เชฟรอน (ไทย)ฯ ผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Caltex (คาลเทกซ์) ผนึก EA Anywhere เติมเต็มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ขยายบริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ในสถานีบริการน้ำมัน Caltex รองรับความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตในไทย สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และชิ้นส่วนที่สำคัญของโลก
อลิซ พอตเตอร์ ประธานกรรมการ และผู้จัดการใหญ่ บริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle-EV) ในประเทศไทย มีแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง คณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ยังได้วางเป้าหมายการส่งเสริมการผลิต และการใช้รถยนต์ไฟฟ้า รวมทุกประเภทในปี 2568 จำนวนทั้งสิ้นถึง 1.05 ล้านคัน ซึ่งบริษัทฯ ตระหนักถึงแนวโน้มความเติบโตดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ในการสานต่อเพื่อขยายการติดตั้งบริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าในสถานีบริการน้ำมัน Caltex เพิ่มทางเลือกด้านผลิตภัณฑ์ และเติมเต็มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้รถ ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถรองรับความต้องการของผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ภายใต้เป้าประสงค์ของ เชฟรอน (ไทย)ฯ ในการส่งมอบพลังงานที่สะอาด ด้วยคุณภาพที่น่าเชื่อถือ และในราคาที่ผู้บริโภคเข้าถึงได้
การติดตั้งสถานีประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ในสถานีบริการน้ำมัน Caltex ถือเป็นโอกาสในการให้บริการเสริมด้านพลังงานทางเลือกให้แก่ผู้ขับขี่รถยนต์ โดยผสานความร่วมมือกับ EA Anywhere ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ Smart Partnership เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนของ Caltex โดยนับถึงปัจจุบัน ได้ดำเนินการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ในสถานีบริการน้ำมัน Caltex ไปแล้ว 9 แห่ง ได้แก่ สถานีบริการน้ำมัน Caltex สาขา ไฮเทกซ์ เพชรพระเทพ (บจก. ไฮเท็กซ์ เพชรพระเทพ) จังหวัดกรุงเทพฯ สาขาลาดกระบัง (บจก. เจ้าคุณ ออยล์) จังหวัดกรุงเทพฯ สาขารามอินทรา (บจก. ขั้นเทพ เพอร์ฟอร์แมนซ์) จังหวัดกรุงเทพฯ สาขาบางนา-ตราด (บจก. สตาร์ เอ็นเนอร์จี เซอร์วิส) จังหวัดสมุทรปราการ สาขาเทพารักษ์ (บจก. ไทยสัมพันธ์ปราการ) จังหวัดสมุทรปราการ สาขาปากเกร็ด (บจก. สินทรัพย์มงคลชัย) จังหวัดนนทบุรี สาขานาจอมเทียน (บจก. สตาร์ จอมเทียน 2020) จังหวัดชลบุรี สาขาบางม่วง (หจก. เกษตรพัฒนา 1993) จังหวัดนครสวรรค์ สาขาพิชัย (หจก. ซี.เค.ซี. บิสซิเนส กรุ๊ป สาขา 2) จังหวัดลำปาง และมีแผนที่จะเปิดให้บริการภายในสถานีบริการน้ำมัน Caltex สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมอีกให้ครบ 20 แห่งภายในปี 2564 เพื่อขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ทางบริษัทฯ ยังคงไม่หยุดยั้งในการศึกษาเรียนรู้ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ และคุณภาพงานบริการเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทย ซึ่งการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere จะสะท้อนความสะดวก ทันสมัย และสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้องค์ประกอบแบบ Smart ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างของสถานีบริการน้ำมัน Caltex รูปโฉมใหม่ เพื่อสร้างคุณค่าที่ประทับใจควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง
สมบัติ วัฒนหงษ์ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการตลาด บริษัท พลังงานมหานคร จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ และขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า พร้อมบริการด้านธุรกิจ EV อย่างต่อเนื่อง จากแนวคิดที่จะนำพาให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเดินทางด้วยยานยนต์พลังงานไฟฟ้าที่มีความสะดวกสบาย ประหยัด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สำหรับความร่วมมืออย่างต่อเนื่องนี้ จะช่วยผลักดันให้บรรลุเป้าหมายในการให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ทันสมัย และปลอดภัย ภายใต้เครื่องหมายการค้า “EA Anywhere” และได้พัฒนาโมบายล์ แอพพลิเคชัน เพื่อรองรับการใช้งาน (จอง จ่าย ชาร์จ ใน แอพเดียว) โดยเรามีความพร้อมอย่างยิ่งที่จะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการเดินทาง ด้วยการมีสถานีอัดประจุไฟฟ้าติดตั้งในพื้นที่ที่มีความหลากหลาย รองรับรูปแบบการใช้ชีวิตได้มากขึ้น ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถเข้ารับบริการได้ตามไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร อาทิ สถานีบริการน้ำมัน ศูนย์บริการด้าน ยานยนต์ ศูนย์การค้า และร้านอาหารต่างๆ เป็นต้น
สถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere ในสถานีบริการน้ำมันCaltexประกอบไปด้วย เครื่องชาร์จระบบปกติ AC (Normal Charger) และระบบชาร์จเร็ว DC (Fast Charge) ที่ใช้เวลาเพียง 15-20 นาที (เวลาในการชาร์จขึ้นอยู่กับรถแต่ละรุ่น) รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการด้วยโมบายล์ แอพพลิเคชัน “EA Anywhere” บนมือถือทั้งในระบบปฏิบัติการ IOS และ Android ระบบออนไลน์ที่สามารถแสดงตำแหน่งที่ตั้งของสถานีบริการ การนำทาง และการชำระค่าบริการ รวมถึงการอธิบายวิธีการ และขั้นตอนการชาร์จที่ง่ายต่อการเข้าใจ สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย
“เราศึกษาพฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาพัฒนาเป็นบริการที่ตอบโจทย์การใช้งาน พร้อมกับสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าอยู่เสมอ รวมทั้งเกิดการบูรณาการขับเคลื่อนการดำเนินงานด้านยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทยให้เป็นรูปธรรม และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พร้อมนำพาประเทศก้าวสู่การใช้พลังงานสะอาด ที่สอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐ”