รถล่าสุด
เปิดตัว The New Range Rover Sport Plug-in Hybrid 2023 ราคา 8,599,000 บาท
Land Rover เปิดตัว The New Range Rover Sport Plug-in Hybrid 2023 นิยามใหม่ของความหรูหราสไตล์สปอร์ท
บริษัท อินช์เคป (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ Jaguar และ Land Rover อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เปิดตัวรถยนต์ The New Range Rover Sport ในรุ่น Dynamic SE Plug-in Hybrid 510PS ราคา 8,599,000 บาท พร้อม Range Rover Care นาน 5 ปี
Range Rover Sport ใหม่ มีชุดส่งกำลังแบบใหม่ P510e Plug-in Hybrid โดยสามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนในโหมด EV ได้มากกว่า 100 กม. โดยมีเครื่องยนต์เบนซิน Ingenium 6 สูบ ขนาด 3.0 ลิตร ผสานมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังแรง 105 กิโลวัตต์ และแบทเตอรี 38.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ได้กำลังสูงสุด 510 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.4 วินาที ระยะการขับขี่ด้วยไฟฟ้าสูงสุด 113 กม. โดยมีระยะการขับขี่จริงที่คาดไว้ คือ 88 กม. ซึ่งเพียงพอสำหรับเจ้าของรถส่วนใหญ่ที่จะทำได้ถึง 75 % ของการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้า สำหรับการเดินทางไกล ระบบจะส่งกำลังพลัก-อิน ไฮบริดที่ให้ระยะทางรวม 740 กม. ของการขับขี่ด้วยระบบเบนซิน และไฟฟ้า
รูปลักษณ์ภายนอก ยังคงคุณสมบัติเฉพาะตัว ด้วยระยะยื่นจากล้อที่สั้น บริเวณด้านหน้าดูโฉบเฉี่ยว และกระจกมีระดับความลาดเอียงเหมาะสมของทั้งบริเวณด้านหน้า และด้านหลังของรถ กระจังหน้า และชุดไฟ Digital LED ดีไซจ์นใหม่ ช่วยสร้างเอกลักษณ์ของ Daytime Running Light ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น สีตัวถังแบบแบ่งครึ่งตามแนวนอน ทำให้ตัวรถดูกว้าง เสริมด้วยการใช้สีดำในการเพิ่มรายละเอียด
ด้านหลังของรถสลักลายที่ประตูท้าย ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ กราฟิคไฟ LED ที่ไม่ขาดตอน เผยให้เห็นถึงความร่วมสมัย มือจับประตูได้รับการออกแบบใหม่ให้ดูซ่อนเร้น มาพร้อมกับหลังคาที่เชื่อมด้วยเลเซอร์ เป็นการผสมผสานรายละเอียดที่ซับซ้อนได้อย่างลงตัว และยังช่วยให้ประสิทธิภาพของระบบแอโรไดนามิคมีความยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น โดย Range Rover Sport โฉมใหม่นี้มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอยู่ที่ระดับ 0.29 เท่านั้น
การตกแต่งภายในแบบใหม่ทั้งหมด ด้วยเทคโนโลยี Range Rover Command Driving Position เพื่อความสมดุลห้องโดยสารที่ดูเหมือนห้องนักบิน คอนโซลกลางที่ลาดเอียงในแนวสูง และเทคโนโลยีที่ทำให้ทุกการขับขี่ง่าย และสะดวกยิ่งขึ้น ระบบอินโฟเทนเมนท์ Pivi Pro หน้าจอสัมผัสแบบโค้ง และมีความละเอียดสูงขนาด 13.1 นิ้ว สามารถควบคุมทุกการใช้งาน ตั้งแต่การนำทางไปจนถึงการตั้งค่าสื่อ และยานพาหนะ ระบบจะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ขับขี่ เสมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่รอบรู้ และใช้งานได้ง่าย
ระบบ Cabin Air Purification Pro รุ่นล่าสุด พร้อมสร้าง และรักษาสภาพแวดล้อมการขับขี่ ด้วยการผสมผสานคุณสมบัติในการกรองฝุ่น PM2.5 และเทคโนโลยี nanoeTM X เพื่อลดกลิ่นอับ แบคทีเรีย และสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ รวมไปถึงไวรัส SARS-CoV-23 อุปกรณ์ nanoeTM X ตัวที่ 2 ได้รับการติดตั้งไว้ในบริเวณแถวที่ 2 เพื่อให้คุณภาพอากาศที่สม่ำเสมอทั่วทั้งห้องโดยสาร
และฟังค์ชันการจัดการคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ภายในห้องโดยสารก่อนการเดินทาง หรือแม้ขณะขับรถ พร้อมทั้งติดตั้งระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูงรุ่นล่าสุด ที่เรียกว่า Advanced Driver Assistance Systems (ADAS) ที่เน้นไปที่ความปลอดภัยในการขับขี่ ระบบเบรคฉุกเฉิน กล้อง 3D รอบทิศทาง รวมถึงเซนเซอร์จอดรถด้านหน้า และด้านหลัง ระบบ Wade Sensing ระบบ ClearSight Ground View4 และไฟเลี้ยวที่มีระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติ ระบบตรวจสอบสภาพคนขับ ระบบช่วยเหลือการขับขี่ในเลน และระบบจดจำป้ายจราจร
