Prius ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน มีพลังเพิ่มขึ้นถึง 15 % ส่งพลังขับเคลื่อนไปยังล้อหน้าด้วยกำลังสุทธิ 194 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ได้ภายใน 7.2 วินาที โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลงเฉลี่ยในรุ่นเริ่มต้น (ขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า) อยู่ที่ 24.2 กม./ลิตร ในขณะที่ Prius รุ่นปี 2565 ที่ทำได้ 22.1 กม./ลิตร
Toyota ได้นำเสนอ Prius ใหม่ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อคู่หลัง เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ไฮบริด ให้กำลังสุทธิ 196 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 7.0 วินาที
Prius Prime พร้อมระบบพลัก-อิน ไฮบริด นับว่าเป็นรุ่นที่ร้อนแรงที่สุด ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ความจุ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี ให้กำลังสุทธิ 220 แรงม้า อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 6.6 วินาที สำหรับการทำระยะเดินทางด้วยไฟฟ้าล้วน รุ่นเดิมทำได้ 40 กม. ส่วนรุ่นใหม่ทำได้มากกว่าถึง 50 % ทำระยะเดินทางด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ได้ 60 กม. ทั้งยังสามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพิ่มได้อีกด้วย
Toyota Prius ในสหรัฐฯ จะมีทั้ง Prius และ Prius Prime โดยมีให้เลือก 3 ระดับ โดยรุ่นไฮบริดจะแบ่งเป็น LE, XLE และ Limited ส่วนรุ่น พลัก-อิน จะมี SE, XSE และ XSE Premium ในรุ่นสูงสุดติดตั้งจอมัลทิมีเดียแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว (พร้อมการอัพเดท OTA) ระบบเครื่องเสียงติดตั้งลำโพง JBL ระดับพรีเมียม 8 ตำแหน่ง และเบาะหน้ามีระบบเพิ่มอุณหภูมิ และระบบถ่ายเทอากาศด้วย
ในระดับกลางของทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งล้อขนาด 19 นิ้ว มีที่วางแก้วอีก 2 ตำแหน่ง กระจกมองหลังปรับแสงอัตโนมัติ และแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ส่วนรุ่นเริ่มต้นติดตั้งล้อขนาด 17 นิ้ว พร้อมจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 8.0 นิ้ว พร้อมระบบ Toyota Safety Sense ที่เป็นมาตรฐานให้กับทุกรุ่น สำหรับราคาจำหน่ายจะมีการประกาศให้ทราบภายหลัง

