เจ้าตลาดรถกระบะอันดับ 1 อย่าง Ford (ฟอร์ด) ที่เพิ่งเปิดตัวรถพิคอัพขนาดใหญ่ พลังงานไฟฟ้า F-150 Lightning (เอฟ-150 ไลท์นิง) ไปไม่นาน อยู่ๆ ก็เห็นช่องว่างทางการตลาด จึงได้เปิดตลาดพิคอัพกลุ่มใหม่ Compact Pick-up ด้วยรถ Ford Maverick (มาเวอริค) เพื่อมาสู้กับผู้ท้าชิงอย่าง Hyundai Santa Cruz (ฮันเด ซันตา ครูซ) ที่กำลังได้รับความนิยม และเพิ่งเปิดตัวไปไม่นานFord กล่าวว่า รถรุ่นนี้เกิดมาตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ที่บุคลิกดูดี สามารถควบคุมการขับขี่ได้ยอดเยี่ยม พร้อมด้วยการบรรทุกผู้โดยสารได้ 5 คน ในรูปแบบกระบะ 4 ประตู ที่ใช้งานในเมืองได้อย่างคล่องตัว เพื่อให้คนที่ไม่เคยสนใจรถพิคอัพ หันกลับมามองรถกลุ่มนี้ Ford Maverick 2022 เป็นรถพิคอัพขนาดเล็ก ที่ใช้โครงสร้างแบบ Unibody (ต่างจากรถกระบะทั่วไป รวมถึง Ford Ranger (เรนเจอร์) ที่เป็น Body-On-Frame) หรือมีโครงสร้างแบบรถซีดาน ที่มีตัวถัง และแชสซีส์ เป็นชิ้นเดียวกัน Ford Maverick เป็นรถกระบะ 4 ประตู รูปทรงกล่อง ภายในห้องโดยสาร มีการออกแบบเส้นสายที่เรียบง่าย และสะอาดตา เน้นความสบายในการโดยสาร ห้องโดยสารกว้างขวาง ใต้เบาะนั่งหลังมีที่เก็บของที่จำเป็น ระบบ FITS (Ford Integrated Tether System) ให้ลูกค้าสามารถเลือกแต่งช่องวางที่เก็บของได้เอง หน้าจออินโฟเทนเมนท์ SYNC 3 ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมลำโพง 6 ตำแหน่ง ขณะที่รุ่น Lariat (รุ่นทอพสุด) ถูกอัพเกรดเป็นเครื่องเสียง B&O Sound System จาก Bang & Olufsen ที่มาพร้อมลำโพง 8 ตำแหน่ง และสามารถเชื่อมต่อกับ Fordpass Connect Wi-Fi เข้ากับระบบ Ford Co-Pilot 360 ของผู้ผลิตรถยนต์ได้ Ford Maverick มีความยาวตัวถัง 5,072 มม. (สั้นกว่า Ford Ranger 284 มม.) มีความกว้าง 1,844 มม. (สั้นกว่า 335 มม.) และสูง 1,744 มม. (เตี้ยกว่า 71 มม.) มาพร้อมกระบะท้ายขนาดความยาว 1,350 มม. กระบะตอนหลังเสริมด้วยการจัดระเบียบการเก็บของ Flexbed ที่มีช่องสำหรับวางแนวกั้นสำหรับจัดพื้นที่ในการใช้งานรูปแบบต่างๆ รวมถึงสามารถขึงเชือกเพื่อยึดรั้งสัมภาระขนาดใหญ่ และช่องจ่ายไฟขนาด 400 วัตต์ ด้วยแรงดัน 110 โวลท์ รองรับการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า บริเวณกระบะท้าย ขุมพลังของ Ford Maverick ใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด 2.5 ลิตร ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินกำลังสูงสุด 162 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 126 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 235 นิวตัน-เมตร ให้กำลังรวมสูงสุดทั้ง 2 ระบบ อยู่ที่ 191 แรงม้า ส่งกำลังไปยังล้อคู่หน้าด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT โดย Ford ระบุว่า สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทางราว 805 กม. ด้วยน้ำมัน 1 ถัง All-New Maverick จึงเป็นรถพิคอัพที่มีอัตราสิ้นเปลืองต่ำที่สุดในตลาด อยู่ที่ประมาณ 17 กม./ลิตร สำหรับการขับขี่ในเมือง และประมาณ 15.37 กม./ลิตร ในการใช้งานเฉลี่ย ตามมาตรฐาน EPA ความสามารถในการบรรทุก 600 กก. และลากจูงได้ 980 กก. นอกจากนี้ ยังมีเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost ขนาด 2.0 ลิตร ที่เน้นความพรีเมียมมากขึ้น ให้กำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ สามารถเลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อ สามารถลากจูงได้ 1,800 กก. กระบะท้ายแบบ Flex Bed มาจากการศึกษาพฤติกรรมลูกค้า ที่มีการใช้งานหลากรูปแบบ กระบะ Ford Maverick สามารถจัดแบ่งได้ตามต้องการ ด้วยอุปกรณ์ง่ายๆ ที่สามารถซื้อได้จากร้านขายวัสดุก่อสร้างทั่วไป ทำให้ลูกค้าสามารถแบ่งช่องในกระบะเพื่อใช้งานได้หลายรูปแบบตามความต้องการ มีแพคเกจ FX4 แบบออฟโรดเป็นอุปกรณ์เสริมใน Mavericks แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ EcoBoost Maverick FX4 มาพร้อมยางสำหรับทุกสภาพภูมิประเทศ ระบบกันสะเทือนหลังที่ปรับปรุงใหม่ หม้อน้ำความจุสูง และพัดลมระบายความร้อนที่ได้รับการอัพเกรด แผ่นกันกระแทก ตะขอลากพ่วงด้านหน้าแบบเปลือย โหมดการขับขี่แบบออฟโรด และทางลงเขาควบคุม มาพร้อมระบบช่วยเหลือการขับขี่ ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control with Stop-and-go) ทำงานคู่กับระบบช่วยประคองรถให้อยู่กลางเลน (Lane Centering), ระบบป้องกันรถออกนอกเลน (Lane-keeping System), ระบบป้องกันการชน (Pre-collision Assist with Automatic Emergency Braking), ระบบเตือนจุดอับสายตา (BLIS) พร้อมระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านขณะถอยหลัง (Cross-traffic Alert) และไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam) เป็นต้น Ford Maverick เปิดตัววางจำหน่ายด้วยราคาเริ่มต้นที่ราว 19,995 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 650,000 บาท ในรุ่นมาตรฐานเครื่องยนต์ไฮบริด สามารถสั่งจองได้ทันที โดยเริ่มส่งมอบในไตรมาส 3 นี้ ในสหรัฐอเมริกา