ระเบียงรถใหม่
Kia K5 (Optima) ซีดานที่สมบูรณ์แบบ

Kia Optima (เกีย ออพทิมา) เป็นรถขนาดกลางที่ผลิตโดย Kia Motors เจเนอเรชันแรก เปิดตัวปี 2000 และถูกจัดจำหน่ายไปทั่วโลก ด้วยชื่อรุ่นที่แตกต่างกันไป เช่น Kia Optima และ Kia Magentis (เกีย มาเจนทิส) สำหรับในตลาดยุโรป และแคนาดา
สำหรับเจเนอเรชัน 2 ใช้ชื่อ Kia Lotze (ลอทซ์) และ Kia K5 (เค 5) สำหรับตลาดเกาหลีใต้ และชื่อ Magentis สำหรับทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และมาเลเซีย ที่ยังใช้ชื่อ Optima แต่รุ่นก่อนปัจจุบันชื่อ Optima จะถูกใช้สำหรับทุกตลาด ยกเว้นในประเทศจีน
Kia Motors America (KMA) ได้ตั้งความหวังการเผยโฉมซีดานขนาดกลาง เจเนอเรชันที่ 5 นี้โดย Kia K5 ใหม่นั้น จะเป็นก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์ ด้วยการออกแบบรถซีดานที่อัดแน่นไปด้วยเทคโลยีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการขับขี่บนพแลทฟอร์มใหม่ "N3" อันยอดเยี่ยม ที่ใช้ร่วมกับบแรนด์ร่วมค่ายเกาหลีใต้อย่าง Hyundai Sonata
มีคำถามที่ว่าทำไม Kia ยังคงมุ่งเน้นรถยนต์นั่งซีดานใหม่ ในช่วงเวลาที่กระแสของตลาดรถยนต์ครอสส์โอเวอร์ และ SUV กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ คงเป็นเพราะด้วยจิตวิญญาณที่ไม่หยุดยั้ง ที่จะสร้างรถซีดานที่สมบูรณ์แบบ ให้กับผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ Kia
Kia Optima ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม D-Segment โดยมีคู่แข่งสำคัญ คือ Toyota Camry (โตโยตา แคมรี), Honda Accord (ฮอนดา แอคคอร์ด), Nissan Altima (นิสสัน อัลตีมา) และ Ford Fusion (ฟอร์ด ฟิวชัน) โดยมิติตัวถังของ K5 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิมในทุกมิติ ยกเว้นความสูงที่ลดลงเพื่อความสปอร์ท และสมรรถนะในการยึดเกาะ (ยาวxกว้างxสูง) 4,905 (+50 มม.)x1,860 (+25 มม.)x1,445 (-20 มม.) มม. และระยะฐานล้อ 2,850 มม. (+46 มม.)
ภายนอก All-New Kia K5 มีการใช้ภาษาการออกแบบรถรุ่นใหม่ของ Kia ที่ทางค่ายเรียกว่า Tiger nose หรือ กระจังหน้ารูปจมูกเสือ ผลงานการออกแบบของ Peter Schreyer ดีไซจ์เนอร์รถสปอร์ทระดับโลก ทำให้มีดีไซจ์น และเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว และดุดัน ด้านข้างมีรูปลักษณ์โค้งมนต่ำ แบบลักษณะของรถ Fastback
ขุมพลังของ Kia K5 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.6 ลิตร เทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 26.9 กก.-ม. (264 นิวตัน-เมตร) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบใหม่ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นครั้งแรกในรถรุ่นนี้
และยังมีเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร เทอร์โบ GT ให้กำลังสูงสุด 290 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 42.9 กก-ม (421 นิวตัน-เมตร) จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Dual-Clutch 8 จังหวะ ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.8 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) โดยกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้า และล้อคู่หลัง โดยจะปรับเปลี่ยนอัตโนมัติ ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และสภาวะการขับขี่
ภายในมาพร้อมกับออพชันใหม่ล่าสุด ด้วยระบบ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ระบบ Infotainment จอสัมผัสขนาด 8 หรือ 10.25 นิ้ว พร้อมระบบนำทางที่สามารถบอกสภาพการจราจรแบบ Real Time
มีการใช้วัสดุซับเสียงที่ดีขึ้น และกระจกบานหน้าเคลือบลามิเนทเพื่อลดเสียง ส่งผลให้ห้องโดยสารเงียบ และพรีเมียมขึ้น ระบบเสียง Bose Premium มาพร้อมลำโพงคุณภาพสูง 12 ตัว จากเทคโนโลยี Bose Centerpoint จึงมีเสียงสเตริโอรอบทิศทาง ทำให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

บทความแนะนำ

