BYD Dolphin แฮทช์แบคไฟ...แรงแซงเทอร์โบ ราคา 699,999-859,999 บาท

บริษัท เรเว่ ออโตโมทีฟ จํากัด จัด BYD Dolphin รถไฟฟ้า 100 % แบบ 5 ประตูทรงแฮทช์แบค จํานวน 30 คัน 2 รุ่นย่อย ประกอบด้วย Extended Range หรือ Extended และ Standard Range หรือ Standard มาให้คณะสื่อมวลชนสายรถยนต์ชั้นนํากว่า 60 ชีวิต ได้ทดลองขับ และใช้งานจริง 2 วัน ภายนอกของ BYD Dolphin การออกแบบไฟหน้า และไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากการเคลื่อนไหวแบบไดนามิคของปลาโลมาที่แหวกว่ายในมหาสมุทร ไฟหน้า LED ต่อเนื่องที่กระจังหน้าตรงกลาง และการออกแบบไฟท้ายแบบไดนามิคเผยให้เห็นถึงสไตล์ และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย มิติตัวรถ BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่น เท่ากัน ด้วยความยาว/กว้าง/สูง 4,290/1,770/1,570 มม. ความยาวฐานล้อ 2,700 มม. เปรียบเทียบกับขนาดตัวของ MG4 Electric 4,287/1,836/1,516 มม. ฐานล้อ 2,705 มม. BYD Dolphin กว้างน้อยกว่า 66 มม. (6 ซม.) แต่สูงกว่า 54 มม. (5.4 ซม.) และ Honda City Hatchback 4,349/1,748/1,488 มม. ฐานล้อ 2,589 มม. BYD Dolphin ยาวน้อยกว่า 59 มม. (5.9 ซม.) แต่กว้างกว่า 22 มม. (2.2 ซม.) และสูงกว่า 82 มม. (8.2 ซม.) ที่สำคัญ คือ มีฐานล้อยาวกว่าถึง 111 มม. (11.1 ซม.) ส่งผลให้มีห้องโดยสารที่กว้างสบายกว่าชัดเจน

รุ่น Standard Range มีให้เลือก 4 สี ประกอบด้วย ม่วง, ชมพู, เทา และครีม

Flora Purple

Coral Pink

Alaskan Grey

Coastal Cream

รุ่น Extended Range ต่างไปจากรุ่น Standard Rang ด้วยสีตัวรถแบบทูโทน Two-tone มีให้เลือก 4 คู่สี คือ เทา/ดำ, ชมพู/ดำ, ฟ้า/เทา และขาว/เทา

Mafic Grey

Atoll Blue

Coral Pink

Surge-White

และขนาดล้อ/ยาง รุ่น Standard Range ใช้ล้อขนาด 16 นิ้ว 4 รู 100 ยางขนาด 195/60 R16 รุ่น Extended Range ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว 5 รู 100 ยางขนาด 205/50 R17

รุ่น Standard Range ใช้ล้อขนาด 16 นิ้ว 4 รู 100 ยางขนาด 195/60 R16

รุ่น Extended Range ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว 5 รู 100 ยางขนาด 205/50 R17

BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นย่อย ผู้ขับขี่สามารถปลดลอครถได้สะดวกผ่านระบบ NFC ที่ด้านบนกระจกมองข้าง ห้องโดยสารที่ทีมนักออกแบบของ BYD ยังออกแบบโดยมีโลมา และท้องทะเล เป็นแรงบันดาลใจลงตัวเส้นสายภายในที่ทันสมัย ทั้ง 2 รุ่นย่อย Standard Range และ Extended Range รุ่น Standard Range สีภายนอก ม่วง และครีม สีภายใน นํ้าตาล/ดํา ส่วนสีภายนอก ชมพู ภายใน ชมพู/เทา และสีภายนอก เทา ภายใน เทา/ดํา รุ่น Standard Range สีภายนอก ม่วง และครีม สีภายใน นํ้าตาล/ดํา รุ่น Standard Range สีภายนอก ชมพู ภายใน ชมพู/เทา รุ่น Extended Range สีภายนอก เทา/ดํา สีภายใน ดํา/เทา, ชมพู ภายใน ชมพู/เทา, ฟ้า ภายใน ฟ้า/เทา และขาว/เทา ภายในดํา/เทา   รุ่น Extended Range สีภายนอก ฟ้า/เทา ภายใน ฟ้า/เทา รุ่น Extended Range สีภายนอก ขาว/เทา ภายในดํา/เทา หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 12.8 นิ้ว ปรับหมุนด้วยไฟฟ้า พร้อมลําโพง 6 ตําแหน่ง นอกจากนั้น ยังมาพร้อมกับช่อง USB อีก 4 ตําแหน่ง ด้านหน้า 2 จุด Type A 7.5w กับ Type C 60w และด้านหลัง 2 จุด Type A 18w กับ Type C 60w รุ่น Standard Range ตกแต่งภายในด้วยสีเงิน รุ่น Extended Range ตกแต่งด้วยสีดำเงา และดำด้าน สำหรับรุ่น Extended Range ยังมีแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายบนที่วางแขนคอนโซลกลางอีก 1 ตําแหน่ง รุ่น Standard Range เบาะคู่หน้า คนขับ/ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง รุ่น Extended Range เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า คนขับ 6 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ กระจกไฟฟ้าแบบ one-touch รุ่น Extended Range หลังคากระจกแบบพาโนรามิค Panoramic glass roof ที่ครอบคลุมพื้นที่ห้องโดยสารถึงด้านหลังโปร่งโล่งช่วงเช้า/เย็น มาพร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ช่วยลดแสง และความร้อนในช่วงกลางวัน พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ท้ายรถสามารถจัดเก็บกระเป๋าสัมภาระมาตรฐานขนาด 20 นิ้ว ได้ 4 ใบ เบาะหลังพับแยกส่วนได้ 60:40 และสามารถขยายความจุจาก 345 ลิตร เป็น 1,310 ลิตร เมื่อพับเบาะทั้ง 2 ด้านราบลงไป และยังสามารถเปิดพื้นที่เก็บสัมภาระเพื่อใส่รองเท้า สายชาร์จ และของใช้อื่นๆ ด้านล่างได้อีกชั้น เทียบกันระหว่างรุ่น Standard Range กับรุ่น Extended Range รุ่น Extended Range มีมากกว่ารุ่น Standard Range คือ - เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า คนขับ 6 ทิศทาง ผู้โดยสาร 4 ทิศทาง พร้อมระบบระบายอากาศ - หลังคา Panoramic glass roof - กระจกไฟฟ้าแบบ one-touch - ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย BYD Dolphin อยู่ภายใต้ อี-พแลทฟอร์ม 3.0 เริ่มต้นกันที่รุ่น Standard Range กําลังมอเตอร์สูงสุด 95 แรงม้า (PS) หรือ 70 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 18.4 กก.-ม. หรือ 180 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนล้อหน้า สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 12.3 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดลอคไว้ที่ 150 กม./ชม.

ระยะทางการวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม 410 กม. ตามมาตรฐาน NEDC และ 380 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ด้วยบเลดแบทเตอรี (LFP) ขนาด 44.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง

รองรับการชาร์จแบบ DC (CCS 2) 60 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จจาก 30-80 % ใช้เวลา 28 นาที จาก 0-80 % ใช้เวลา 42 นาที จาก 0-100 % ใช้เวลา 67 นาที

AC (Type 2) 7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จจาก 0-100 % ใช้เวลา 7.5 ชม.

