เรื่องน่ารู้
Mitsubishi Ralliart แรงไม่หยุดใน Asia Cross Country Rally 2022
Team Mitsubishi Ralliart ภายใต้การสนับสนุนด้านเทคนิคจาก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ฯ สู้ศึกการแข่งขันรายการ Asia Cross Country Rally 2022 ด้วย Mitsubishi Triton Rally Car ทั้งหมด 3 คัน ในรุ่น T1 (รถแข่งแบบ Cross Country รุ่น Prototype) เริ่มระเบิดความมันตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน
Mitsubishi Triton Rally Car
ความยาว 5,300 มม.
ความกว้าง 1,815 มม.
ระยะฐานล้อ 3,000 มม.
ช่วงล้อ หน้า/หลัง 1,520 มม. / 1,515 มม
เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ 4N15 แบบ 4 สูบ MIVEC
หัวฉีดน้ำมันเชื้อเพลิง หัวฉีดคอมมอนเรลแรงดันสูง
ความจุกระบอกสูบ 2,442 ซีซี
กำลังสูงสุด 133 กิโลวัตต์
แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร
เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II
เฟืองท้าย CUSCO หน้าหลัง LSD
ระบบกันสะเทือน
หน้า อิสระปีกนก 2 ชั้น พร้อมคอยล์สปริง
หลัง แหนบ
ชอคอัพ CUSCO แดมเพอร์หน้า/หลังปรับระดับได้
พวงมาลัยแรคแอนด์พีเนียน พร้อมเพาเวอร์ช่วยผ่อนแรง
ชุดเบรค ENDLESS จานแบบมีช่องระบายความร้อน ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมคาลิเพอร์ 4 ลูกสูบ
ล้อ WORK อลูมิเนียมอัลลอยขนาด 17 นิ้ว x 8 นิ้ว
ยางรถยนต์ Yokohama GEOLANDAR M/T G003 (265/70R17)
Asia Cross Country Rally 2022 มีรถเข้าร่วมรวมทั้งหมด 56 คัน โดยแบ่งเป็นประเภทรถจักรยานยนต์ จำนวน 21 คัน ประเภทรถพ่วงข้าง จำนวน 2 คัน ประเภทรถยนต์ จำนวน 32 คัน และประเภทรถบรรทุก จำนวน 1 คัน ทั้งหมดเข้าร่วมในสเตจพิเศษ ณ ตัวเมืองบุรีรัมย์ และร่วมพิธีปล่อยตัวในสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ทั้งนี้ การแข่งขัน Leg 1 เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ บนเส้นทางในจังหวัดบุรีรัมย์เรื่อยไปจนถึง Leg 3 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน หลังจากนั้นจะเข้าสู่การแข่งขัน Leg 4 ในวันที่ 25 พฤศจิกายน บนเส้นทางใกล้พรมแดนไทย-กัมพูชา ก่อนข้ามพรมแดนมุ่งหน้าสู่ประเทศกัมพูชาใน Leg 5 ในวันที่ 26 พฤศจิกายน และสิ้นสุดที่เส้นชัย ใกล้ๆ กับปราสาทนครวัด ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
หลังจากลงแข่งขัน SS1 ในวันที่ 21 พ.ย. ศักดิ์ชัย ห่านตระกูล นักขับหมายเลข 119 ตรวจพบเชื้อโควิด 19 ทำให้ต้องออกจากการแข่งขัน ผู้เข้าร่วมแข่งขันคนอื่นๆ ในทีม ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ จึงทำการแข่งขันต่อ โดยทีมงานจะใช้มาตรการป้องกันเพื่อป้องกันการติดเชื้อและดำเนินการแข่งขันต่อไป
ทีม Mitsubishi Ralliart อีก 2 คัน เริ่มทำการแข่งขันต่อใน SS2 ประกอบด้วย รถหมายเลข 105 ขับโดย ชยพล โยธา เริ่มออกสตาร์ทในลำดับที่ 5 และรถหมายเลข 118 ขับโดย Rifat Sungkar เริ่มออกสตาร์ทในลำดับที่ 6
การแข่งขัน SS2 ถือเป็นเส้นทางที่ยาวและยากที่สุดของการแข่งขัน ที่ระยะทาง 203.50 กม. เริ่มต้นที่ ครบุรี และสิ้นสุดที่หนองบอน จังหวัดบุรีรัมย์ ความท้าทายที่ผู้ขับขี่ต้องเจอ คือ หลุมบ่อนับไม่ถ้วนบนพื้นผิวถนนที่ขรุขระ รวมถึงทางโค้งแคบๆ และถนนลาดยาง
ขณะที่ SS2 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการแข่งขัน ชยพล รถหมายเลข 105 สามารถแซงขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ที่ checkpoint ที่ 1 และเป็นคนแรกที่เข้าเส้นชัย ณ checkpoint สุดท้าย โดยสามารถขึ้นแซงรถมอเตอร์ไซค์ทั้งหมดที่ออกตัวก่อนประเภทรถยนต์ และได้รับตำแหน่งที่ 1 ของ SS2 ด้วยสถิติอย่างเป็นทางการที่ 2:50:18 ดังนั้น ในการแข่งขัน SS3 วันที่ 23 พย. ชยพลจะได้เปรียบเรื่องเวลา 4 นาที 7 วินาที
