NIO ประเทศจีน ค่ายสตาร์ทอัพรถพลังงานไฟฟ้าที่ร้อนแรงที่สุดในยุคนี้ และประสบผลสำเร็จทางธุรกิจ โดยใน 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถเปิดตัวรถไฟฟ้าได้ถึง 5 รุ่น นับว่าน่าประทับใจสำหรับบริษัทที่เริ่มธุรกิจมาไม่นาน รถของ NIO ประกอบไปด้วย ครอสส์โอเวอร์ 3 รุ่น ซีดานขนาดใหญ่ และไฮเพอร์คาร์NIO ที่วางตลาดอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ EC6 ครอสส์โอเวอร์ คูเป, ES6 ครอสส์โอเวอร์ขนาดกลาง, ES8 ครอสส์โอเวอร์ขนาดใหญ่ และ ET7 เรือธงของค่าย จะเปิดตัวที่ประเทศจีนประมาณต้นปี 2565 จากนั้นบริษัทจะเปิดตัวรุ่นที่ 6 คือ NIO ET5 ที่มุ่งเน้นทำยอดขายให้ได้จำนวนมาก ด้วยรถหรูขนาดกลาง จึงอยู่ในระดับเดียวกันกับ Tesla Model 3 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ NIO ET5 มีรูปทรงของ NIO ET7 ที่ย่อขนาดลงมา ด้วยรูปทรงที่ปราดเปรียว ออกแบบโดยเน้นหลักอากาศพลศาสตร์ และประสิทธิภาพการขับเคลื่อนสูง มีบางส่วนที่แตกต่างไป คือ ด้านหน้ารถติดตั้งชุดไฟตัดหมอกที่ยาวกว่า และมีช่องดักลมบริเวณมุมรถ ท้ายรถมีรูปทรงค่อนข้างโค้งมน และสั้นกว่า บนหลังคาจะเผยให้เห็น “พอด” ซึ่งเป็นที่อยู่ของระบบช่วยการขับขี่แบบกี่งอัตโนมัติ มิติของ NIO ET5 มีความยาว 4,790 มม. (188.6 นิ้ว) ความกว้าง 1,960 มม. (77.1 นิ้ว) ความสูง 1.498 มม. (59 นิ้ว) ความยาวฐานล้อ 2,888 มม. (113.7 นิ้ว) จากข้อมูลทั้งหมดนี้ คงไม่น่าแปลกใจที่ NIO ET5 จะเป็นรถคอมแพคซีดานหรู ที่โอ่อ่ากว้างขวางที่สุดในขณะนี้ ภายในไม่ต่างไปจากรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ ที่ปราศจากปุ่มควบคุม แต่จะมีหน้าจอสัมผัสเข้ามาทำหน้าที่แทน บริเวณคอนโซลกลางจะเป็นจอระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ พร้อมจอแบนขนาด 10.5 นิ้ว ทำหน้าที่ควบคุมระบบต่างๆ ภายในห้องโดยสาร มีระบบแสงที่แสดงสีได้ถึง 256 สี ติดตั้งระบบความบันเทิง พร้อมเครื่องเสียง และระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos 7.1.4 ผู้โดยสารของ NIO ET5 จะดื่มด่ำกับความบันเทิง ด้วยระบบ Pano Cinema พร้อมกับระบบ AR (Augmented Reality) และ VR (Virtual Reality) ผ่านแว่น AR ซึ่งผลิตโดย NREAL ที่เป็นบริษัทคู่ค้าของบริษัท นิโอ ด้วย NIO ET5 ใช้ระบบส่งกำลังมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ให้กำลังสูงสุด 483 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 71.3 กก.-ม. มีแบทเตอรีให้เลือก 3 ความจุ ตามลักษณะการใช้งาน ได้แก่ 75 กิโลวัตต์ชั่วโมง, 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง และ 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง NIO ET5 สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 4.3 วินาที แบทเตอร์รี 3 ขนาด ทำให้วิ่งได้ 550 กม. ด้วยแบทเตอรี 75 กิโลวัตต์ชั่วโมง, วิ่งได้ 700 กม. ด้วยแบทเตอรี 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง และวิ่งได้ 1,000 กม. ด้วยแบทเตอรี 150 กิโลวัตต์ชั่วโมง บริษัทจะส่งมอบ NIO ET5 ให้แก่ลูกค้าได้ ภายในเดือนกันยายน 2565 โดย NIO ET5 มีราคา 1.7 ล้านบาท (328,000 หยวน) นอกจากการวางตลาดในจีน และประเทศนอร์เวย์ ทางบริษัทมีแผนจะขาย NIO ET5 ในเยอรมนี เนเธอร์แลนด์ สวีเดน และเดนมาร์ค ในปี 2565 แต่ยังไม่มีแผนการวางตลาดในสหรัฐฯ