ถ้าคิดจะเป็นสายลุย ยางดอก AT/MT/RT ต่างกันอย่างไร ?

นาทีนี้เรียกได้ว่า รถกระบะ หรือรถเอสยูวี เป็นรถอีกประเภทหนึ่งที่นิยมใช้งานกันเป็นอย่างมาก ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และใช้ในกิจกรรมยามว่างในรูปแบบต่างๆ ทั้งการท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบาย รวมถึงความตื่นเต้นแบบออฟโรด ที่มีเส้นทางขรุขระตามป่าเขา ดังนั้น การเลือกยางรถยนต์ที่ใช้งานจึงต้องเลือกให้เหมาะสมแก่การใช้งานแต่ละประเภท ที่พร้อมใช้ในทุกสถานการณ์ มาดูกันว่า ยางสำหรับรถกระบะ และรถเอสยูวี มีแบบไหนบ้าง โดยแบ่งยางออกเป็น 3 ประเภท สำหรับสายลุย

A/T All-Terrain  
60 % Road & 40 % Off-Road

ดอกยาง มีขนาดใหญ่ และหนา ตัวร่องยางจะมีความห่างจากกันเล็กน้อย เน้นให้ดอกยางมีการสัมผัสกับพื้นถนนได้มาก และดอกยางสามารถตะกุยดินได้ ใช้งานสำหรับรถกระบะแบบ 4x4 และ 4x2 ใช้งานได้ดีทั้งบนถนนทั่วไป และสามารถนำเอาไปใช้ลุยได้ในระดับหนึ่ง เน้นการขับขี่ถนนทั่วไป และขับลุยทางขรุขระบ้างบางครั้งตามโอกาส โดยลักษณะดอกยางนั้นจะละเอียดที่สุดใน 3 แบบ เน้นความนุ่มเงียบในการใช้งานในชีวิตประจำวัน และถนนดำ และสามารถลุยทางขรุขระได้เป็นอย่างดี ซึ่งยาง A/T เป็นยางที่มีน้ำหนักเบาที่สุดจากทั้ง 3 แบบ จึงช่วยให้ความต้านทานการหมุนน้อย และช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลงได้เป็นอย่างดี  

โดยรูปแบบการดีไซจ์นสำหรับยาง A/T จะเน้นการออกแบบบลอคดอกยางที่ละเอียด แต่ยังคงมีความแข็งแกร่งของดอกยางให้ทนทานได้กับการขับขี่บนพื้นผิวที่ขรุขระ รวมถึงร่องยางบริเวณหน้ายางสำหรับการระบายบนถนนเปียก อีกทั้งการเพิ่มลวดลายความโดดเด่นของยาง A/T ด้วยการออกแบบแก้มยางด้วยตัวอักษรนูนสีขาว เพื่อให้รถคันโปรดของคุณโดดเด่นไม่ซ้ำใคร 

โดยยาง A/T ที่ได้รับความนิยมขณะนี้ก็จะมี ยาง Toyo Open Country A/T III White Letter ยาง All-Terrain ที่สมบูรณ์แบบทั้งรูปลักษณ์ และสมรรถนะ (Real All-Terrain Tire) เพิ่มความโดดเด่นให้ทุกการขับขี่ด้วยการออกแบบแก้มยางด้วยตัวอักษรนูนสีขาว พร้อมด้วยการออกแบบบลอคดอกยางที่แข็งแกร่งด้วยดอกยาง และร่องยางแบบซิกแซก (Zigzag Block & Zigzag Groove) หน้ายางที่กว้างแบบ Square Should และโครงสร้างยางที่แข็งแรง ทำให้การควบคุมการขับขี่ที่ลงตัวบนทางเรียบทั้งบนถนนแห้ง และถนนเปียก และเต็มสมรรถนะบนถนนขรุขระ (Off-Road) รวมถึงการจัดเรียงดอกยางที่ลงตัว ช่วยทำให้เสียงรบกวนจากยางขณะขับขี่ลดลง ราคาเริ่มต้นเส้นละ 3,900 บาท/เส้น

M/T Mud-Terrain
15 % Road & 85 % Off-Road

ยางสำหรับสายลุย ตะกุยหิน สลัดดิน สนุกกับการค้นหา และการผจญภัย พร้อมลุยทุกเส้นทาง โดยลักษณะดอกยางดังกล่าวจะเป็นดอกยางบั้งใหญ่ เพื่อช่วยในการตะกุยหิน และดินโคลน และสลัดออกจากหน้ายางได้อย่างง่ายดาย โดยยางดังกล่าวจะมีโครงสร้างชั้นผ้าใบที่หนา และแข็งแรง เพื่อรองรับแรงกระแทกต่างๆ จากก้อนหิน และสิ่งมีคมจากหินบนเส้นทางต่างๆ จากการออกแบบดอกยางให้มีบลอคดอกยางที่ใหญ่ และร่องดอกยางเป็นบั้งลึกมีขนาดสูง จึงช่วยให้การยึดเกาะบนพื้นที่ยากลำบากต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเนินหินสูงชัน หรือถนนดินเลน หรือโคลน สามารถทำการยึดเกาะ และขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี การออกแบบบลอคดอกยางที่ใหญ่ และดุดัน ช่วยเติมเต็มความเป็นสิงห์ออฟโรดสายลุยให้แก่รถของคุณได้เป็นอย่างดี แต่อาจจะต้องแลกมาด้วยเสียงยางที่ดังมากขึ้นจากการขับขี่บนท้องถนน และน้ำหนักยางที่มากขึ้นสำหรับการใช้งาน

โดยยาง M/T ที่ได้รับการออกแบบโดดเด่น ดุดัน ไม่เหมือนใครในขณะนี้ก็จะมี ยาง Toyo Open Country M/T เป็นยางสำหรับคอออฟโรดพันธุ์แกร่งตัวจริง ด้วยโครงสร้างยางที่แข็งแกร่งรองรับแรงกระแทก และช่วยปกป้องจากคมหินได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยบลอคดอกยางที่โดดเด่นแข็งแกร่ง ได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับการบุกตะลุยเส้นทางแบบออฟโรดอย่างแท้จริง เป็นยางที่เน้นความสมบุกสมบันในทุกสภาพถนน ประกอบกับการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า ทำให้เป็นยางที่ดีเยี่ยมในการควบคุม ทั้งบนทางแบบออฟโรด และบนถนนทั่วไป ราคาเริ่มต้นเส้นละ 10,000 บาท/เส้น

R/T Rugged-Terrain
50 % Road & 50 % Off-Road

ยางไฮบริด ลูกผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ทั้งในเรื่องโครงสร้างยาง และการออกแบบบลอคดอกยางระหว่างยาง A/T กับ M/T ลักษณะดอกยางมีช่องขนาดใหญ่ และแก้มยางที่เป็นบลอคเล็กๆ เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถการเคลื่อนตัวจากดินโคลนให้มีมากขึ้น รวมถึงร่องดอกยางบริเวณหน้ายางเพิ่มการระบายน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความยึดเกาะในสภาพถนนเปียกได้เป็นอย่างดี ซึ่งยางดังกล่าวสามารถใช้งานในการขับขี่ได้ดีทั้งบนพื้นถนนทั่วไป ทางขรุขระ หรือรวมถึงทางวิบากแบบออฟโรด โดยโครงสร้างยางจะมีการเสริมผ้าใบมากกว่ายาง A/T เพื่อเพิ่มความทนทาน และการควบคุมที่ดีในการขับขี่ สำหรับยางดังกล่าว

โดยยาง R/T ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดขณะนี้นั้นจะมี Toyo Open Country R/T ซึ่งเป็นยางที่ตอบสนองทั้งประสิทธิภาพบนถนนขรุขระ และความนุ่มสบายบนทางเรียบ ผสมผสานอย่างเป็นเอกลักษณ์ได้อย่างลงตัวในการออกแบบบลอคดอกยาง และแก้มยาง จึงให้แรงกรุยได้ดีบนถนนขรุขระ และมีประสิทธิภาพที่ดีบนทางเรียบ ทั้งในสภาพผิวถนนแห้ง และเปียก และป้องกันเศษหินติดบริเวณหน้ายาง รวมถึงทั้งให้อายุการใช้งานยาวนานที่พึงพอใจต่อผู้ใช้ จากการออกแบบบลอคดอกยางบริเวณหน้ายางให้ยึดตัวกันอย่างแข็งแกร่ง และจัดเรียงดอกยางบริเวณหน้ายางได้อย่างลงตัวด้วยเทคโนโลยี T-Mode จึงทำให้ช่วยลดเสียงรบกวนจากยางขณะขับขี่ได้เป็นอย่างดี ราคาเริ่มต้นเส้นละ 6,450 บาท/เส้น