ทดลองขับ
Mazda CX-30 รุ่น Prime รุ่นเริ่มต้นใหม่ที่มาพร้อมราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ราคา 899,000 บาท

Mazda CX-30 (มาซดา ซีเอกซ์-30) หนึ่งใน 3 โมเดลของ Mazda Essential Collection (มาซดา เอสเซนเชียล คอลเลคท์ชัน) ที่ไลน์อัพใหม่ บนเทคโนโลยี Skyactiv
จากเดิม 4 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น C ราคา 989,000 บาท รุ่น S ราคา 1,099,000 บาท รุ่น SP ราคา 1,199,000 บาท และรุ่น Carbon Edition ราคา 1,211,000 บาท
Mazda ได้มีการปรับเพิ่มออพชัน และฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกรุ่น พร้อมเปิดรุ่น Prime รุ่นเริ่มต้นใหม่ที่มาพร้อมราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ราคา 899,000 บาท
Mazda ได้มีการปรับเพิ่มออพชัน และฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นทุกรุ่น พร้อมเปิดรุ่น Prime รุ่นเริ่มต้นใหม่ที่มาพร้อมราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ราคา 899,000 บาท
มิติ และน้ำหนัก
ยาว/กว้าง/สูง (มม.) 4,395/1,795/1,540
ช่วงล้อ หน้า/หลัง (มม.) 1,565/1,565
ฐานล้อ (มม.) 2,655
ไฟหน้าพโรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิด และปรับสูง-ต่ำอัตโนมัติ
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
ภายในตกแต่งต่างไปจากรุ่นอื่นๆ ด้วยการใช้วัสดุสีน้ำเงิน/ดำ แทนสีน้ำตาล/ดำ และเบาะหุ้มผ้าสีดำ แทนการหุ้มหนังสีดำ
หน้าจอสี Center Display แบบ Wide Screen ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander รองรับ Apple Car Play และ Android Auto
หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า Windshield Active Driving Display ที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้าปรับอัตโนมัติ และที่ปัดน้ำฝนกระจกหลัง กุญแจนิรภัย Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย Burglar Alarm ระบบลอค และปลดลอคประตูอัตโนมัติ
เบาะนั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้าปรับได้ 6 ทิศทาง
พนักพิงด้านหลังพร้อมที่วางแก้ว พนักพิงเบาะหลังพับได้แบบ 60:40
กล้องมองหลัง พร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0 ลิตร 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวทันเมตร รองรับน้ำมัน E85 ประหยัดน้ำมันสูงสุด 15.4 กม./ลิตร มาพร้อมระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง GVC Plus เบรคมือไฟฟ้า พร้อม Auto Hold
ส่วนผลการขับขี่และใช้งาน รุ่น Prime ที่มีราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น (ราคา 899,000 บาท) ประหยัดลงไปถึง 90,000 บาท เมื่อเทียบกับรุ่นเริ่มต้นเมื่อปีที่แล้ว
ช่วงล่างยังคงเน้นแน่นหนึบ ควบคุมง่าย นั่งสบายดีกว่า CX-3 ก็น่าจะตอบสนองความต้องผู้ที่กำลังมองหาครครอสส์โอเวอร์ ทรงสปอร์ท ส่วนเรื่องสมรรถนะและความประหยัด เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ตัวนี้ มีทั้งกำลังต้นถึงปลาย แต่อัตราสิ้นเปลือง 15-17 กม./ลิตรใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ 1.5-1.6 ลิตร
CX-30 ยังมีรุ่น Ultra ปรับอุปกรณ์ และฟังค์ชันจากรุ่น C ราคา 999,000 บาท
มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งได้ 2 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ Smart Keyless Entry ระบบควบคุมความเร็วคงที่ (Cruise Control) ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
พร้อมกล้องมองหลัง และเซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
CX-30 รุ่น Signature เพิ่มอุปกรณ์ และฟังค์ชันจากรุ่น S ราคา 1,099,000 บาท
ไฟหน้าพโรเจคเตอร์แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lamp) แบบ LED Signature
หลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า ไฟท้ายแบบ LED Signature กระจังหน้า และวัสดุตกแต่งเสาประตูด้านนอกสีดำเพียโน มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว
พวงมาลัย Sports Paddle Shift ขับสนุกด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ เรียบหรูด้วยเบาะหนังสีดำ และระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 12 ตำแหน่ง
และมอบความมั่นใจในทุกการขับขี่กับเทคโนโลยีความปลอดภัย I-ACTIVSENSE ครบครัน อาทิ ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM
ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง RCTA, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ MRCC, ระบบเตือนเมื่อมีรถเบี่ยงออกนอกเลน LDWS
ระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ HBC ระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS และระบบควบคุมความเร็ว และพวงมาลัยตามรถคันหน้า CTS เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบแสดงภาพ 360 องศารอบทิศทาง และกล้องมองหลังพร้อมเส้นกะระยะขณะถอยหลัง
Mazda CX-30 มาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 6 สี ประกอบด้วย แดง บรอนซ์ เทา (Machine Gray) เทา (Polymetal Gray) ดำ และขาว