Harley-Davidson (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) เผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์รุ่นปี 2021 ที่มาพร้อมกับสมรรถนะ สไตล์ เทคโนโลยี เพื่ออิสรภาพในการขับขี่ที่มากยิ่งขึ้น โดยไฮไลท์ของปีนี้ คือ Cruiser (ครูเซอร์) รุ่น Street Bob® 114 (สตรีท บอบ 114) ที่มีรูปลักษณ์ดูห้าวหาญในสไตล์บอบเบอร์ และ Cruiser รุ่น Fat Boy 114 (แฟท บอย 114) ที่ได้ทำการปรับรูปลักษณ์ใหม่ นอกจากนี้ Harley-Davidson ยังขนทัพ รถมอเตอร์ไซค์ในตระกูลทัวริงมาเปิดตัวอีก 3 รุ่น ได้แก่ Street Glide® Special (สตรีท กไลด์ สเปเชียล), Road Glide® Special (โรด กไลด์ สเปเชียล) และ Road King® Special (โรด คิง สเปเชียล) ปิดท้ายด้วยการเผยโฉมรถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ (ซีวีโอ) 4 แบบสุดพรีเมียม ที่ถูกสร้างสรรค์ และตกแต่งโดยทีมงาน Custom Vehicle Operations
“Harley-Davidson ก้าวเข้าสู่ปี 2564 ด้วยนิยามของการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่เชื่อมระหว่างประสบการณ์ และอารมณ์” ธีโอคีเทลล์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด กล่าว “การแสวงหาการผจญภัย และอิสรภาพอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบนถนนที่โล่งกว้าง คือ แนวความคิด และวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของเรา ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่ปีใหม่ และฤดูการขับขี่ใหม่ การสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่หลงใหลในการขับขี่ในครั้งนี้ อาจสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา”
Street Bob 114 รถมอเตอร์ไซค์ไฮไลท์ในตระกูล Cruiser
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson Softail® (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ซอฟเทล) ทั้ง 8 รุ่น เป็นรถมอเตอร์ไซค์ที่พร้อมจะมอบประสบการณ์แห่งการขับขี่ โดยการผสมผสานขุมพลัง และเทคโนโลยีแนวใหม่ลงในรถมอเตอร์ไซค์สไตล์อเมริกันแท้ Street Bob 114 เป็นโมเดลรถตระกูล Softail ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด ซึ่ง Street Bob 114 รุ่นใหม่นี้ ได้เพิ่มความดุดันในสไตล์รถบอบเบอร์แบบ Stripped-Down และยกระดับด้านสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลังที่มีชื่อว่า Milwaukee-Eight® 114 ทำให้ Street Bob 114 ขับขี่ได้อย่างว่องไว และมีกำลังของเครื่องยนต์ที่เหลือเฟือ ถึงแม้ว่า Street Bob 114 จะถูกเพิ่มสมรรถนะ และปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ Harley-Davidson ยังคงลักษณะดั้งเดิมของรถมอเตอร์ไซค์ Street Bob 114 ไว้อย่างครบถ้วน เช่น แฮนด์บาร์สไตล์ Mini-Ape และบังโคลนท้ายขนาดเล็ก
สำหรับรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Fat Boy® ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ Fat Boy® ยังคงได้รับความนิยม และเป็นรุ่นที่น่าจดจำของ Harley-Davidson การปรับสไตล์สำหรับปี 2564 นั้น Harley-Davidson ได้พยายามทำให้ Fat Boy® ดูโดดเด่นด้วยผิวโครเมียมแบบขึ้นเงาทั้งตัวเครื่องยนต์ ท่อไอเสีย ตัวถังด้านหน้า ขายึดบังโคลนหลัง และแผงหน้าปัด
สำหรับผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แบบทางไกลที่ต้องการสมรรถนะของรถที่มากขึ้น Harley-Davidson® Genuine Motor Parts & Accessories มีชุดอัพเกรด Milwaukee-Eight® Screamin' Eagle Stage® III สำหรับรุ่น Softail ซึ่งจะช่วยเพิ่มความจุของกระบอกสูบ และกำลังอัดเพื่อทำให้เครื่องยนต์เดิมมีแรงบิด และกำลังของเครื่องยนต์มากยิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์ตระกูลทัวริง โดดเด่นด้วยงานดีไซจ์น สบายในการขับขี่ ง่ายในการควบคุมรถ
