ข่าวจากประเทศอังกฤษ ระบุว่า Jaguar Land Rover ปรับแผนชะลอการผลิตรถไฟฟ้า (BEV) ออกไป และเพิ่มการผลิตรถ PHEV (พลัก-อิน ไฮบริด) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่อปี 2564 บริษัท JLR กำหนดเป้าหมายว่า ภายในปี 2569 บริษัทฯ จะผลิตรถไฟฟ้า Land Rover ทั้งหมด 6 รุ่น และ Jaguar อีก 2 รุ่น แต่เร็วๆ นี้ Adrian Mardell ผู้บริหารระดับสูงของ Jaguar Land Rover ได้กล่าวในการรายงานผลประกอบการของบริษัทฯ ว่า จะลดการผลิตรถไฟฟ้าเหลือ 4 รุ่น โดยมีรถไฟฟ้า Range Rover ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้ และตามมาด้วยรถไฟฟ้า Range Rover Sport
แม้การเปิดตัวรถไฟฟ้ามีความล่าช้ากว่าแผนเล็กน้อย เนื่องจากทางบริษัทฯ ต้องการใช้เวลาในการพัฒนารถให้ดีที่สุดเท่าที่ทางบริษัทฯ เคยผลิตรถออกมา
จากนั้นบริษัทฯ จะเปิดตัวรถไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกว่าออกมา โดยใช้พแลทฟอร์ม EMA ซึ่งเป็นพแลทฟอร์มใหม่ของบริษัทฯ ทราบว่าทั้ง 2 รุ่นจะมาแทน Range Rover Evoque และ Range Rover Velar ส่วน Defender EV น่าจะเปิดตัวได้ในปี 2573 ส่วน Jaguar จะเปิดตัวรถไฟฟ้า GT 4 ประตู ในปี 2568 จากนั้นจะมีรถไฟฟ้าเปิดตัวตามมาอีกรุ่น
Adrian Mardell แจ้งว่าความต้องการซึ้อรถไฟฟ้าล้วนของ JlR เริ่มลดลง ขณะเดียวกันบริษัทฯ ต้องเร่งผลิตรถ PHEV เพื่อสนองความต้องการเพิ่มขึ้น
แม้แต่ระดับ OEM เริ่มออกอาการชะงักงันกับสภาพการแข่งขันที่เปลี่ยนไปของตลาดรถ BEV ส่วนรถ PHEV สามารถสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ที่ทำให้ JLR ต้องเร่งการผลิตรถ PHEV ให้มากเพียงพอกับความต้องการของตลาด
เมื่อปีที่แล้ว (2566) JLR ทำยอดขายแซงผู้ผลิตรถรายอื่น เฉพาะในยุโรปสามารถทำยอดขายได้ 45,224 คัน หรือเพิ่มขึ้น 68 % ในขณะที่แผนกำหนดให้ทำยอดขาย BEV ให้ได้ 60 % ของรถทั้งหมด ในปี 2573 ก่อนเพิ่มการผลิตรถไฟฟ้าเป็น 100 % ในปี 2579