สำหรับรุ่น 4xe 20th Anniversary Edition ติดตั้งยาง BF Goodrich All-Terrain T/A KO2 ล้อขนาด 17 นิ้ว กว้าง 7.5 นิ้ว ภายในห้องโดยสารบุหนังสีแดง และดำ, ติดตั้งกล้องดูเส้นทางด้านหน้า และ Rock Slider โลหะเพื่อรองรับการลุยหนักในเส้นทางทุรกันดาร
ส่วนรุ่น 392 20th Anniversary Edition เป็นแพคเกจ Xtreme Recon มียาง K02 เช่นกัน แต่ใหญ่ขึ้นเป็น 35 นิ้ว, ล้อขนาด 17 กว้าง 8.0 นิ้ว, ชุดเฟืองท้ายอัตราทด 4.56:1, ระบบปั๊มลมออนบอร์ด และการอัพเกรดเครื่องยนต์จาก Mopar
นอกจากนั้น Jeep ได้จ้างทีมงาน American Expedition Vehicles (AEV) เพื่อติดตั้งชุดแต่งที่มีเพียง 150 ชุด โดยใช้ยาง BF Goodrich All-Terrain T/A KO2 ขนาด 37 นิ้ว, ระบบรองรับสเปค AEV เป็นชุดยก 2.5 นิ้ว, กันชน, สคิดพเลท, ไฟส่องเส้นทาง และอื่น ๆ
เมื่ออัพเกรดด้วยชุดแต่งนี้ จะมีระยะห่างใต้ท้องเป็น 14.2 นิ้ว และลุยน้ำได้ลึก 37.1 นิ้ว มีมุมเข้า 50 องศา, มุมใต้ท้อง 33 องศา และมุมจาก 43 องศา หากติดตั้งอุปกรณ์ของ AEV ต้องจ่ายเพิ่มอีก 22,978 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.73 แสนบาท) สำหรับรุ่น 4xe และ 21,130 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 7.11 แสนบาท) สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 392
Wrangler รุ่น 20th Anniversary มีราคาเริ่มต้นที่ 71,380 เหรียญสหรัฐฯ (2.4 ล้านบาท) สำหรับรุ่น 4xe และ 92,690 เหรียญสหรัฐฯ (3.12 ล้านบาท) สำหรับ 392 เมื่อติดตั้งชุดแต่งจาก AEV แล้วราคาจะเป็น 94,358 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.17 ล้านบาท) และ 113,820 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 3.83 ล้านบาท)
รถรุ่นพิเศษทั้ง 2 รุ่น ใช้ฐานการผลิตที่ Toledo และจะได้เห็นตัวเป็นๆ ที่โชว์รูมช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

