จันทร์นภา สายสมร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายฟีล์มกรองแสงรถยนต์ และอาคาร Lamina ฟีล์มกลุ่มพิเศษคุณภาพสูง “LLumar” ผลิตโดย Eastman Performance Film สหรัฐอเมริกา และอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ Thule จากประเทศสวีเดน รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ครบวงจร “LLux” คุณภาพเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดเผยว่าจากการที่บริษัทได้เดินหน้าเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องในตลาดประเทศไทย เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงทิศทางของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทได้รับการยอมรับในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมฟีล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์มาโดยตลอด เห็นได้จากการที่ฟีล์ม Lamina ได้รับรางวัลสุดยอดนวัตกรรมแห่งปี หรือ Product Innovation Awards อย่างต่อเนื่อง 3 ปีที่ผ่านมา
“ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย ที่มีความต้องการฟีล์มกรองแสงรถยนต์คุณภาพสูง บริษัทได้ตัดสินใจนำเข้าสินค้ารุ่นใหม่ที่เป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเข้ามาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยมาโดยตลอด ตั้งแต่ฟีล์มกรองแสงกลุ่มเซรามิคแท้ จนถึงในปัจจุบันที่ได้เริ่มทำตลาดฟีล์มกรองแสงดิจิทอลคุณภาพสูงสำหรับรถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้า และสมาร์ทคาร์ ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตในประเทศ ไทย”
ด้วยความโดดเด่นของสินค้า ทำให้ฟีล์มกรองแสง Lamina Digital Ceramatrix Boost คว้ารางวัล Product Innovation Awards 2021 ได้เป็นครั้งแรก ตามมาด้วย Lamina Digital EV Boost ที่คว้า 2 รางวัล Product Innovation Awards และ Product of The Year 2022 ในปีที่ผ่านมา และล่าสุดฟีล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า Lamina Digital EVS Boost ก็คว้ารางวัล Product Innovation Awards 2023 ได้ในปีล่าสุด
ฟีล์มกรองแสงที่ได้รับการยอมรับในทุกซีรีส์ เป็นผลงานฟีล์มกลุ่มดิจิทอลบูสต์ซีรีส์ ที่พัฒนาขึ้นมาโดย Eastman Performance Film ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเนื้อฟีล์มที่ผลิตจากเทคโนโลยีพิเศษที่กันความร้อนดีเยี่ยม และด้วยคุณสมบัติพิเศษของเทคโนโลยี Digital Boost ช่วยบูสต์สัญญาณ Digital ทุกชนิด ช่วยให้รถยนต์ที่ติดตั้งฟีล์มกรองแสงดังกล่าวสามารถใช้งานสัญญาณ Digital ภายในรถยนต์ทุกรูปแบบได้เร็ว แรง ลื่น เสถียร
“สิ่งที่ทำให้ Lamina สามารถเดินหน้า เติบโต และรักษาความเป็นผู้นำในตลาดฟีล์มกรองแสงสำหรับยานยนต์ และอาคารในประเทศไทยได้ ก็คือการหาสินค้าที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา อีกทั้งยังสอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐที่ต้องการผลักดันสินค้าที่มีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละยุคแต่ละสมัย ทำให้บริษัทมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาหลายปี”
ไม่ใช่แค่ตลาดฟีล์มกรองแสงสำหรับรถยนต์ Lamina ฟีล์มยังตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดฟีล์มกรองแสงสำหรับบ้าน อาคาร และคอนโดมิเนียม ด้วยการเปิดตัว Lamina Buddy Series ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงแสนรักโดยเฉพาะเป็นแบรนด์แรกของประเทศไทย โดดเด่นด้วยคุณสมบัติกันร้อน กันยูวี ลดแสงจ้า และสบายตา ช่วยปกป้องดวงตา และผิวหนังของน้องๆ จากรังสีที่มองไม่เห็น เพิ่มความสุขให้กับการพักอาศัยที่ไม่ต้องปิดทึบตลอดเวลา
นอกจากนี้ Lamina ฟีล์มยังตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการให้บริการอย่างครบครัน ด้วยเครือข่ายการให้บริการผ่านตัวแทนจำหน่ายกว่า 770 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้ามาอย่างยาวนานถึง 28 ปีของการทำธุรกิจในประเทศไทย ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่านอกจากจะได้สินค้าที่มีคุณภาพแล้ว ยังจะได้รับการให้บริการที่ดีที่สุด ด้วยมาตรฐานของงานบริการระดับสากล และครบวงจรนั่นเอง
“สิ่งที่เพิ่มเข้ามาสำหรับการทำตลาดในปีนี้ ก็คือการสื่อสารผ่านทเรนด์การตลาดรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ KOLs (Key Opinion Leaders) KOCs (Key Opinion Consumers) และ Influencers แถวหน้า เปิดตัวแนวคิดใหม่สุดล้ำ "LAMINA EVfluencers ขับรถยุคใหม่...คู่ฟีล์มดิจิทัลโดนใจ" ที่จะเปิดตัวในงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 นี้ เพื่อตอกย้ำการเป็นฟีล์มกรองแสงที่ "ประสิทธิภาพล้ำโดนใจ ลุคสวยโดนตา" อย่างแท้จริง"
ผู้นำตลาดฟีล์มกรองแสงรถยนต์ในประเทศไทย ระบุว่าแนวโน้มการเติบโตของฟีล์มกรองแสงรถยนต์คุณภาพสูงในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นตามการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ที่มีการคาดการณ์ว่าจะเติบโตประมาณ 6 % หรือมียอดจำหน่ายที่ 9 แสนคัน ซึ่งต้องจับตาการขยายตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานรูปแบบใหม่ ทั้งไฮบริด และไฟฟ้า ว่าจะสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้หรือไม่
ทั้งนี้ Lamina ประเมินภาพรวมของธุรกิจฟีล์มกรองแสงรถยนต์ว่าน่าจะเติบโตที่ระดับ 6 % ในปีนี้ โดยเซกเมนท์ที่มีการเติบโตมากที่สุดจะเป็นเซกเมนท์ฟีล์มกรองแสงระดับพรีเมียม โดยเป็นผลมาจากความต้องการของลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนมาใช้ฟีล์มกรองแสงคุณภาพสูง ทำให้บริษัทประเมินการเติบโตของตัวเองที่ 7 % หรือมียอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 795 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างแน่นอน
สำหรับในการเข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม-2 เมษายน 2566 นี้ บริษัทได้เข้าร่วมแสดงสินค้าที่บูธหมายเลข B2 อาคารชาลเลนเจอร์ 1 เมืองทองธานี โดยมีการยกทัพสินค้ารุ่นใหม่ของบริษัทเข้ามาจัดแสดงกันอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยแคมเปญพิเศษสำหรับลูกค้าที่เข้าร่วมชมงานอย่างมากมาย พร้อมการแสดง และของที่ระลึกแบบครบครัน