บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เผยหลังจากที่เปิดตัว “TK Plus” แอพพลิเคชันมาใช้ในการให้บริการลูกค้าตั้งแต่ เมษายน ปี 2562 สำหรับขอเช่าซื้อ พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ งานบริหารหนี้ และบริการอื่นๆ รวมถึงบริการรับชำระค่างวด พบจำนวนลูกค้าที่สมัครใช้ “TK Plus” หลังวิกฤติ COVID-19 เพิ่มขึ้น 265 % และจ่ายค่างวดผ่านแอพพลิเคชันเพิ่มขึ้นเกือบ 30 % นับเป็นการปรับพฤติกรรมของลูกค้าในยุค New Normal ที่ตอบ Pain point ในเรื่องการเดินทาง รวมถึงการลดการสัมผัสเอกสารและเงินสดในช่วง Lockdown ที่ผ่านมา ด้านคุณภาพพอร์ทลูกหนี้ พบลูกค้าส่วนใหญ่เกือบ 80 % ยังคงเลือกชำระเต็มจำนวน และ TK ยังสามารถเก็บค่างวดได้เกือบ 90 % ซึ่งสะท้อนให้เห็นผลจากการปล่อยสินเชื่อแบบเข้มงวด และให้ความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมาโดยตลอด
ปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในประเทศไทย เปิดเผยว่า หนึ่งในเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจของ TK เพื่อให้ผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายทั้งในระยะสั้น และในระยะยาว คือ ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงการให้บริการที่ดีเพื่อความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า การพัฒนาเทคโนโลยีในระบบการทำงาน โดยเฉพาะงานบริการลูกค้า ในขณะที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจจึงเป็นสิ่งที่ TK ให้ความสำคัญ โดยได้พัฒนาโมบายแอพพลิเคชัน “TK Plus” เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายดังกล่าว
“แนวคิดของการพัฒนาแอพพลิเคชันเกิดจากข้อมูลที่เรารวบรวมคำถามที่ลูกค้าติดต่อผ่านเข้ามาทาง Call Center โดยคำถามที่ลูกค้าสอบถามมากที่สุด คือ การตรวจสอบยอดชำระ ยอดค้างชำระและดอกเบี้ย ช่องทางการชำระเงินและค่าธรรมเนียมผ่านช่องทางต่างๆ และติดตามเอกสารสัญญาเช่าซื้อ ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ทาง TK จึงได้นำข้อมูลจากลูกค้าไปใช้ในการพัฒนาแอพพลิเคชัน “TK Plus” ซึ่งหลังจากที่ได้นำแอพพลิเคชันดังกล่าวมาใช้งาน มีลูกค้าให้ความสนใจใช้งานในระดับหนึ่ง แต่หลังจากเกิดวิกฤต COVID-19 ที่มีเหตุการณ์ Lockdown ทำให้มีจำนวนลูกค้า หันมาสมัครใช้งานและมีการใช้ฟังค์ชันจ่ายค่างวดผ่านแอพพลิเคชันเพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว” ปฐมากล่าว
ประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK กล่าวเสริมว่า นับตั้งแต่มีการ Lockdown จนถึงปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง พบว่ามีจำนวนลูกค้าสมัครใช้ แอพพลิเคชัน “TK Plus” เพิ่มขึ้นถึง 265 % เกือบ 10,000 ราย/เดือน ทั้งนี้ มีลูกค้าใช้บริการจ่ายเงินค่างวดผ่าน “TK Plus” เพิ่มขึ้นในภาพรวมเกือบ 30 % คิดเป็นค่างวดเดือนละ 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นภาพสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมลูกค้าที่มีการปรับตัวตามวิถีใหม่ หรือ New Normal โดยเปิดรับและใช้เทคโนโลยีในการทำธุรกรรมทางการเงินเพิ่มขึ้น
ในด้านของคุณภาพพอร์ทลูกหนี้ TK พบลูกค้าส่วนใหญ่เกือบ 80 % ยังคงเลือกชำระเต็มจำนวน และบริษัทฯ ยังสามารถเก็บค่างวดได้สูงถึง 90 % ซึ่งสะท้อนให้เห็นคุณภาพในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งนี้ TK ยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อในช่วงเฝ้าระวังนี้ เพื่อการดำเนินธุรกิจตามเป้าหมาย ควบคู่กับความมั่นคงในการบริหารการเงินและต้นทุนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด