ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ถ้านึกถึงรถระดับไอคอนในอดีตที่เป็นพื้นฐานของอุตสาหกรรมรถยนต์ในยุโรป หนึ่งในนั้นต้องเป็น Citroën 2CV แต่ไม่ใช่ 2CV ธรรมดาที่เป็นรถราคาประหยัด และรูปทรงน่าขบขัน เพราะคันนี้คือ Citroën 2CV 4X4 Sahara ที่ผลิตขึ้นเพียง 693 คัน
หากเรียก Citroën 2CV 4X4 Sahara ว่าเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ นั้นยังสื่อความหมายของรถคันนี้ไม่พอ ความแตกต่างคือ 4X4 Sahara มีสองเครื่องยนต์วางด้านหน้าและด้านหลัง แยกกันทำงาน เจ้าของรถสามารถเลือกแบบการขับ ได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า, ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ
รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ราคาประหยัดออกมาจากโรงงานโดยมีสองเครื่องยนต์ ระบบเกียร์สองชุด แชสซีส์เสริมความแข็งแรง และชิ้นส่วนระบบรองรับขนาดใหญ่ เพื่อความทนทานต่อสภาพทุรกันดาร ถังน้ำมันแยกสองถังสำหรับเครื่องยนต์ทั้งสอง แม้เติมน้ำมันเต็ม รถคันนี้จะมีน้ำหนักเพียง 735 กิโลกรัม
การสตาร์ทเครื่องยนต์แบบตรงไปตรงมา ด้วยกุญแจสตาร์ทสองชุด ชุดกุญแจที่ใกล้กับแกนพวงมาลัยสำหรับสตาร์ทเครื่องยนต์หน้า และชุดถัดไปสำหรับเครื่องยนต์หลัง เครื่องยนต์ของ 2CV เป็นเครื่องยนต์แบบนอนยันสองสูบ ความจุกระบอกสูบ 425 ซีซี ให้กำลัง 13.5 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 2.7 กก.-ม. ถ้าใช้งานสองเครื่องยนต์พร้อมกันจะมีความเร็วสูงสุด 60 ไมล์/ชม. (96 กม./ชม.)
ถังน้ำมันทั้ง 2 ถัง ติดตั้งใต้เบาะหน้าทั้งสองฝั่ง จึงต้องเจาะรูข้างประตู สำหรับท่อรับน้ำมันทั้งสองฝั่ง การเลือกระบบขับเคลื่อนสามารถควบคุมผ่านกระเดื่องข้างโพรงเกียร์ โดยเลือกแบบการขับเคลื่อนได้ทั้งขับเคลื่อนล้อหน้า, ขับเคลื่อนล้อหลัง หรือขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทาง Citroën ได้ปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนตัวถังของ 4X4 Sahara หลายส่วน จึงทำให้รูปทรงภายนอกแตกต่างจาก 2CV รุ่นปกติที่เราคุ้นเคยกัน
บังโคลนมีรูปทรงต่างจากรุ่นธรรมดา ตัวรถด้านหลังเจาะช่องระบายความร้อนสำหรับเครื่องยนต์หลัง ฝาท้ายสร้างใหม่ พร้อมเจาะช่องสำหรับพัดลมระบายความร้อนจากเครื่องยนต์ ฝากระโปรงหน้าออกแบบเพื่อติดตั้งยางอะไหล่เหนือฝากระโปรงหน้า
ห้องโดยสารไม่มีฉนวนกันเสียง ทำให้ได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องยนต์ตลอดการเดินทาง สำหรับราคาขายก็เป็นอีกประเด็นนึง เนื่องจากในสมัยนั้น Citroën 2CV 4X4 Sahara มีราคาสูงกว่า 2CV รุ่นธรรมดาถึงสองเท่า จึงทำยอดขายไม่มากนัก รถรุ่นนี้จึงเหมือนกับรถต้นแบบที่ผลิตออกมาสำหรับการทดสอบมากกว่า
ปัจจุบัน มูลค่าของ Citroën 2CV 4X4 Sahara จากการประมูลของ Bonhams เมื่อปี 2562 จบราคาที่ 86,250 ยูโร (3.33 ล้านบาท) และอีกคันที่ประมูลในปีเดียวกันโดย Gooding & Company ที่ Pebble Beach จบราคาที่ 106,400 เหรียญ (3.83 ล้านบาท) และอีกคันที่มีการประมูลของ RM Sotheby‘s ที่ Villa Erba จบราคาที่ 74,750 ยูโร (2.88 ล้านบาท)