รถล่าสุด
Land Rover Defender 130 ราคา 8,999,000 บาท ตัวถังรูปแบบล่าสุด ขยายฐานล้อ เบาะนั่ง 3 แถว 8 ตำแหน่ง กับขุมพลังดีเซล 300 แรงม้า

Land Rover Defender 130 เลขรหัสต่อท้ายที่บ่งบอกว่า ตัวถังขยายใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร มอบความสบายที่เหนือชั้นสำหรับทุกการเดินทาง รองรับได้สูงสุดถึง 8 ที่นั่ง กับที่นั่งขนาดมาตรฐาน 3 แถวในรูปแบบ 2+3+3 ติดตั้งซันรูฟแบบพาโนรามิค และมีซันรูฟอันที่ 2 ติดตั้งเหนือเบาะนั่งแถวที่ 3 ทำให้ภายในห้องโดยสารสว่าง และโปร่งสบายสำหรับทุกคน ความยาวตัวถังขยายใหญ่ขึ้น 340 มม. ทีมวิศวกรของ Land Rover ได้ออกแบบส่วนท้ายรถให้มีรูปทรงคล้ายหางเรือ โดยมีส่วนมุมจากอยู่ที่ 28.5 องศาในระดับความสูงในโหมด Off Road เพื่อให้ยังคงความสามารถในการขับขี่บนเส้นทางที่ขรุขระ และการหักเลี้ยวที่แม่นยำ
Defender 130 มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร แบบ 6 สูบเรียง กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 66.3 กก.-ม. ให้แรงบิดที่เพิ่มขึ้น การตอบสนองที่ราบรื่น และการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าประทับใจ ให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 650 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที ทุกคันติดตั้งระบบส่งกำลังแบบขับเคลื่อนสี่ล้ออันชาญฉลาด (iAWD) และเกียร์อัตโนมัติ ZF 8 จังหวะของ Land Rover เป็นมาตรฐาน ด้วยเทคโนโลยี iAWD จะจัดการระบบส่งกำลังและระบบจ่ายกำลังไฟฟ้าระหว่างเพลาหน้า และเพลาหลังอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่บนท้องถนน และสมรรถนะที่ตอบโจทย์ทุกสภาพพื้นผิวถนน
ระบบช่วงล่างถุงลมแปรผันการตอบสนองด้วยอิเลคทรอนิคส์ที่มีคุณสมบัติ Adaptive Dynamics โดยจะยกตัวรถเพิ่มเติม 71.5 มม. ที่ด้านหน้า (73.5 มม. ที่ด้านหลัง) ในระดับความสูงในโหมด Off Road เพื่อให้ผ่านพ้นสิ่งกีดขวาง และช่วยในการลุยทาง และระบบ Terrain Response ขั้นสูงของ Land Rover ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งประสบการณ์การขับขี่ให้เหมาะกับทุกสภาพภูมิประเทศผ่านหน้าจอ Pivi Pro การผสมผสานระบบขั้นสูงเหล่านี้ทำให้ สามารถขับขี่บนเส้นทางขรุขระได้อย่างสบายๆ สามารถลุยน้ำได้สูงสุด 900 มม. โครสร้างตัวถังมาจากสถาปัตยกรรม D7X ขึ้นรูปจากวัสดุอลูมิเนียมแบบไร้โครง เพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างตัวถัง ตัวเลขการต้านแรงบิดที่ 25kNm/องศา Defender มีความแข็งแกร่งมากกว่าโครงสร้างตัวถังแบบ Body On Frame ดั้งเดิมถึง 3 เท่า
ภายในห้องโดยสารเพิ่มความสะดวกสบายกับช่องเสียบชาร์จ USB-C เพื่อชาร์จอุปกรณ์ขณะเดินทางช่วยให้ผู้โดยสารแถวที่ 3 มีความสะดวกสบายมากขึ้น หน้าต่างบานใหญ่ให้ทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยมในที่นั่งทั้ง 3 แถว เพิ่มความสบายด้วยช่องระบายอากาศสำหรับแต่ละแถว ควบคุมการปรับอากาศผ่านระบบควบคุมอุณหภูมิ 4 โซน (Four Zone Climate Control) ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Defender 130 ผู้โดยสารในแถวที่ 2 และ 3 ยังได้รับประโยชน์จากเบาะนั่งที่ยกสูงเพื่อทัศนวิสัยที่เหนือกว่า พื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง และใช้งานได้สะดวก แม้จะกางเบาะหลังสุดก็ตาม เมื่อไม่ได้ใช้งาน เบาะนั่งสามารถพับเก็บเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ได้ ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกปรับแต่งการจัดวางภายในห้องโดยสารที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด โดยแบ่งเป็นสัดส่วน 40:20:40 และยังสามารถลดความสูงด้วยระบบช่วงล่างถุงลมแบบอิเลคทรอนิคส์ของ Defender ด้วยการกดปุ่มที่อยู่ภายในพื้นที่เก็บสัมภาระ เพื่อช่วยในการขนสัมภาระด้านท้ายสะดวกยิ่งขึ้น
Land Rover Defender 130 มาพร้อมกับหน้าจอสัมผัส Pivi Pro ขนาด 11.4 นิ้วเป็นมาตรฐาน หลังจากการเปิดตัวของ Defender 90 และ 110 ทำให้สามารถควบคุมฟังค์ชันยานยนต์หลักได้ดีขึ้นผ่านจอแสดงผลที่คมชัด และใช้งานง่าย อินเทอร์เฟศกระจกโค้งจะให้ฟังค์ชันการใช้งานที่รวดเร็ว ล้ำสมัย และตอบสนองทันทีที่สตาร์ทรถ ด้วยโครงสร้างเมนูที่เรียบง่าย และเทคโนโลยีอัพเดทซอฟท์แวร์อัตโนมัติแบบ Over The Air จึงมีการอัพเดทอยู่เสมอ ด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในรถให้ดีขึ้นในทุกการเดินทางด้วยระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร (Cabin Air Purification Plus) ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน Defender 130 รุ่นใหม่นี้จะติดตั้งเป็นมาตรฐาน และผสานรวมเทคโนโลยี NanoeTMX สำหรับการลดสารก่อภูมิแพ้ และการกำจัดเชื้อโรค เพื่อช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ และไวรัสจำนวนมาก นอกจากนี้ระบบจัดการ CO2 และการกรองอากาศ PM2.5 ในห้องโดยสารยังช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมในห้องโดยสารให้ดีขึ้น โดยตรวจสอบอากาศภายในและภายนอก และปรับให้เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารจะได้สัมผัสกับคุณภาพอากาศที่ดีที่สุด


