ธุรกิจ
Lotus เปิดตัว Emeya
Lotus Cars Thailand ผู้นำเข้า และตัวแทนจำหน่ายสปอร์ทคาร์สัญชาติอังกฤษ ภายใต้การบริหารงานของ เวิร์นส์ ออโตโมทีฟ ประเทศไทย เดินหน้าสร้างปรากฏการณ์สุดยิ่งใหญ่สะเทือนวงการรถสปอร์ทหรูเมืองไทย กับการเผยโฉม "Lotus Emeya" เป็นครั้งแรก ! ในเซาธ์อีสต์เอเชีย และเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียแปซิฟิค ในฐานะรถสปอร์ทซีดานไฟฟ้าล้วน 100 % Hyper-GT 4 Door with Dual-Motor ที่เร็วที่สุดในโลก
ธีรพงศ์ รอดลอย ผู้จัดการส่วนภูมิภาค เวิร์นส์ ออโทโมทีฟ ประเทศไทย เผยว่า“หลังจากที่เราได้เปิดตัว Lotus Eletre” ไฮเพอร์เอสยูวี รถไฟฟ้า 100 % ไปถึง 2 รุ่นย่อยในปีที่แล้ว ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างมากในประเทศไทย ด้วยฟังค์ชัน และสมรรถนะการขับขี่ระดับเวิร์ลด์คลาสส์ พร้อมดีไซจ์นที่โดดเด่นโฉบเฉี่ยว ทำให้สามารถดันยอดขายเกินเป้ากว่า 180 คัน ในปี 2566 โดยในไตรมาส 2 ของปี 2567 เราจะส่งมอบรถได้ตรงตามกำหนดมากกว่า 100 คัน และยังมีออร์เดอร์จองสะสมเข้ามาต่อเนื่องซึ่งคาดว่าจะส่งมอบได้ในช่วงสิ้นปีอีกกว่า 80 คัน ส่วนสำหรับในปี 2567 นี้ได้ตั้งเป้าไว้ที่ 250 คัน ในปีนี้ Lotus Cars Thailand ได้เดินแผนรุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ด้วยแนวโน้มตลาดรถไฟฟ้าที่เติบโตต่อเนื่องในทุกเซกเมนท์ โดยเฉพาะพรีเมียม เนื่องจาก มีผู้เล่นในตลาดมากขึ้น รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ BEV ครองตลาดภาพรวมที่ดีขึ้น อาจขยับไปได้ถึง 47 % หรือประมาณ 100,000 คัน ขณะที่ทเรนด์ของตลาดรถยนต์ BEV ทั้งในไทย และทั่วโลก มีแนวโน้มขยายตัว โดยคาดว่าในปีนี้ยอดขายของรถยนต์ BEV จะพุ่งแตะถึงหลัก 100,000 คัน ขณะที่เดือนมกราคม 2567 เดือนเดียวยอดขายรถยนต์ BEV ทั่วโลกมีมากถึง 1 ล้านคัน
“นับเป็นโอกาสสำคัญที่แบรนด์จะเข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมเต็มตัวในปี 2567 ในงานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 45 กับการเปิดตัว Lotus Emeya อย่างเป็นทางการครั้งแรกในประเทศไทย และเซาธ์อีสต์เอเชีย และเป็นประเทศที่ 2 ในเอเชียแปซิฟิค ทั้งนี้เพื่อเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาดรถสปอร์ทหรูด้วยมาตรฐานที่มีความแตกต่างตามแบบฉบับของ Lotus Cars ด้วย Driving Dynamics ที่มาจาก DNA ของแบรนด์ และเพื่อเป็นการย้ำทิศทางของแบรนด์ในการเดินหน้ารุกตลาดรถไฟฟ้ากลุ่มพรีเมียมอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยไฮไลท์ที่น่าสนใจของ Lotus Emeya ซึ่งถือเป็นรถสปอร์ทซีดานไฟฟ้าล้วน 100 % Hyper-GT with Dual-Motor ที่เร็วที่สุดในโลก เพื่อตอกย้ำทิศทางของแบรนด์ความเป็นที่สุดแห่งยนตรกรรมสปอร์ท ผู้นำแห่งการออกแบบยานยนต์ไฟฟ้าตามหลัก Aerodynamic ที่ได้ออกแบบการกระจายกำลังรถให้เท่ากัน 50:50 ทั้งด้านหน้า และด้านหลังได้อย่างดีเยี่ยม เพื่อให้เกิดความสมดุลในการทรงตัวที่ดีขณะขับขี่ และการเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานใหม่ในรถไฟฟ้าซีดานรุ่นแรกของแบรนด์ พร้อมต่อยอดความเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของ Lotus โดยนำเทคโนโลยีจากสนามสู่ถนน ด้วยระบบ DRS ช่วยจัดระบบไหลเวียนอากาศได้อย่างดี ตอบสนองการขับขี่ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ท เหมือนรถในสนามแข่ง F1 พร้อมทำลายสถิติใหม่กับอัตราการเร่งความเร็ว 0-100 กม./ชม. ใน 2.78 วินาที พร้อมจัดเต็มด้วยพละกำลังสูงสุด 905 แรงม้า ซึ่งถือเป็นรถที่แรงที่สุดในกลุ่มตลาดรถ EV ที่น่าจับตามองในตอนนี้ โดย Emeya S ราคา 5,990,000 บาท และ Emeya R ราคา 6,890,000 บาท พร้อมเปิดจองให้เป็นเจ้าของในงานได้ทันที และคาดการณ์ส่งมอบรถในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2024 เป็นต้นไป
