คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย)ฯ ในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านยางรถยนต์ระดับโลกจากเยอรมนี ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ในการก่อตั้งธุรกิจยางรถยนต์ในประเทศไทย พร้อมกับการครบรอบ 5 ปี ในการเปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่จังหวัดระยอง ด้วยการลงทุนมากกว่า 276 ล้านยูโร หรือกว่า 11,000 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุด และเป็นฐานการผลิตขนาดใหญ่ของ Continental เพื่อผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเล็ก ตลอดจนรถจักรยานยนต์ ทั้งยังมีส่วนส่งเสริมการจ้างงานกว่า 900 ตำแหน่ง โรงงานแห่งนี้กำลังก้าวขึ้นเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนของ Continental ในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค พร้อมทั้งมีส่วนในการยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนแก่ผู้ขับขี่ และผู้ใช้งานผ่านผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากเยอรมนี
คาเรล คูเซรา (Karel Kucera) กรรมการผู้จัดการ บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในการเฉลิมฉลองครบรอบ 15 ปี ของการก่อตั้งธุรกิจยางรถยนต์ Continental ในประเทศไทย ทำให้เรามองย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้น และการเดินทางที่ผ่านมาอย่างภาคภูมิใจ และเรายังมุ่งมั่นที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างเต็มกำลัง ผ่านการปรับใช้กลยุทธ์วิสัยทัศน์ปี 2573 ที่พร้อมเสริมสร้างแรงบันดาลใจในทุกๆ วันแก่ลูกค้า ให้ทุกคนมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยยาง Continental ทั้งยังพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับด้านความปลอดภัย และส่งเสริมความยั่งยืนในสังคมมากขึ้น
"ย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราเริ่มเดินเครื่องการผลิต และสามารถส่งมอบยางเส้นแรกจากโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่จังหวัดระยองได้สำเร็จในเดือนพฤษภาคม 2562 ปัจจุบัน ถือว่าเราขับเคลื่อนเข้าใกล้เป้าหมายในการเป็นแบรนด์ระดับโลกที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของตลาดแต่ละประเทศมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดยเราต้องการสร้างความมั่นใจว่า Continental จะสามารถให้บริการลูกค้าด้วยความรวดเร็ว เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และมอบความปลอดภัยผ่านการเลือกใช้ยางระดับพรีเมียม เรามุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ รวมถึงการบริการต่างๆ อันยอดเยี่ยมในทุกมิติ เราพร้อมที่จะอยู่ตรงนี้ และก้าวไปข้างหน้ากับลูกค้า และพนักงานทุกคนอย่างยั่งยืน"
เดินหน้าสู่อนาคตด้วยการยกระดับความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการขับขี่
นอกจากนี้ โรงงานยางที่ระยองยังได้เริ่มการผลิตนวัตกรรมยางรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง “MaxContactMC7“ ซึ่งมีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยเร็วๆ นี้ โดยยางรุ่นนี้ถือเป็นยางสปอร์ทระดับพรีเมียมที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนการขับขี่ประจำวันให้มีความสนุกยิ่งขึ้น ทั้งยังมอบความปลอดภัยสูงสุดอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเพื่อตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในรถยนต์ไฟฟ้า Continental จึงเตรียมพร้อมที่จะเปิดตัวยางที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าย้อนไปในปี 2566 ที่ผ่านมา ทาง Continental ได้ส่งมอบยางแก่ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำที่มียอดผลิตสูงสุด 5 อันดับแรกในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเรามีเทคโนโลยีพิเศษที่ตอบโจทย์ความต้องการของรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ContiSeal™ เทคโนโลยีที่จะช่วยอุดรอยรั่วได้ทันที ลดการใช้ยางอะไหล่ หรือจะเป็น ContiSilent™ ยางที่สามารถลดเสียงรบกวนเพื่อการขับขี่ที่เงียบสงบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ปราศจากเสียงเครื่องยนต์ ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งด้านความเชี่ยวชาญของยาง Continental สำหรับทั้งรถยนต์สันดาปทั่วไป และรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างดีเยี่ยม
โรงงานแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จของ Continental มาตั้งแต่ช่วงเริ่มต้น โดยความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความมุ่งมั่น และความทุ่มเทของพนักงานทุกคน ทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากทุกภาคส่วน ทั้งซัพพลายเออร์ ผู้แทนจำหน่าย และลูกค้าทุกท่าน ตลอดจนความรู้ความชำนาญที่มีร่วมกันกับเครือข่ายโรงงานผลิตยางรถยนต์ Continental อีกกว่า 20 แห่งทั่วโลก อันเป็นส่วนช่วยผลักดันให้ Continental ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสวยงาม
วิกเนซ เดวาเซนาพาที (Vignesh Devasenapathy) ผู้จัดการโรงงาน บริษัท คอนติเนนทอล ไทร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า เรามีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ส่งมอบทั้งความรวดเร็ว ความน่าเชื่อถือ และความหลากหลายในการผลิตยางที่โรงงานในจังหวัดระยอง นอกจากนี้ เรายังมีความเชื่อมั่นในการเติบโต และความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในอนาคตของ Continental ผมจึงอยากกล่าวขอบคุณพนักงาน หน่วยงานท้องถิ่น พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนลูกค้าของเราที่ทำให้ Continental เติบโตด้วยความสำเร็จมาจนถึงวันนี้
โรงงานยางที่จังหวัดระยอง นับว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างอันโดดเด่นทางด้านความเป็นเลิศในกระบวนการผลิต โดยเติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากเริ่มเดินเครื่องการผลิต และส่งมอบยางเส้นแรกให้แก่ลูกค้าชั้นนำระดับโลก ที่เจาะจงเลือกใช้ยาง Continental ให้เป็นยางสำหรับรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน หรือที่เรียกกันว่ายาง OE (Original Equipment) ได้สำเร็จในปี 2562 หรือเพียง 2 ปีหลังจากการก่อตั้งโรงงาน ปัจจุบันโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตสูงถึง 4 ล้านเส้น/ปี โดยมีการผลิตยางคุณภาพสูงสำหรับรถยนต์ และรถบรรทุกขนาดเล็ก ภายใต้แบรนด์ Continental, General Tire และ Viking
นอกจากนี้ Continental ได้ขยายการลงทุนก่อสร้างโรงงานยางรถจักรยานยนต์ในประเทศไทย ในปี 2565 ซึ่งเป็นโรงงานยางรถจักรยานยนต์แห่งที่ 2 ที่ก่อตั้งนอกประเทศเยอรมนี สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และคุณภาพด้านกระบวนการผลิตอันทันสมัย โดยมีพนักงานกว่า 900 คน ที่พร้อมส่งมอบผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียม ทั้งอุปกรณ์ดั้งเดิม และอุปกรณ์เสริม ให้แก่ลูกค้า และพันธมิตรในทุกภาคส่วน นอกจากโรงงานแห่งนี้จะเป็นแบบอย่างของวัฒนธรรมการทำงานสมัยใหม่แล้ว ยังนำเสนอความเป็นสากล และความหลากหลายทางเพศ ตลอดจนความปลอดภัยอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดระยะเวลาในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องกว่า 3 ปีเต็ม
โรงงานแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่สำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางวิศวกรรมชั้นนำของเยอรมนีมาสู่เมืองไทยเท่านั้น แต่ยังถูกสร้างขึ้นด้วยมาตรฐาน และประสิทธิภาพอันสูงสุดในระดับเดียวกันกับโรงงานผลิตยางรถยนต์ Continental ทั่วโลก เครื่องจักรในโรงงานได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีเพื่อกระบวนการผลิตที่ยั่งยืน อีกทั้งกระบวนการลอจิสติคส์แบบอัตโนมัติระดับสูง ที่ช่วยให้พนักงานทุกคนได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ลงตัวตามหลักสรีรศาสตร์
Continental มุ่งมั่นตอบแทนผู้มีอุปการคุณทุกภาคส่วนด้วยนวัตกรรมชั้นนำระดับโลก
โครงการริเริ่มด้านการประหยัดพลังงานของ Continental ถูกนำมาปรับใช้ในกระบวนการผลิตของโรงงานยางที่จังหวัดระยอง โดยในปี 2566 โรงงานแห่งนี้ได้ขยายกําลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เป็น 4.2 เมกะวัตต์ ซึ่งมีกําลังการผลิตไฟฟ้าโซลาร์เซลล์เพิ่มขึ้นประมาณ 2.5 เมกะวัตต์ ปัจจุบัน แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งอยู่ในโรงงานสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ทั้งหมด 13 % ของไฟฟ้าที่จําเป็นในกระบวนการผลิต
การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ณ โรงงานยาง Continental จังหวัดระยอง
นอกจากนี้ Continental ยังสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นผ่านโครงการ และกิจกรรมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โครงการด้านความปลอดภัย ด้านสุขภาพ ด้านคุณภาพชีวิต และการศึกษา เช่น การปลูกต้นไม้ การปรับปรุงสนามเด็กเล่นในโรงเรียน การสร้างความตระหนักรู้ การให้ความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัย การแยกขยะ และเรื่องสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน สำหรับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดระยอง