Royal Enfield (รอยัล เอนฟิลด์) เผยโฉม 2 รถจักรยานยนต์คัสตอมใหม่สุดเท่ จาก K-Speed และ Zeus สำนักแต่งรถระดับประเทศ โดยรถทั้ง 2 คัน ใช้รถ Royal Enfield Meteor 350 (รอยัล เอนฟิลด์ เมทีออร์ 350) ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย คือ โมเดลพื้นฐานสำหรับการคัสตอม ที่ K-Speed และ Zeus ตั้งใจสร้างประสบการณ์การขับขี่รถจักรยานยนต์คัสตอมที่แตกต่าง ไม่เหมือนใคร เพื่อให้เป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่ต้องการสัมผัสความสุขในการขับขี่รถจักรยานยนต์ที่แท้จริง
วิมัล ซัมบลีย์ หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค Royal Enfield กล่าวว่า รถจักรยานยนต์คัสตอมที่ถูกเปิดตัวในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ตอกย้ำว่ารถจักรยานยนต์ Royal Enfield เป็นรถที่เหมาะสมสำหรับการแต่ง ซึ่งประเทศไทยยังคงเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้ เรายังคงส่งเสริมการให้บริการในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านรถจักรยานยนต์ การขยายเครือข่าย เครื่องแต่งกาย หรือชุดอุปกรณ์เสริมสำหรับรถจักรยานยนต์ของแท้ ดังนั้นเราจึงมีกลุ่มของนักขับขี่ผู้หลงใหลในการปรับแต่งรถจักรยานยนต์เพื่อบ่งบอกความเป็นตัวเองของผู้ขับขี่ ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่าย รถจักรยานยนต์ Royal Enfield จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการแสดง ออกถึงความสร้างสรรค์ และเอกลักษณ์เฉพาะตัวของนักคัสตอมทั่วโลก นอกเหนือจากด้านความสวยงามแล้ว Royal Enfield ยังคำ นึงถึงสมรรถภาพของรถอีกด้วย เรามีรถจักรยานยนต์คัสตอมมากกว่า 25 แบบในประเทศไทย และเราเชื่อว่าโครงการคัสตอมของเราจะเปิดโอกาสให้นักคัสตอมได้ค้นหาความสร้างสรรค์ในตัวเอง รวมทั้งยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักคัสตอมในท้องถิ่น และผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์อีกด้วย
Adrian Sellers ผู้จัดการ และหัวหน้าฝ่ายโครงการคัสตอม Royal Enfield กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นอีกประเทศที่เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาการคัสตอมรถจักรยานยนต์มากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งแบบเต็มรูปแบบ หรือการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย รถจักร ยานยนต์ทุกคันที่นี่ถูกปรับแต่งเพื่อให้สะท้อนถึงบุคลิกภาพของผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี นับเป็นความโชคดีของ Royal Enfield ที่ได้มีโอกาสผลิตรถจักรยานยนต์ที่สามารถปรับแต่งได้มากที่สุดในโลก เนื่องจากโครงสร้างที่เรียบง่ายซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการตกแต่งรถของตัวเอง เมื่อเราได้เปิดตัว Meteor 350 เรารู้ดีว่างานปรับแต่งชิ้นแรกๆ นั้นจะต้องมาจากประเทศ ไทย และความน่าตื่นเต้น คือ การได้ร่วมงานกับ K-speed และ Zeus อีกครั้ง ซึ่งทางเราได้มีโอกาสร่วมงานกับนักคัสตอมฝีมือเยี่ยมทั้ง 2 ท่านมาก่อนตอนทำ Twins Platform เราให้ความสนใจกับสิ่งที่ 2 นักคัสตอมลงมือทำกับเครื่องยนต์ 350 ใหม่ และผลลัพธ์นั้นก็บ่งบอกถึงฝีมือของพวกเขา เป็นการนำเสนอแนวคิด "Easy Cruising" ของรถโมเดลพื้นฐาน Meteor 350 แต่เต็มไปด้วยลักษณะที่โดดเด่น ซึ่งแต่ละคันนั้นบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของนักคัสตอม และศักยภาพชั้นเยี่ยมของ Meteor