Lotus Emeya ได้รับสมญานามในฐานะ "The World’s Fastest Electric Hyper-GT with Dual-Motor" ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากรุ่น Lotus Carlton รถซีดานแห่งยุค 90 ที่มีพลังแรงสูงเทียบชั้นรถสปอร์ท ถือได้ว่าเป็นการก้าวข้ามขีดจำกัดของการออกแบบ และการขับขี่ที่ยังคงรักษาคาแรคเตอร์ความเป็นรถสปอร์ทมาโดยตลอด สะท้อน DNA ของแบรนด์ Lotus Cars ที่สะสมประสบการณ์ และมีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานกว่า 75 ปี โดดเด่นด้วยดีไซจ์นภายนอกที่มีรูปทรงเฉียบคม มีความโฉบเฉี่ยว ตามแบบฉบับรถสปอร์ท
มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Active รูปทรงสามเหลี่ยมเป็นช่องดักอากาศ และ Splitter สร้างแรงกดด้านหน้าของรถ เพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนให้แก่รถได้ดียิ่งขึ้นเมื่ออยู่ช่วงความเร็วสูง อีกทั้งจุดเด่นของฟังค์ชัน Active Spoiler ด้านหลังขนาดใหญ่ถึง 296 มม. มาในรูปแบบ Dual Layer หรือเรียกว่า Double Wing ช่วยเพิ่มแรงกดถนน (Downforce) ได้มากถึง 215 กก. อีกทั้งยังมี Active Rear Diffuser ช่วยลดแรงหมุนของอากาศด้านท้ายรถ และช่วยระบายอากาศใต้ท้องรถให้เร็วขึ้น เพื่อรักษาเสถียรภาพในช่วงความเร็วสูง เพิ่มความคล่องตัวได้ทุกรูปแบบในทุกย่านความเร็ว มาพร้อมกับแรงเสียดทานต่ำเพียง 0.21 Cd มอบอรรถรสการขับขี่อย่างเหนือระดับทุกวินาที โดดเด่นด้วยอัตราความเร็วเหนือความคาดหมายจาก 0-100 กม./ชม. ใน 2.78 วินาที รวมทั้งการวางแบทเตอรีให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำ ซึ่งทำงานร่วม Anti-roll Control ช่วยรักษาสมดุลในช่วงความเร็วขณะเลี้ยวโค้ง พร้อมช่วงล่างถุงลมเป็นระบบกันสะเทือนแบบ Active ล้อ Forged น้ำหนักเบา ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการขับขี่อย่างสมบูรณ์แบบ
Lotus Emeya มาพร้อมกับเทคโลยีจาก NVIDIA ขุมพลังการประมวลผลอัจฉริยะด้วยชิพ Dual NVIDIA Drive Orin systems-on-a-chip (SoCs) ในการประมวลผลข้อมูลระบบ พร้อมรองรับ Autonomous Driving สูงสุดถึง Level 4 ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยพโรเซสเซอร์ Snapdragon 8155 ล่าสุดของ Qualcomm และซอฟท์แวร์ Unreal Engine 6 ยกระดับความปลอดภัยด้วยเซนเซอร์รอบคันที่ล้ำสมัย 34 ตัว สูงสุด 30 ครั้ง/วินาที เพื่อให้การรับรู้แบบ 360 องศาได้อย่างครอบคลุม โดยการสแกนหาสิ่งกีดขวางในรัศมีสูงสุด 200 ม. รอบรถ เพื่อสร้างความมั่นใจในทุกสภาพการขับขี่ พร้อมชุดไฟส่องสว่างแบบ Matrix LED ที่มีดีไซจ์นเป็นเอกลักษณ์ สามารถปรับตามสภาพการขับขี่อัตโนมัติ เพื่อให้ความสว่างสูงสุดอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ส่งผลกระทบกับรถที่วิ่งสวนมา พร้อมสมรรถนะมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ระบบ Dual Motors ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD จัดเต็มด้วยพละกำลังสูงสุด 905 แรงม้า แรงบิด 985 นิวตันเมตร ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 260 กม./ชม. และระยะทางวิ่งไกล 610 กม./ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP และใช้เวลาเพียง 18 นาที ในการชาร์จช่วง 10-80 % ด้วยความจุแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 350 กิโลวัตต์ รองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC สูงสุด 22 กิโลวัตต์ รองรับการเดินทางไกลได้ด้วยรูปแบบ Grand Tourer และตอบโจทย์การขับขี่ในเมือง และมีการออกแบบภายในที่หรูหรา มีระบบ Infotainment Hyper-OS แสดงผลผ่าน Head up Display และจอ OLED สร้างบรรยากาศการเดินทางภายในรถด้วยเครื่องเสียงจาก KEF รองรับระบบ Dolby Atmos อีกด้วย
