ง่วง และล้าขนาดนี้ หาววววววววว !!!! ขออ้าปากหาวกันแบบยาวๆ กันไปเลย ง่วงนอนบ่อยแบบนี้ ขอเสนอไอเดียใหม่ๆ ให้คุณได้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่โชเฟอร์ เดินทางต่อให้ถึงจุดหมายโดยสวัสดิภาพ กับวิธีแก้ง่วงที่เราได้รวบรวมมาฝากกันในครั้งนี้ สำหรับการเดินทาง 1. ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น การขับรถทางไกลยาวๆ ความง่วงเกิดจากความเหนื่อยล้าที่ต้องโฟคัสกับเส้นทางเดิมๆ ในอิริยาบถเดิมๆ ในความง่วงระดับแรกนี้ ลองแวะปั๊มข้างทาง แวะปัสสาวะ ล้างมือ ล้างหน้า ลูบศีรษะ และท้ายทอยให้รู้สึกเย็น ก็จะช่วยให้ตาตื่นขึ้นมาได้ 2. ผ้าเย็น ยาดม อัพเลเวลจากข้อแรกด้วยการใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง ยาดม สูดเรียกกลิ่นสมุนไพร และเมนทอลเย็นๆ เข้าปอดสัก 2-3 ฟอด ส่วนน้ำเย็นถ้ามีผ้าชุบเช็ดตามใบหน้า แขน ท้ายทอย เจือกลิ่นยาดมหอมๆ ไปอีกก็ช่วยให้คุณตื่นพร้อมไปต่อ ไม่ง้ออาการง่วงนอนบ่อย 3. ยืดเส้นยืดสาย นั่งท่าเดียวท่าเดิม เท้าเกร็งอยู่กับคันเร่ง มือก็ควงคันเกียร์ คุณลองแวะปั๊มน้ำมัน จอดรถในที่ปลอดภัย แล้วทำกายบริหารสักนิดช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ยืนเท้าเอว กางขาเล็กน้อย ยกแขนด้านใดด้านหนึ่งขึ้นโน้มไปด้านข้าง แช่ไว้ 10-15 วินาที จากนั้นประสานมือยกเหนือลำตัวไปทางซ้าย ขวา จากนั้นสะบัดข้อมือ กลับมาเท้าเอว หมุนคอ ปิดท้ายด้วยพาดขาทีละข้างกับม้านั่ง แล้วย่อลงให้รู้สึกว่าได้เหยียดขาออกสุด ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ วิธียืดเหยียด แบบครบเซทตามวิถีครูพละ แต่ก็ทำให้คุณได้ออกกำลังกายไล่ความง่วงได้ดี เป็นอีก วิธีแก้ง่วง ที่น่าลอง 4. ดื่มกาแฟ ต่อไปจะเป็นเรื่องของกินมาเป็นตัวช่วย สำหรับใครที่อยากหาอะไรดื่มให้คึกคัก เราขอแนะนำกาแฟเลย ถือว่าเป็นตัวช่วยได้ดี จะร้อน หรือเย็น ไปนั่งสั่งกิน เพื่อพักสายตา หรือจะไปกดจากซูเพอร์มาร์เกทก็ไม่ผิดหวัง 5. จัดเครื่องดื่มชูกำลัง ถ้าคุณไม่ค่อยญาติดีกับเครื่องดื่มจำพวกกาแฟ เพราะบางคนจะมีอาการแพ้คาเฟอีน ก็ลองจัดเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อสิงสาราสัตว์ หรือเครื่องดื่มประเภท “แก้แฮงค์” มาลองก็เป็นอีกทางเลือก ในราคาประหยัดกว่า แต่อยู่ได้นานพอกัน จนถึงขั้นว่ามีคนเคยนำเครื่องดื่มชูกำลังไปใส่กับกาแฟ วิธีแก้ง่วง อันนี้ยังไม่เคยลองเลยไม่กล้าแนะนำ 6. กินผลไม้เปรี้ยวๆ ลองนึกภาพมะม่วงดิบฝานแผ่นกับน้ำปลาหวาน หรือพริกเกลือแสบๆ ถ้าได้สักถุงตอนง่วงๆ ขับไปจิ้มไปคงดีงามไม่น้อย ถ้าเจอขายตามสี่แยกก็เปิดกระจกอุดหนุนหน่อย แก้ง่วงได้เพราะตอนนี้ถือว่า มีขายทั่วไปตามสี่แยก 7. เปิดเพลงแดนศ์มันๆ อีกวิธีเรียกตัวเองกลับมาจากภวังค์แห่งความง่วงเหงา คือ จัดเพลงอีเลคทรอนิคส์บีทส์คึกคัก ให้คุณได้เปิดฟัง โฟคัสกับเส้นทาง และโยกศีรษะไปตามจังหวะเพลง หรือถ้าหาเพลงไม่ได้ และขับรถช่วงเวลาดึกๆ บางทีจะมีรายการวิทยุเปิดเพลงรีมิกซ์แบบนี้ยิงยาวให้ฟังแบบฟรีๆ ด้วย 8. ฟังเรื่องสยองขวัญ (หากขับตอนกลางคืน) เรื่องผีๆ มักจะสร้างความตื่นเต้น สยองขวัญกันได้ไม่ยากนัก แต่เรื่องแบบนี้ ก็จะหาฟังยากอยู่ ถ้ามีเพื่อนที่นั่งไปด้วยก็จะช่วยได้หากมีเรื่องเล่า หรือนั่งคุยกันไป แต่ถ้าไม่นั่งไปคนเดียว ลองโหลดเรื่องเล่า เรื่องผี มาเก็บไว้ฟังตอนขับรถดึกๆ ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยเหมือนกัน อย่างน้อยก็ทำให้ตื่น แต่อย่าตระหนกตกใจจนเกินเกิดอุบัติเหตุนะครับ 9. โทรศัพท์คุยกับเพื่อน การแนะนำเรื่องของการโทรศัพท์คุยกับเพื่อนนั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ไม่คอยอยากแนะนำนัก เพราะการคุยเรื่องเล่าเม้ามอยกันก็จะช่วยให้ตื่น และคลายอาการง่วงได้อยู่ แต่ขอย้ำว่าให้ใช้งานคู่กับหูฟังบลูทูธ สมอลล์ทอล์ค หรือสปีเกอร์โฟนเอา อย่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาใช้ตอนขับรถเป็นอันขาด เพราะทั้งผิดกฎหมาย และเป็นอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนด้วย 10. ไม่ไหวจริงๆ จอดแวะงีบสัก 25-30 นาที ถ้าง่วงหนักจริงใครก็ฝืนสังขารไม่ได้ เมื่อรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสัปหงก วูบไปวูบมาตอนขับรถทางตรง เราแนะนำว่าจอดนอนแบบจริงจังสัก 25-30 นาที ให้ร่างกายได้หลับลึกสักรอบ เพราะเพื่อให้ร่างกายรู้สึกว่าได้นอนพอสม ควร แต่การจอดแวะงีบ ควรจะหาที่ๆ ปลอดภัย เช่น ปั้มน้ำมันที่มีคนค่อนข้างเยอะ ไม่ควรจอดริมถนน รวมถึงที่เปลี่ยว ซึ่งจะอันตรายมากๆ นี่อาจจะเป็นวิธีแก้ง่วงแบบง่ายๆ ซึ่งนอกจากนี้ เราคิดว่าหลายคนก็คงจะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป แต่อย่างไรก็ตาม ขับขี่ปลอดภัย ง่วงไม่ขับ ดีที่สุดสำหรับการเดินทางไกล เพราะฉะนั้นควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อนออกเดินทางจะดีที่สุด ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