเอียดในเดือนพฤษภาคม”