X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ธุรกิจ
29 Sep 2022
ขับไม่เสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุขับรถกลางคืน
ช่วงเวลากลางคืนถือเป็นชั่วโมงอันตรายของการขับขี่ การขับรถกลางคืนหลังกลับจากสังสรรค์ หรือเดินทางไกลข้ามจังหวัดมักจะมีความเสี่ยงหลากหลายประการ อ้างอิงจากค่าสถิติอุบัติเหตุทางถนนของศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายในช่วงปี 2562-2564 เทียบ 3 ปี มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นมากที่สุดในช่วงเวลา 18.00-22.00 น. มีอัตราสูงถึง 21.20 % และในช่วงเวลา 22.00- 02.00 น. มีอัตรา 19.95 % มารู้จักความเสี่ยงที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของการขับรถตอนกลางคืน รวมถึงอัพเดทบทลงโทษตามกฎหมายหากเมาแล้วขับ เพื่อให้ทุกคนสามารถ “ขับไม่เสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุขับรถกลางคืน” ขับขี่ได้อย่างปลอดภัย
ขับรถกลางคืน เสี่ยงจากสาเหตุอะไรบ้าง
ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง
สาเหตุ: การขับรถกลางคืนจะส่งผลให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง ซึ่งรวมถึงการรับรู้ความใกล้ไกล การแยกสีต่างๆ การมองเห็นรอบข้าง และตาพร่ามัวชั่วคราวเนื่องจากไฟสูง นอกจากนี้ ยังมีอาการที่เรียกว่ามองไม่ชัดตอนกลางคืน ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจในการขับขี่ คำแนะนำ: ควรขับให้ช้าลง และเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น หมั่นทำความสะอาดของกระจกรถยนต์ทั้งด้านใน และด้านนอก เพื่อให้มองเห็นเส้นทาง และเหตุการณ์รอบตัวได้ชัดเจนมากขึ้น และหากสวมแว่น ควรเลือกเลนส์ลดการสะท้อน และป้องกันแสงจ้า
ชั่วโมงเร่งด่วน และความเหนื่อยล้า
สาเหตุ: การขับรถช่วงกลางคืนหลังจากทำงานมาทั้งวัน อาจมีอาการเหนื่อยล้า ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการขับขี่อย่างปลอดภัย โดยอาการที่เกิดจากความเหนื่อยล้าขณะขับรถ อาจรวมถึงสูญเสียความตื่นตัว หาว และหากมีอาการอ่อนเพลียมาก อาจหลับใน และนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุได้ คำแนะนำ: ถ้าง่วงควรพักแวะข้างทาง หรือควรหลีกเลี่ยงการขับรถโดยเด็ดขาด หากยังไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ หรือหากจำเป็นต้องเดินทาง ควรมีผู้ร่วมสัญจรที่สามารถช่วยขับผลัดเปลี่ยนกันได้
การเสียสมาธิระหว่างขับรถตอนกลางคืน
สาเหตุ: การขับรถกลางคืนจำเป็นต้องโฟคัสมากกว่าเดิม ผู้ขับขี่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้เสียสมาธิ หรือรู้สึกว่าเบี่ยงเบนความสนใจได้ เช่น การใช้โทรศัพท์ระหว่างขับขี่ หรือเปิดแสงจากโทรศัพท์สว่างจ้าเกินไป เพราะจะทำให้ผู้ขับขี่ไม่ระวังต่อสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว คำแนะนำ: หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์ ทานอาหาร ใส่เสื้อผ้า หรือแต่งหน้า ถ้าหากเป็นไปได้ ควรปิดการแจ้งเตือนโทรศัพท์ขณะขับขี่ เพิ่มความสนใจต่อเหตุการณ์รอบตัว และขับรถด้วยความระมัดระวัง
การขับรถขณะมึนเมา
สาเหตุ: การขับรถขณะมึนเมา ส่งผลให้การตอบสนองของร่างกายต่อเหตุการณ์ต่างๆ ช้าลงอย่างเห็นได้ชัด และส่งผลต่อการตัดสินใจ อย่างเช่น การเหยียบเบรคช้าลง เป็นต้น ความไม่พร้อมของผู้ขับขี่เป็นเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุ ที่สำคัญ คือ หากเกิดอุบัติเหตุเพราะเมาแล้วขับ บริษัทประกันบางรายยังไม่คุ้มครองอีกด้วย คำแนะนำ: เมื่อจำเป็นต้องขับรถกลางคืน ควรขับไม่เสี่ยง เลี่ยงไม่ดื่ม เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งตัวเอง และเพื่อนร่วมทางบนท้องถนน ยิ่งเข้าช่วงปลายปี ที่ผู้คนมักออกมาสังสรรค์ ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง ถ้าหากต้องขับรถ ควรเลือกเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล เช่น เครื่องดื่ม Heineken 0.0 เครื่อมดื่ม Molt ไม่มีแอลกอฮอล ให้ได้สังสรรค์ได้อย่างสนุกเต็มที่ แม้ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล
ขับไม่เสี่ยง เลี่ยงไม่ดื่ม
คำว่า “เมา” ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรู้สึก เพราะกฎหมายได้กำหนดปริมาณแอลกอฮอลในเลือดไว้ไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ขับขี่อายุไม่เกิน 20 ปี ไม่เช่นนั้นจะถือว่าเมาแล้วขับ ส่วนคนที่มีอายุเกิน 20 ปี ต้องมีปริมาณแอลกอฮอลในเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เทียบเท่าประมาณเบียร์ 1 กระป๋อง หรือสุราไม่เกิน 3 ฝา หากเกินกว่านี้จะถือว่าเมาสุรา เมื่อ “เมาสุรา” ตามกฎหมายเมาแล้วขับ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน หากเลี่ยงไม่เป่าวัดระดับแอลกอฮอล มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000-200,000 บาท ล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 พรบ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) กำหนดโทษกรณีเมาแล้วขับ ถ้าทำผิดครั้งแรก จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ทำ ความผิดครั้งแรก จำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับ 50,000-100,000 บาท (ศาลจะลงโทษจำคุก และปรับด้วยเสมอ)
หากเมาแล้วขับ แล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุ
ผู้อื่นบาดเจ็บ มีโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท ระงับใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี ผู้อื่นบาดเจ็บสาหัส มีโทษจำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท ระงับใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 2 ปี ผู้อื่นเสียชีวิต มีโทษจำคุก 3-10 ปี ปรับ 60,000-200,000 บาท พร้อมเพิกถอนใบขับขี่ ความเสี่ยงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงกลางคืนที่ผู้ใช้รถใช้ถนนอาจมีสภาพไม่พร้อม มาร่วมกันรณรงค์ ขับไม่เสี่ยง เลี่ยงไม่ดื่ม เพื่อความปลอดภัยของตนเอง และผู้อื่นในทุกๆ วัน เสริมสร้างการขับขี่อย่างมีความรับผิดชอบ ทำให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้น
อ่านต่อ
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิต
คอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/online/422986
แชร์บทความ
คำค้นหา
ขับไม่เสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุขับรถกลางคืน
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ธุรกิจ
ธุรกิจ
2 May 2024
BMW Motorrad ส่งมอบ BMW CE 02 แก่ลูกค้าเป็นประเทศแรกในโลก
ธุรกิจ
2 May 2024
ตลาดรถยนต์ไตรมาสแรกลดลง 24.6 %
ธุรกิจ
2 May 2024
IMC สื่อสากล เซ็นสัญญาร่วมธุรกิจแอกซ่าประกันภัยฯ