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® ตระกูลทัวริงในปี 2564 ประกอบไปด้วย 3 รุ่น พิเศษ ได้แก่ Road King® Special, Road Glide® Special และ Street Glide® Special ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 114 อันทรงพลัง เสริมสมรรถนะให้เหมาะกับการขับขี่ทางไกลด้วยลักษณะตัวถังรถที่ต่ำ เพิ่มความดุดัน และน่าเกรงขามเมื่ออยู่บนท้องถนน ลูกเล่นที่โดดเด่นของรถตระกูลทัวริงในปี 2564 นี้ คือ สีสันของตัวถังรถ โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่น Street Glide® Special และ Road Glide® Special มาพร้อมกับสีแบบทูโทน และมีตัวเลือกพิเศษสำหรับสีดำด้านหรือสามารถเลือกแบบโครเมียมดั้งเดิม สำหรับรถรุ่น Road King® Special และ Street Glide® Special Harley-Davidson มีการเพิ่มเติมไฟหน้า Day Maker® LED ใหม่ เพื่อการส่องสว่างที่ดียิ่งขึ้น และให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ชัดเจน รถมอเตอร์ไซค์ทั้ง 3 รุ่นนี้มีการติดตั้งแผ่นกันกระแทกใต้ท้องเครื่องรุ่นใหม่เพื่อให้เหมาะสม และสะดวกต่อการขับขี่มากยิ่งขึ้น
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson ในตระกูลทัวริงทุกรุ่นมีระบบให้ข้อมูล และความบันเทิงแบบจอสีในระบบสัมผัส Boom!™ Box GTS ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับระบบ Android Auto™ และ Apple Car Play® ได้ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เพื่อความบันเทิง สตรีมิง การสื่อสาร การนำทางได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น และยังคงมีสมาธิกับการขับขี่ได้เป็นอย่างดี
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ ที่มาพร้อมกับระบบเสียงชั้นเลิศ
รถมอเตอร์ไซค์ Harley-Davidson® Custom Vehicle Operations™ หรือ CVO™ คือ รถมอเตอร์ไซค์ที่มีความสุดยอดในด้านรูปลักษณ์ การออกแบบ และมีการรวบรวมเทคโนโลยีชั้นสูง ชิ้นส่วนประกอบสุดพิเศษ
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO ปี 2564 มีทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่ CVO™ Street Glide®, CVO™ Road Glide®, CVO™ Limited และ CVO™ Tri Glide® ที่มาพร้อมกับสี และรูปลักษณ์ใหม่ให้เลือก โดยใช้ขุมพลังจากเครื่องยนต์ Milwaukee-Eight® 117 V-Twin ที่มีเฉพาะในรถมอเตอร์ไซค์แบบ CVO เท่านั้น และเป็นเครื่องยนต์ที่มีกำลังส่งมากที่สุดจาก Harley-Davidson
สำหรับปี 2564 รถมอเตอร์ไซค์รุ่น CVO™ Street Glide® และ CVO Road® Glide ได้ปรับเปลี่ยนระบบเครื่องเสียง Harley-Davidson® Audio ใหม่ทั้งระบบ โดยมีขุมกำลังอย่าง Rockford Fosgate ซึ่งเป็นระบบเครื่องเสียงที่ล้ำหน้าที่สุด ที่ผู้ขับขี่จะได้สัมผัส มีการออกแบบลำโพง และเครื่องขยายเสียงเป็นพิเศษสำหรับจักรยานยนต์ Harley-Davidson โดยเฉพาะซึ่งระบบเครื่องเสียง Harley-Davidson® Audio จะมีวางจำหน่ายที่ Harley-Davidson® Genuine Motor Parts & Accessories และสามารถใช้ได้กับรถ H-D® Touring ตั้งแต่รุ่นปี 2557 เป็นต้นไป ที่มีระบบให้ข้อมูลและความบันเทิง Boom!™ Box
รถมอเตอร์ไซค์ CVO™ ทุกรุ่นนั้นถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงเพื่อพัฒนาความรู้สึกในการขับขี่ให้ดีกว่าที่เคยเป็น โดยมีระบบ RDRS Safety Enhancements (ซึ่งก่อนหน้านี้เรียกว่า RDRS) เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกมั่นใจในการขับขี่มากกว่าเดิมเมื่ออยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือขับขี่บนสภาพถนนที่ไม่ได้มาตรฐาน
RDRS Safety Enhancementsประกอบด้วย Cornering Enhanced Electronic Linked Braking, Cornering Enhanced Antilock Braking System, Cornering Enhanced Traction Control System, Drag-Torque Slip Control System, Vehicle Hold Control และ Tire Pressure Monitoring System.
** วีดีโอไฮไลท์อีเวนท์งานเปิดตัวแบบเสมือนจริง https://bit.ly/2NhZobj
Harley-Davidson® Pan America™ (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน แพน อเมริกา) เปิดตัวพร้อมกันทั่วโลกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 รถมอเตอร์ไซค์ที่เหมาะสำหรับการเดินทางไกล และการผจญภัยใหม่ล่าสุดรุ่น Pan America™ 1250 ของ Harley-Davidson จะปลุกความตื่นเต้นจากผู้คนทั้งโลกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ด้วยการนำเสนอรายละเอียดทั้งหมดของรถมอเตอร์ไซค์ Pan America ในระบบดิจิทอลซึ่งจะจัดขึ้นเป็นพิเศษสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ Pan America เท่านั้น
** ลงทะเบียนร่วมงานเปิดตัวนี้ได้ทันทีที่ www.H-D.com/PanAmerica.