ขณะที่ Rifat Sungkar รถหมายเลข 118 ซึ่งออกสตาร์ทด้วยอันดับที่ 6 ประสบกับปัญหายางแบนขณะขับบนพื้นที่หินที่จุดตรวจระยะ 15 กม. และขับต่อไปโดยไม่เปลี่ยนยาง และผ่าน checkpoint ที่ 1 ไปได้ด้วยล้อและเบรคที่มีปัญหา ก่อนจะได้รับการแก้ไขซ่อมแซมที่จุดพักรถ และ กลับเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้งโดยไม่มีโช้คอัพหลัง และจบการแข่งขันในอันดับที่ 6
วันที่ 24 พย. ชยพล ยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง ส่วน Rifat ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของการแข่งขันโดยรวม
การแข่งขัน SS4 แบ่งเป็น 2 รอบ รวมระยะทาง 70 กม. ซึ่งประกอบด้วยถนนลูกรังเรียบที่ต้องใช้ความเร็วสูงเป็นส่วนใหญ่ ร่วมด้วยถนนโคลน ลูกรัง และถนนลาดยาง โดยพื้นผิวดินเป็นโคลนเนื่องจากฝนตกหนักเมื่อคืนก่อน ทำให้เกิดแอ่งน้ำขนาดใหญ่ลึกกว่า 50 ซม.
ชยพล รถหมายเลข 105 ที่ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำโดยรวมไว้ได้ ด้วยการขับขี่ที่มั่นคงใน SS3 เมื่อวันก่อน ใช้การตัดสินใจที่แม่นยำเพื่อหลีกเลี่ยงแอ่งน้ำขนาดใหญ่และป้องกันความเสียหายต่อรถ และจบอันดับที่ 6 ใน SS4 ด้วยเวลาอย่างเป็นทางการ 2:00:17 โดยยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำโดยรวมไว้ได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเวลาที่ห่างจากอันดับ 2 ของรถหมายเลข 102 ที่ 7 นาที 46 วินาที และห่างจากอันดับ 3 รถหมายเลข 116 อยู่ที่ 9 นาที 54 วินาที
Rifat รถหมายเลข 118 ที่ค่อยๆ ไต่ระดับและมีอันดับในภาพรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังคงมุ่งเน้นไปที่การขับรถอย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รถเสียหาย เมื่อถึงเวลาที่ต้องเร่งให้แรงขึ้น เขาก็แสดงการขับขี่ที่ดุดันและจบอันดับที่ 5 ใน SS4 โดยทำเวลาอย่างเป็นทางการไว้ที่ 1:59:43 และขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 4 ของการแข่งขันโดยรวม ด้วยเวลาที่ห่างจากอันดับ 3 รถหมายเลข 116 ที่ 3 นาที 49 วินาที
วันที่ 25 พย. ชยพล ครองอันดับ 1 ต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ Rifat ที่ยังคงอันดับ 4 ของการแข่งขันโดยรวม ก่อนลงแข่งสนามสุดท้าย
ชยพล รถหมายเลข 105 ซึ่งยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำโดยรวมไว้ได้ ด้วยระยะห่างของเวลากว่า 7 นาทีจากนักแข่งอันดับที่ 2 บังคับรถอย่างมั่นคงใจเย็น เน้นความปลอดภัย เข้าเส้นชัยด้วยเวลาอย่างเป็นทางการที่ 56 นาที 40 วินาที ที่อันดับ 5 ใน SS5 และยังคงเป็นผู้นำของอันดับโดยรวม โดยมีระยะห่างระหว่างตัวเขากับรถหมายเลข 102 คู่แข่งอันดับ 2 โดยรวม 8 นาที 15 วินาที
Rifat รถหมายเลข 118 ที่แม้จะประสบปัญหายางแบนใน SS2 ในวันที่สองของการแข่งขัน แต่ก็สามารถโชว์ความสามารถตีตื้นขึ้นมาจากอันดับที่ 8 มาเป็นอันดับที่ 4 กล่าวว่า "รถไทรทัน มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก เครื่องยนต์ตอบสนองดีมาก ช่วยให้สามารถขับได้ตามต้องการบนถนนขรุขระและได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ" โดย Rifat ครองอันดับ 4 ใน SS5 ด้วยเวลาอย่างเป็นทางการ 56 นาที 15 วินาที และยังคงครองอันดับ 4 ของอันดับโดยรวม
https://www.mitsubishi-motors.com/en/innovation/motorsports/axcr2022/report/
เรื่องโดย : Thanasan Saowamol
ภาพโดย : mitsubishi/จินดา ลัยนันท์
คอลัมน์ Online : เรื่องน่ารู้
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/431224