ธุรกิจ
Brabus ลงทุน 100 ล้านบาท ขึ้นโชว์รูม และศูนย์บริการแห่งใหม่
Brabus Thailand by Target Car Center Thailand ประกาศแฟนลงทุน 100 ล้านบาท ขึ้นสำนักงานใหญ่พร้อมศูนย์บริการครบวงจร บนถนนพระราม 3 คาดเปิดบริการปลายปีนี้
ชัชวัฏ สุวรรณโณชิน กรรมการผู้จัดการ Brabus (Thailand) by Target Car Center (Thailand) เปิดเผยว่า ปีนี้ Brabus ได้รับแรงสนับสนุนจาก Brabus เยอรมนี เป็นอย่างดี เปิดโอกาสให้จัดกิจกรรมการตลาด และการขายอย่างเต็มที่ และเตรียมคัดสรรพโรดัคส์ใหม่ๆ เข้ามาให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อในหลากหลายโมเดลมากยิ่งขึ้น ตามที่ทาง Brabus เยอรมนีได้มีจำหน่ายทุกผลิตภัณฑ์ โดยในส่วนของ Brabus ไทยแลนด์ นอกจากความพร้อมในเรื่องของโมเดลใหม่อีกมากมายแล้ว บริษัท ทาร์เกต คาร์ เซ็นเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กำลังขยายสำนักงานใหญ่ และศูนย์บริการใหม่ เพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บนพื้นที่ กว่า 2 ไร่ บนถนนพระ ราม 3 คาดว่าจะเสร็จพร้อมให้บริการในปลายปีนี้ ซึ่งจะประกอบไปด้วยส่วนโชว์รูมที่จอดรถซูเพอร์คาร์หายาก และมีส่วนของ Brabus จัดแสดงให้ลูกค้าได้ชมทั้งรถ และชุดแต่ง พร้อมส่วนรับรองลูกค้าสุดพิเศษ Exclusive Lounge ให้ลูกค้าของบริษัทฯ อีกด้วย
โดยที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรม Brabus Thailand Mini Motor Show 2023 โดยได้นำรถรุ่นเด่นร่วมโชว์ครั้งนี้ประกอบด้วย
Mercedes-AMG G63 x Brabus Widestar Package ตัวถังอันทรงพลัง และพละกำลังเหนือใคร G-Wagon มีดีไซจ์นที่ไม่เหมือนใคร รูปทรงที่ดูแข็งแกร่ง น่าเกรงขาม และมีเสน่ห์ ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย G-Wagon ก็ยังคงรูปแบบเดิมไว้ เมื่อติดตั้งชุดแต่ง Widestar จาก Brabus บนตัวถังของรุ่นเรือธงอย่าง Mercedes-AMG G63 เสริมซุ้มล้อแบบขยายเพื่อเพิ่มความกว้างของตัวรถอีก 100 มม. และให้ภาพลักษณ์ที่โดดเด่น นอกจากนี้ยังมีไฟ LED ที่รวมอยู่ในบังโคลนหน้า และหลังเพื่อมอบแสงสว่างตรงบันไดข้าง ชุดแต่ง Brabus Widestar ยังรวมถึงชุดกันชนหน้า และหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้มีความดุดัน และเข้ากับซุ้มล้อทั้ง 4 ก่อนจะปิดท้ายด้วยล้อ Monoblock ตามแบบฉบับ Brabus
Mercedes-AMG G63 มาพร้อมเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 585 แรงม้า และแรงบิด 86.7 กก.-ม. หรือ 850 นิวตันเมตร เชื่อมต่อกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ไปยังทั้ง 4 ล้อ ผ่านระบบขับเคลื่อนแบบ AMG Performance ทำให้เจ้า SUV ทรงกล่องสไตล์คลาสสิคคันนี้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 4.5 วินาที พร้อมความเร็วสูงสุดที่ 250 กม./ชม.