BYD Dolphin รุ่น Extended Range อีกระดับของสมรรถนะ จากพละกำลังมอเตอร์สูงสุด 204 แรงม้า (PS) หรือ 150 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. หรือ 310 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7 วินาที ความเร็วสูงสุดลอคไว้ที่ 160 กม./ชม. อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. เร็วกว่า MG4 Electric (8.4 วินาที) และ Honda City RS (10.5 วินาที) ระยะทางการวิ่งเมื่อชาร์จเต็ม 490 กม. ตามมาตรฐาน NEDC และ 427 กม. ตามมาตรฐาน WLTP ด้วยบเลดแบทเตอรี (LFP) ขนาด 60.48 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ DC (CCS 2) 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จจาก 30-80 % ใช้เวลา 29 นาที จาก 0-80 % ใช้เวลา 43 นาที จาก 0-100 % ใช้เวลา 68 นาที AC (Type 2) 7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จจาก 0-100 % ใช้เวลา 10 ชม. เทียบกันระหว่างรุ่น Standard Range กับรุ่น Extended Range - ขนาดความจุแบทเตอรี (kWh) 44.9 กับ 60.48 น้อยกว่าอยู่ 15.58 - กําลังมอเตอร์ (kW) 70 กับ 150 น้อยกว่าอยู่ 80 - แรงบิดสูงสุด (Nm) 180 กับ 310 ต่างกัน 130 - พอร์ตชาร์จ DC-CCS2 (kW) 60 กับ 80 ต่างกัน 20 - ระยะทางการวิ่ง NEDC 410 กับ 490 น้อยกว่า 80 - ความเร็วสูงสุด (km/h) 150 กับ 160 ช้ากว่าแค่ 10 - ชาร์จจาก 30-80 % ใช้เวลา 28 นาที กับ 29 นาที เร็วกว่า 1 นาที จาก 0-80 % ใช้เวลา 42 นาที กับ 43 นาที เร็วกว่า 1 นาที จาก 0-100 % ใช้เวลา 67 นาที กับ 68 นาที เร็วกว่า 1 นาที - AC (Type 2) 7 กิโลวัตต์ชั่วโมง ชาร์จจาก 0-100 % ใช้เวลา 7.5 ชม. กับ 10 ชม. เร็วกว่า 2.5 ชม. ระบบกันสะเทือนด้านหน้า BYD Dolphin ทั้ง 2 รุ่นเป็นแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังต่างกัน ในรุ่น Standard Range ด้านหลังทอร์ชันบีม ส่วนรุ่น Extended Range ด้านหลังมัลทิลิงค์บีม ระบบกันสะเทือน รุ่น Standard Range ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม รุ่น Extended Range ระบบช่วงล่างด้านหลังแบบมัลทิลิงค์บีม เลอะกันสนิม ขนาดล้อ และยาง รุ่น Standard Range ล้อ 16 นิ้ว ยาง 195/60 R16 รุ่น Extended Range ล้อ 17 นิ้ว ยาง 205/50 R17   ด้านหลังแบบทอร์ชันบีม ลดอาการโยนตัว ควบคุมง่ายในจังหวะเข้าโค้ง ชอคอับดูดซับเก็บแรงกระแทก แม้จะเป็นช่วงคอสะพาน ระบบมัลทิลิงค์บีมด้านหลังของรุ่น Extended Range ให้ความนุ่มนวลในทุกสภาพถนน แม้ว่าถนนฝั่งซ้ายจะต่างจากฝั่งขวา มั่นใจในความปลอดภัยตลอดการเดินทาง ด้วยเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ลํ้าสมัยหลายรายการ ทั้งระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW), ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (AEB), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKS), ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถแบบฉุกเฉิน (ELKA), ระบบเตือนการชนเมื่อเปลี่ยนเลน (LCW) และระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา ทั้ง 2 รุ่น ติดตั้งระบบความปลอดภัยเหมือนกัน ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน • ระบบเบรคป้องกันล้อลอค Anti-lock Braking System : ABS • ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Program : ESP • ระบบกระจายแรงเบรค Electronic Brake Force Distribution : EBD • ระบบเบรคอัตโนมัติ Automatic Emergency Braking System : AEB • ระบบป้องกันการลื่นไถล Traction Control System : TCS ระบบความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น • ระบบเตือนการชนด้านหน้า Front Collision Warning : FCW • ระบบเตือนแรงดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System • กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องจราจร Lane Keeping Assist : LKA • ระบบเตือนเปลี่ยนเลน Lane Departure Warning : LDW • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control with Stop & Go • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ High Beam Assist : HMA BYD Dolphin เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับรถแบบ 5 ประตูทรงแฮทช์แบค ทั้งรุ่น Standard Range ในกลุ่มราคา 7 แสนบาท ด้วยความครบเครื่อง ทั้งการขับขี่ ความสะดวกสบาย ระบบช่วยการควบคุม ระบบความปลอดภัย และรุ่น Extended Range ในกลุ่มราคา 8 แสนบาท ด้วยอุปกรณ์ความสะดวกที่เพิ่มมากขึ้น และพละกำลังถึง 204 แรงม้า (PS) หรือ 150 กิโลวัตต์ พร้อมแรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. หรือ 310 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7 วินาที บวกกับประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการชาร์จไฟแทนการเติมน้ำมันที่นับวันจะมีราคาต่อลิตรแพงขึ้น BYD Dolphin รุ่น Standard Range ราคา 699,999 บาท BYD Dolphin รุ่น Extended Range ราคา 859,999 บาท