คลิพ "เรื่องรถเรื่องง่าย" ตอน เวลาเติมน้ำมัน...ทำไมต้องดับเครื่องยนต์ ?
เวลานำรถไปเติมเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน พนักงานบริการจะนำป้ายเตือนมาวางไว้บนฝากระโปรงรถ ถ้าสังเกตในป้ายจะเห็นเป็น "สัญลักษณ์ต่างๆ" ว่าให้ดับเครื่องยนต์, ห้ามใช้โทรศัพท์, ห้ามสูบบุหรี่ และห้ามก่อประกายไฟ เนื่องจากเรื่องเหล่านี้ ถือว่าเป็นกฎเหล็กเกี่ยวกับความปลอดภัยในสถานีบริการน้ำมัน ที่ใช้กันทั่วโลก แต่ผู้ใช้รถในบ้านเรายังละเลย และไม่ปฏิบัติตามสักเท่าไร เราไปทำความเข้าใจเรื่องนี้กัน ถ้าใครเป็นคนช่างสังเกต คงเคยเห็น “ไอน้ำมัน” ที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ ฝาเติมน้ำมันขณะทำการเติม เจ้าไอน้ำมันนี่แหละครับ คือ ตัวอันตรายที่อาจลุกไหม้ได้ถ้าเกิดความร้อนจากประกายไฟ ถึงแม้สถานีบริการน้ำมันบางที่ จะออกแบบให้มีจุกยางครอบฝาเติมน้ำมันเอาไว้ เพื่อป้องกันไอน้ำมันระเหยออกมา แต่สุดท้ายก็รั่วไหลได้อยู่ดี ถึงแม้จะมีปริมาณน้อย แต่ถ้าเข้าเงื่อนไขกฎการลุกไหม้ ที่มีเชื้อเพลิง (ไอน้ำมัน), อากาศ (ออกซิเจนในสัดส่วนที่พอเหมาะ) และอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้วละก็ ย่อมเกิดการลุกไหม้ได้อย่างแน่นอน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการลุกติดไฟของไอน้ำมัน เขาจึงออกกฎเหล็ก ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่สถานีบริการน้ำมันทั่วโลกต้องปฏิบัติตาม คือ 1. ต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้งขณะเติม เนื่องจากเราไม่รู้ว่าชิ้นส่วนไหนบ้างในรถ ที่อาจเกิดความบกพร่องจนเป็นสาเหตุให้เกิดความร้อนจนลุกไหม้ได้ 2. ห้ามสูบบุหรี่ขณะเติม เรื่องนี้ไม่บอกก็รู้ว่าบุหรี่ คือ ตัวต้นเหตุทำให้เกิดการลุกไหม้ ดังนั้นห้ามสูบในปั๊มน้ำมันไปเลยจะดีกว่า 3. ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติม ข้อนี้ดูเหมือนปลอดภัยที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงจากความร้อนของคลื่นไฟฟ้าอยู่ดี ตัวอย่างเช่น การลัดวงจรของแบทเตอรีในโทรศัพท์มือถือ ดังนั้นห้ามใช้โทรศัพท์เสียเลย จะดีที่สุดครับ 4. ห้ามก่อประกายไฟอย่างเด็ดขาด ห้ามก่อประกายไฟ วิธีนี้ถือเป็นการป้องกันไว้ก่อน ดังนั้น จึงอยากแนะนำให้ผู้ใช้รถ ที่กำลังเติมเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน ควรต้อง "ดับเครื่องยนต์" รวมถึงปฏิบัติตามกฎเหล็กทั้ง 4 ข้อ ทุกครั้งที่ใช้บริการ เพื่อความปลอดภัยของทุกๆ คนครับ