Range Rover Sport โฉมใหม่นำเสนอเทคโนโลยีของแชสซีส์ยานยนต์ที่ล้ำหน้ากว่าที่เคยมีมา ความแข็งแกร่งของสถาปัตยกรรมโลหะผสมที่มีความยืดหยุ่น MLA-Flex ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งในการบิดได้สูงกว่า Range Rover Sport รุ่นก่อนหน้านี้ถึง 35 % ระบบ Dynamic Response Pro ทำงานควบคู่กับระบบ Dynamic Air Suspension เจเนอเรชันล่าสุด ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวสปริงลมแบบปรับระดับได้เป็นครั้งแรก ให้การควบคุมการหมุนขั้นสูงสุดผ่านระบบควบคุมการหมุนด้วยพลังงานแอคทีฟอีเลคทรอนิคส์ 48 โวลท์ ซึ่งสามารถใช้แรงบิดได้สูงสุดถึง 1,400 นิวตันเมตร ในแต่ละเพลา เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่อย่างมั่นใจ รวมไปถึงการควบคุมตัวถัง และความนุ่มนวลในการเข้าโค้งที่เหนือระดับ
ระบบ Dynamic Air Suspension ได้รับการติดตั้งใน Range Rover Sport ทุกคัน โดยระบบอัจฉริยะนี้ ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ระบบกันสะเทือน ระบบนี้ทำงานโดยการปรับแรงดันของกระบอกชอคอับให้สอดคล้องกับพื้นผิวถนน และความลาดชัน และยังมาพร้อมกับระบบตรวจสอบทิศทางของถนนข้างหน้า โดยใช้ระบบข้อมูลการนำทางที่เรียกว่า eHorizon เพื่อทำงานให้สอดคล้องกับระบบช่วงล่าง ที่ต้องปรับสภาพให้เป็นไปตามข้อมูลล่วงหน้าที่ได้รับจากระบบ หรือเมื่อต้องเข้าโค้งในระยะที่ใกล้เข้ามา เทคโนโลยี Adaptive Dynamics ช่วยเพิ่มความสามารถแบบไดนามิค ด้วยการควบคุมอย่างต่อเนื่องของระบบ Active Twin Valve Dampers เพื่อช่วยลดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นของร่างกายผู้ขับขี่ ระบบนี้ยังสามารถตรวจสอบปัจจัยภายนอกได้สูงถึง 500 ครั้ง/วินาที เพื่อให้การตอบสนองที่สมบูรณ์แบบ และสอดคล้องกับเทคโนโลยีอื่นๆ ของแชสซีส์
ความคล่องตัวในการเข้าโค้งของ Range Rover Sport ยังช่วยยกระดับการขับขี่ไปอีกขั้นด้วยระบบ All-Wheel Steering ระบบ Torque Vectoring by Braking และระบบ Electronic Active Differential ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวขั้นสูง ระบบ All-Wheel Steering ช่วยให้การบังคับเลี้ยวของล้อหลังทำมุมตรงกันข้ามกับล้อหน้า ได้สูงสุดถึง 7.3 องศา เพื่อลดวงเลี้ยวให้แคบลงในความเร็วต่ำ และทำมุมขนานกับล้อหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งในช่วงเวลาที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบนี้ทำให้ Range Rover Sport โฉมใหม่ สามารถสร้างวงเลี้ยวได้เสมือนกับรถประเภทแฮทช์แบค และมีความคล่องตัวบนท้องถนนเสมือนรถยนต์ขนาดเล็ก
ระบบแชสซีส์ยานยนต์ที่ดีที่สุดของ Range Rover Sport โฉมใหม่นี้ ยังรวมไว้ซึ่งระบบ Dynamic Response Pro ระบบ All-Wheel Steering ระบบ Electronic Active Differential และระบบ Torque Vectoring by Braking สร้างความประทับใจในการขับขี่ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนท้องถนนที่มีสภาพพื้นผิวปกติ หรือบนเส้นทางแบบออฟโรดที่ยากลำบาก ระบบ Terrain Response 2® ล่าสุดของ Land Rover ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่แบบออฟโรด โดยใช้วิธีการตั้งค่าที่เหมาะสมที่สุดเพื่อการขับขี่ในสภาพภูมิประเทศที่มีความแตกต่างได้อย่างชาญฉลาด ระบบ New Adaptive Off-Road Cruise Control ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกกับ Range Rover Sport โฉมใหม่ ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ท่องไปในสภาพภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยความยากลำบากได้อย่างราบรื่น และยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบแม้สภาพพื้นผิวถนนจะมีความแตกต่าง
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
คอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/online/450345