Mercedes-AMG G63 เป็นรถยนต์อีกรุ่นของนักสะสม และผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ในสไตล์ที่ไม่เหมือนใครบนท้องถนน ซึ่ง Mercedes-AMG G63 ก็ตอบโจทย์ในทุกมิติ พร้อมสมรรถนะที่เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดยังมาพร้อมกับชุดแต่ง Brabus Widestar จากโรงงานของ Brabus
Mercedes-Benz 280 SL Pagoda By Brabus Classic ที่ Brabus นำรถคลาสสิคคาร์ มาปลุกจิตวิญญานใหม่อีกครั้ง ซึ่งมีแฟน Mercedes-Benz มากมาย ที่ชื่นชอบ และสะสมรถประเภทนี้ Brabus นำ Mercedes-Benz 280 SL Pagoda รถสปอร์ทคันแรกที่ใช้นวัตกรรมตัวถังนิรภัย ตั้งแต่ปี 1968-1971 มาพัฒนาเพิ่มเติมออกจากสายการผลิต Roer 2 ที่นั่ง เปิดตัวด้วยความสะดวกสบายที่ไม่เหมือนใคร สมรรถนะยอดเยี่ยม และความปลอดภัยที่ไม่เคยมีมาก่อน สนนราคาค่าตัวที่ 30 ล้านบาท และมีเพียงคันเดียวในประเทศไทยจาก Brabusโดยตรง
Brabus 92R คือ ซิทีคาร์รุ่น Limited Edition ที่มีพื้นฐานมาจาก Smart EQ Fortwo Cabrio ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้า 100 % แต่ได้รับการตกแต่งจาก Brabus ให้ดูดุดัน และเหนือกว่าซิทีคาร์ทั่วไป ด้วยล้อแบบสปอร์ทขนาด 16 นิ้วที่ด้านหน้า และ 17 นิ้วที่ด้านหลัง ส่วนการออกแบบด้านหน้าจะมาพร้อมช่องดักอากาศรังผึ้งขนาดใหญ่ 3 ช่อง ดิฟฟิวเซอร์หน้า การตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์รอบคัน และระบบช่วงล่างแบบสปอร์ทที่ลดความสูงลง 25 มม.
มากับสีภายนอกพิเศษแบบ Tiffany Blue การออกแบบภายในนั้นจะพบกับเบาะหนังสีเขียวอ่อนในคอนเซพท์ “Ultimate Ellipse” ของ Brabus, โลโก Brabus ที่พนักพิงศีรษะทั้ง 2 ฝั่ง, การตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์บนคอนโซลหน้า และช่องแอร์, แป้นเหยียบอลูมิเนียม และพรมปูพื้นสีดำพร้อมโลโก Brabus
ขุมพลังของ Brabus 92R มาจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลัง 91 แรงม้า และแรงบิด 18.4 กก.-ม. หรือ 180 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นแรงบิดที่มากกว่ารุ่นมาตราฐานประมาณ 2.03 กก.-ม. หรือ 20 นิวตันเมตร โดยในโหมด "Sport +" จะสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ใน 10.9 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจะยังคงจำกัดไว้ที่ 130 กม./ชม. เเละมอบระยะการขับขี่สูงสุด 128 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง
นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่อื่นๆ อีก 3 โหมดให้เลือกใช้นอกเหนือจาก “Sport +” ก็คือ “Basic, Eco และ Sport” โดยในโหมด Sport จะให้การตอบสนองของคันเร่งที่เร็วขึ้น ขณะที่ Eco จะช่วยเพิ่มระยะการขับขี่ที่มากขึ้น Brabus 92R จะถูกผลิตเพียง 50 คันเท่านั้น จำหน่ายในราคา 3.99 ล้านบาท และมีเพียงคันเดียวในประเทศไทย
Brabus 1300 R บิกไบค์สายหรู 180 แรงม้า เร่ง 0-96 กม./ชม. ใน 3.2 วินาทีพร้อมจะพาท่านพุ่งทะยานไปกับ นวัตกรรมความเร็ว สุดดุดันอย่างเหนือระดับ
ในความร่วมมือครั้งใหม่นี้ Brabus และ KTM ผนึกกำลังกันเพื่อสร้างรถจักรยานยนต์ที่เหนือกว่ารุ่นปกติ โดยรวบรวมจุดแข็ง และผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของทั้ง 2 แบรนด์ ปรัชญาการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ วิศว กรรมทางเทคนิค และความเชี่ยวชาญด้านการผลิต เพื่อสร้างความท้าทายใหม่ ทำให้ได้ผลลัพธ์ชิ้นแรก นั่นคือ Brabus 1300R ที่เป็นรถจักรยานยนต์สุดหรูที่ไม่เหมือนใคร
Brabus 1300R มาขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ V-Twin ขนาด 1,301 ซีซี ที่ให้กำลัง 180 แรงม้า ที่ 9,500 รตน. และแรงบิด 14.3 กก.-ม. หรือ 140 นิวตันเมตร ที่ 8,000 รตน. ซึ่งกำลังนั่นจะเท่ากับ KTM 1290 Super Duke R Evo ทุกประการ แต่จะมีการเสริมท่อไอเสียแบบท่อคู่แบบพิเศษของ Brabus เพื่อมอบอัตราเร่งความเร็วจาก 0-96 กม./ชม. ใน 3.2 วินาที จะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 154 คัน และเป็น Brabus 1300 R ที่มาในสีแดง Magma Red ที่มีเพียง 77 คันทั่วโลก คันที่นำมาโชว์ก็มีเพียงคันเดียวในไทยเช่นเดียวกัน ในราคาค่าตัวที่ 1.99 ล้านบาท
Brabus Shadow 500 จาก Brabus Marine เป็นผลมาจากการเป็นพันธมิตรที่ล้ำสมัยระหว่าง 2 บริษัทที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเภทเดียวกัน ที่เป็นการรวมตัวกันของ Axopar Boats ผู้ผลิตเรือสัญชาติฟินแลนด์ และ Brabus ผู้ผลิตรถยนต์หรูหราที่ก่อตั้งมายาวนาน และมีประสิทธิภาพสูง
Brabus Shadow 500 เรือสุดหรูที่มาพร้อมสมรรถนะความเร็วมากกว่า 50 นอท ที่มีความโดดเด่นทั้งดีไซจ์น อัตราเร่ง และแรงบิดมหาศาลจากเครื่องยนต์ Mercury V8 ProXs 250 ที่มอบกำลังมากกว่า 500 แรงม้า
Brabus Shadow 500 มีเอกลักษณ์ด้วยการออกแบบที่น่าดึงดูด โดดเด่น และมีสไตล์เป็นพิเศษ เส้นสายเชิงมุมพร้อมตัวเรือที่ยาว และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ผสมผสานกับดาดฟ้าเรือที่ใช้งานได้จริงและหลากหลายภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้กลิ่นอายความอบอุ่น และสะดวกสบาย ด้วยห้องโดยสาร “Cabin”แบบ "ปิดสนิท" ที่เหมาะสำหรับการเดินทางในทุกสภาพอากาศ ทั้งยังสามารถเปิดหลังคา และเปิดประตูด้านข้างขนาดใหญ่ได้ เมื่อต้องการเปลี่ยนบรรยากาศ นอกจากนี้ดาดฟ้าด้านหลังยังเรือสามารถเปลี่ยนพื้นที่นั่งเล่นเป็นเตียงอาบแดดได้อย่างง่ายดายเมื่อต้องการใช้พื้นที่สำหรับอาบแดด และพักผ่อน กับราคาค่าตัวที่ 15.9 ล้านบาท
Panerai Submesible S Brabus Blue Shadow Edition นาฬิกาสุดสมาร์ทเรือนนี้ เป็นความร่วมมือของ Brabus และ Panerai ผู้ผลิตนาฬิกาที่มีชื่อดังระดับโลกจากอิตาลีออกแบบนาฬิกาสุดพิเศษในชื่อว่า Panerai Sub mersible S Brabus Blue Shadow Edition
การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ Panerai Submersible S Brabus Blue Shadow Edition ได้เน้นให้เห็นถึงสิ่งที่ดีที่สุดในโลกของการผลิตนาฬิการะดับพรีเมียม และการเดินเรือ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากคุณสมบัติการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของเรือสุดหรูในซีรีส์ Brabus Shadow ตัวเรือนขนาด 47 มม. ทำจากไททาเนียม และขึ้นรูปโดยใช้ DMLS (Direct Metal Laser Sintering) ซึ่งเป็นวิธีการของเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ ที่สร้างทั้งองค์ประกอบที่แข็งแรง และน้ำหนักเบา โครงสร้างตัวเรือนที่มีรูปทรงกันกระแทกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Panerai ผสานกับตัวป้องกันเม็ดมะยม ก่อนจะปิดท้ายด้วยพื้นผิวด้านที่โดดเด่นขอบหน้าปัดผลิตจาก Carbo tech ซึ่งเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีลวดลายหลากสีสัน ทำให้นาฬิกาแต่ละเรือนมีลักษณะเฉพาะตัว และโดดเด่นด้วยความทนทาน ความเบา และความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง นอกจากนี้ยังมี Super-Lumi Nova สีน้ำ เงินบนเข็มบอกเวลาเพื่อช่วยให้อ่านง่าย และสะดุดตาที่สำคัญนั้นมีจำนวนจำกัดเพียง 200 เรือนทั่วโลกเท่านั้น สนนราคาที่ 1.99 ล้านบาท
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
บรรณาธิการข่าวธุรกิจและสังคม รักการอ่าน ขอบงานเขียน ชอบพบปะผู้คน ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ผู้บริหารในวงการยานยนต์ไทย ท่องเที่ยว เป็นประสบการณ์ที่ดี พร้อมได้ เปิดโลก ได้พัฒนาตัวในแวดวงสื่อสารมวลชน
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)