K-Speed: "Diablo" The Chopper
Meteor เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้น K-Speed จึงรักษาเส้นสาย และ DNA ที่สำคัญของตัวรถเอาไว้โดยทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยแต่โดดเด่น ซึ่งทำให้ "Diablo" The Chopper ออกมาดูต่างจากรถจักรยานยนต์ประเภท Chopper (ชอพเพอร์) คันอื่น การเลือกใช้ตัวถัง ฝาครอบด้านข้าง ชอคอับคู่หน้า และขอบล้อที่เป็นของเดิมตอกย้ำให้เห็นว่า Meteor นั้นเหมาะสำหรับการคัสตอมที่ไม่หนักแต่แฝงไปด้วยความน่าค้นหา นอกจากนี้ท่อไอเสียก็เป็นอีกชิ้นส่วนที่สร้างขึ้นเป็นพิ เศษที่น่าสนใจของ Diablo เพื่อให้เข้ากันกับเส้นสายที่เป็นเอกลักษณ์ของเฟรม และตัวรถ เสริมให้ Meteor คัสตอมคันนี้เป็น Chopper ที่ดูสะดุดตามากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างชิ้นส่วนประกอบที่สำคัญ ได้แก่ ไฟหน้า LED แบบคัสตอม และแฮนด์บาร์พร้อมสวิทช์ และมือจับสไตล์เรทโร คลัทช์ และแม่ปั๊มเบรค Takegawa ถังเชื้อเพลิงโครเมียม เฟรมด้านหลังถูกตัดให้สั้นลง พร้อมเบาะหนังแท้เย็บมือ และบังโคลนหลังแบบ Bobbed แบบลอยตัว
Zeus: "KHUN" The Brat Bob
“ขุน” ได้แรงบันดาลใจในการแต่งมาจากรถจักรยานยนต์สไตล์ต่างๆ ซึ่งสุดท้ายแล้วมารวมกันเป็นรูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร และบ่งบอกถึงความเป็นรถจักรยานยนต์สไตล์ Brat (บแรท) ได้เป็นอย่างดี ในครั้งนี้ Meteor ถูกนำมาใช้เป็นต้นแบบเพื่อแสดงถึงความหลากหลายในการใช้งาน และการเลือกใช้จำนวนชิ้นส่วนของตัวรถที่เป็นของเดิมน้อยกว่าชิ้นส่วนที่คัสตอมขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ
แฮนด์บาร์ถูกลดระดับลงเพื่อให้ตัวรถดูสปอร์ทมากขึ้น ไฟหน้าเลนส์สีเหลืองขนาด 6 นิ้ว ให้ความรู้สึกเรทโร ส่วนชอคหน้า และสปริงถูกตัดให้เตี้ยลงเพื่อให้ตัวรถดูแคบลงสะท้อนถึงความคลาสสิคอย่างเต็มที่ ขณะที่ขอบซี่ลวดแบบคลาสสิคช่วยเพิ่มความย้อนยุค ไฟหน้า และไฟท้ายมีขนาดเล็ก และดูมีนีมอล ทำให้รูปลักษณ์โดยรวมของตัวรถดูเรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเท่
การใช้ทองเหลืองสีเข้ม (โลหะที่ใช้กันทั่วไปในงานหัตถกรรมไทย) ช่วยเพิ่มความเป็นไทยให้มากขึ้น ส่วนสี และการตกแต่งก็สร้างความรู้สึกหรูหรา น่าดึงดูดใจ ที่พักเท้าถูกย้ายมาข้างหลังเพื่อให้ท่านั่งมีความเท่มากขึ้น และเหมาะสมกับสไตล์ Brat ได้ดี ขณะที่ชอคหลังถูกตั้งความสูงไว้ที่ 350 มม. เพื่อให้จักรยานยนต์มีความสมดุลย์มากขึ้นในขณะขับขี่ ท่อไอเสียทรงโค้งขึ้นงานโดย Zeus เอง ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้สื่อถึงความเป็น Zeus Customs ได้อย่างเต็มที่