พบสุดยอดรถหรูสมรรถนะสูง 2 รุ่นเรือธง “Lotus Eletre” และ “Lotus Emira”
Lotus Eletre” ไฮเพอร์เอสยูวี รถไฟฟ้า 100 % ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามจากการเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ถือเป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สร้างการยอมรับยนตรกรรมสปอร์ท ที่ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทุกรูปแบบ ด้วยพื้นที่ภายในกว้างขวาง รองรับการใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์ นำมาจัดแสดงทั้ง 2 รุ่นย่อย ได้แก่
Lotus Eletre S ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 603 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 710 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้ระยะเวลา 4.5 วินาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ความจุแบทเตอรี่ขนาด 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 600 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ราคา 5.89 ล้านบาท
Lotus Eletre R ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 905 แรงม้า แรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 985 นิวตันเมตร มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 2.95 วินาที ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (AWD) ความจุแบทเตอรีขนาด 112 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทาง 490 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง (ตามมาตรฐาน WLTP) ราคา 6.59 ล้านบาท
Lotus Emira รถสปอร์ทระดับตำนานที่ถือเป็นรุ่นชูโรงของแบรนด์ ถือเป็นเครื่องยนต์สันดาปรุ่นสุดท้าย ที่มาพร้อมการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวดุดันในเซกเมนท์รถสปอร์ท ผสานเส้นสายที่คมชัด การออกแบบที่ลื่นไหล และยังคงรักษา DNA ของ Lotus เข้าไว้ด้วยกัน ออกแบบภายใต้หลักอากาศพลศาสตร์ น้ำหนักเบา ช่วงล่างสปอร์ท หรูหรา ไม่เหมือนใคร มาพร้อมแรงขับเคลื่อนที่เร้าใจ เพื่อได้สัมผัสประสบการที่แตกต่างไม่เหมือนใคร โดยมีทั้งหมด 2 รุ่น คือ
Emira 2.0 First Edition มาพร้อมเครื่องยนต์ 4 สูบ Turbocharged Inline 4 พร้อมทำความเร็วได้สูงสุด 275 กม./ชม. พร้อมพุ่งทะยานได้สูงด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เพียง 4.3 วินาทีเท่านั้น ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์จากสนามแข่ง ถ่ายทอดสู่ท้องถนน ตามแบบฉบับ DNA ของ Lotus ในราคา 9.99 ล้านบาท+
Emira V6 First Edition ขุมพลังเครื่องยนต์สันดาปรุ่นสุดท้ายของ Lotus Cars ที่มาพร้อมการออกแบบที่ล้ำยุค โฉบเฉี่ยวดุดันในเซกเมนท์รถสปอร์ท Lotus Emira เป็นซูเพอร์คาร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมความเร้าใจ และคุณลักษณะที่พบได้ในรถยนต์ Lotus ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 Supercharge ขนาด 35 ลิตร ผสมผสานกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ให้พละกำลังสูงถึง 400 แรงม้า และแรงบิด 420 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 290 กม./ชม. ในราคา 12.9 ล้านบาท+