รถล่าสุด
Honda HR-V e:HEV โฉมใหม่ล่าสุด ราคาโดยประมาณ 89X,XXX-1,1XX,XXX บาท ! (ขึ้นโชว์รูมปลายเดือนหน้า)
Honda HR-V e:HEV (ฮอนด้า เอชอาร์-วี อี:เอชอีวี) ใหม่ ปรับโฉมล่าสุด โดดเด่นด้วยดีไซจ์นภายนอกสไตล์ Original Sport Fastback พร้อมภายในห้องโดยสารกว้างขวางสะดวกสบาย มาพร้อมฟังค์ชันการใช้งานล้ำสมัย เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย และเทคโนโลยีการขับขี่ระดับพรีเมียม เบาะโดยสารด้านหลังสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้สูงสุด ยกระดับความสปอร์ทอีกขั้นกับรุ่น e:HEV RS ดีไซจ์นสปอร์ทรอบคันทั้งภายนอก และภายใน เครื่องยนต์ระบบ Full Hybrid e:HEV ผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน มีสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกสนาน ตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัวกับแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 253 นิวทันเมตร/25.8 กก.-ม. ที่ 0-3,500 รตน. อัตราการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยถึง 25.6 กม./ลิตร ไปได้ไกลกว่า 800 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง
Honda HR-V e:HEV (รถคันจริงจะเปิดตัวในงาน Motor Expo 2024 วันที่ 28 พย. 2567 และจะเริ่มลงโชว์รูมอย่างเป็นทางการหลังจากวันดังกล่าว)
รุ่น e:HEV E ราคา (โดยประมาณ) 89X,XXX บาท
รุ่น e:HEV EL ราคา (โดยประมาณ) 1,0XX,XXX บาท
รุ่น e:HEV RS ราคา (โดยประมาณ) 1,1XX,XXX บาท
โดยมีพโรโมชันพิเศษ คือ ผู้ที่จองสิทธิ์ตั้งแต่วันนี้ ถึงสันที่ 27 พย. 2567 จะได้รับบัตรน้ำมันมูลค่า 5,000 บาท ส่วนผู้ที่จอง และรับรถตั้งแต่วันที่ 28 พย. – 31 ธค. 2567 จะได้รับราคาพิเศษช่วงแนะนำของรุ่น e:HEV E ที่ 89X,XXX บาท , ดอกเบี้ยพิเศษสำหรับกลุ่ม Honda Loyalty สำหรับเจ้าของรถยนต์ Honda และครอบครัว และรับบัตรเติมน้ำมันสูงสุด 30,000 บาท จากแคมเปญ Honda Happy Trade-In จากการขายรถคันเดิมเพื่อออกรถยนต์ Honda HR-V e:HEV โฉมใหม่ล่าสุด
ไฮไลท์จุดเปลี่ยนที่โดดเด่นของ Honda HR-V e:HEV ใหม่
• ดีไซจ์นภายนอกมีความสปอร์ทแกร่งสไตล์เอสยูวีไปอีกขั้น ด้านหน้าดีไซจ์นใหม่ ยกระดับความสปอร์ทแกร่งยิ่งขึ้น พร้อมกับกระจังหน้าใหม่ ที่สะท้อนความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น
• ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง สะดวกสบายทุกที่นั่ง พร้อมเพิ่มเติมฟังค์ชันการใช้งานใหม่ในทุกรุ่นย่อย
• ใหม่! การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบน และส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
• ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• ใหม่! อัพเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ในทุกรุ่นย่อย โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรค
จุดเปลี่ยนใหม่ของ Honda HR-V e:HEV ใหม่ รุ่น e:HEV RS
• ใหม่! การออกแบบด้านหน้าดีไซจ์นใหม่ ยกระดับความสปอร์ทแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าโครเมียมแบบสปอรทแบบใหม่ พร้อมสัญลักษณ์ RS
• ใหม่! ไฟท้ายแบบ Full LED Light Strip ดีไซจ์นใหม่ สี Smoke เสริมความสปอร์ทโดดเด่นยิ่งขึ้น
• ใหม่! ล้อแมกดีไซจ์นสปอร์ตขนาด 18 นิ้ว กับสีใหม่ สีดำ Berlina Black แบบ Diamond cut
• ใหม่! ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB)
• ใหม่! ไฟส่องสว่างด้านข้างอัตโนมัติขณะเลี้ยว (Active Cornering Light: ACL)
• ใหม่! เซนเซอร์กะระยะด้านหลัง 4 จุด
• ใหม่! การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ ด้วยการแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
• ใหม่! อัพเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
จุดเปลี่ยนใหม่ของ Honda HR-V e:HEV ใหม่ รุ่น EL และรุ่น E
• ใหม่! การออกแบบด้านหน้าดีไซจ์นใหม่ ยกระดับความสปอร์ทแกร่งยิ่งขึ้น ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าใหม่ สีเดียวกับตัวรถ ทั้งรุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E
• ใหม่! การออกแบบคอนโซลกลางใหม่ แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนทั้งส่วนบนและส่วนล่าง โดยมาพร้อมช่องเก็บของพร้อมถาดอเนกประสงค์ มอบความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้งาน
• ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• ใหม่! รุ่น e:HEV EL เพิ่มเบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
• ใหม่! รุ่น e:HEV EL เพิ่มอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
• ใหม่! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E อัปเกรดช่องเชื่อมต่อ USB เป็นทั้งหมด 4 ตำแหน่ง โดยมาพร้อมช่องเชื่อมต่อ USB Type-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และช่องเชื่อมต่อ USB Type-A ด้านหน้า จำนวน 1 ช่อง
• ใหม่! รุ่น e:HEV EL และรุ่น e:HEV E แผงบังแดดคู่หน้าพร้อมกระจกส่องหน้าแบบมีฝาปิด มาพร้อมไฟส่องสว่าง
• ใหม่! รุ่น e:HEV E เพิ่มช่องปรับอากาศตอนหลัง
สีภายนอกมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีใหม่! สีกากีแซนด์ (มุก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน สะท้อนลุคสปอร์ตพรีเมียมอีกขั้น เอกซ์คลูซีฟเฉพาะรุ่น e:HEV RS และ e:HEV EL สีแดงอิกไนต์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมหลังคาสีดำสไตล์ทูโทน (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) พร้อมด้วยสีขาวพรีเมียมซันไลท์ (มุก) สีเทา เมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก) สีขาวแพลทินัม (มุก) และสีดำคริสตัล (มุก)
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุดกับเบาะนั่งด้านหลังแบบอเนกประสงค์แยกพับแบบ 60:40 ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ 3 รูปแบบ มอบพื้นที่ใช้งานอเนกประสงค์ด้วยห้องสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ ได้แก่
• Utility Mode: เบาะด้านหลังทั้ง 2 ด้านปรับพับเรียบ เพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Honda ที่เบาะผู้โดยสารด้านหลังสามารถพับลงแนวราบได้เรียบ ช่วยเพิ่มพื้นที่สัมภาระด้านท้าย
• Long Mode: เบาะด้านหน้า และด้านหลังปรับพับ เพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวยาว
• Tall Mode: ซึ่งนับเป็นเอกลักษณ์ความอเนกประสงค์ที่โดดเด่นของ Honda ที่สามารถพับเบาะด้านหลังขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของในแนวสูง ก้าวสู่อีกขั้นของสมาร์ทไลฟ์สไตล์ กับฟังค์ชันล้ำสมัย และเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย
• ใหม่! ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto
• ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าแบบแฮนด์ฟรี พร้อมระบบปิดอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Hands-free Power Tailgate with Walk Away Close) (รุ่น e:HEV EL และ e:HEV RS) อำนวยความสะดวกขึ้นอีกขั้น เพียงสอดเท้าไปที่เซนเซอร์บริเวณใต้กันชนด้านหลัง ระบบจะเปิดฝากระโปรงท้ายโดยอัตโนมัติ จากนั้นจึงกดสวิทช์ปิด พร้อมทั้งหยิบสัมภาระออกจากท้ายรถ และเดินออกห่างจากตัวรถ ระบบจะทำการปิดฝากระโปรงท้ายลงโดยอัตโนมัติ โดยขณะใช้งานจะต้องมีกุญแจรีโมทอยู่กับตัว และอยู่ห่างจากตัวรถอย่างน้อย 1 ม.
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว พร้อม ใหม่! จอแสดงไฟเบรค
• อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) (รุ่น e:HEV RS และใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV EL)
• เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง (รุ่น e:HEV RS และใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV EL)
• ช่องเชื่อมต่อ USB ทั้งหมด 4 ตำแหน่ง ทุกรุ่นย่อย ได้แก่ ใหม่! USB-C จำนวน 3 ช่อง (ด้านหน้า 1 ช่อง และด้านหลัง 2 ช่อง) และ USB-A จำนวน 1 ช่อง (ด้านหน้า)
• ช่องปรับอากาศผู้โดยสารตอนหลัง (รุ่น e:HEV RS, รุ่น e:HEV EL และใหม่! สำหรับรุ่น e:HEV E)
ระบบไฮบริด ประหยัดน้ำมันที่ 25.6 กม./ลิตร
ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด e:HEV ที่ผสานการทำงานอันทรงพลังร่วมกันของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ในระบบเกียร์อัตโนมัติ E-CVT กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และชุดหน่วยควบคุมอัจฉริยะ (Intelligent Power Unit - IPU) ที่มาพร้อมแบตเตอรีลิเธียม-ไอออน ซึ่งมีน้ำหนักเบา และขนาดกะทัดรัด สามารถเก็บประจุไฟ และช่วยให้การชาร์จไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งสามารถชาร์จไฟเข้าสู่แบทเตอรีโดยอัตโนมัติในขณะขับขี่ มอบการตอบสนองทันใจตั้งแต่ออกตัวกับกำลังสูงสุดจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ 131 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 253 นิวทันเมตร/25.8 กก.-ม. ที่ 0-3,500 รตน. อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 25.6 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยไอเสียเฉลี่ยเพียง 94 กรัม/กม. สามารถไปได้ไกลกว่า 800 กม. ด้วยน้ำมันเพียง 1 ถัง
*หมายเหตุ: ตัวเลขระยะทางที่แสดงข้างต้น อ้างอิงและไม่เกินจากการคำนวณตาม Eco Sticker (ขึ้นอยู่กับสภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ของแต่ละบุคคล) อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
โดยระบบฟูลไฮบริด e:HEV มีจุดเด่นอยู่ที่การปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้อย่างชาญฉลาด สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้โดยอัตโนมัติตามความเหมาะสมและสถานการณ์การขับขี่ โดยระบบจะเลือกโหมดที่เหมาะสมตามระดับแบทเตอรี สภาพถนน และพฤติกรรมการขับขี่ ประกอบด้วย 3 โหมดการทำงาน ได้แก่
• โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โดยมอเตอร์จะขับเคลื่อนล้อด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบทเตอรี มอบอัตราเร่งที่ดีเยี่ยม ออกตัวได้อย่างรวดเร็วทันใจโดยไม่ต้องรอรอบ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง ช่วยให้สามารถขับขี่ในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) ได้อย่างต่อเนื่อง
• โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) โดยระบบจะขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เกิดจากเครื่องยนต์ และแบทเตอรี ผสานกำลังในการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เกิดแรงบิดสูงสุดอย่างรวดเร็ว มอบอัตราเร่งที่นุ่มนวล และทรงพลัง
• โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) โดยชุดลอคอัพคลัทช์ที่อยู่ในเกียร์อัตโนมัติ E-CVT จะเชื่อมต่อเครื่องยนต์ และส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง ซึ่งให้ประสิทธิภาพสูง และมีแรงเสียดทานต่ำ เป็นระบบที่เหมาะสมกับการขับขี่โดยใช้ความเร็วสูงคงที่
มอบความมั่นใจยิ่งขึ้นในการใช้งาน ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางโดยทุกรุ่นย่อย ยังมาพร้อมกับสวิทช์ฟังค์ชัน Drive Mode ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดายตามความต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 โหมด ได้แก่
• ECON Mode - โหมดการขับขี่แบบประหยัด พร้อมปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์กับการขับขี่เพื่ออัตราการประหยัดเชื้อเพลิงมากขึ้น ตามรูปแบบการขับขี่
• Normal Mode - โหมดการขับขี่แบบปกติ สำหรับการขับขี่ใช้งานโดยทั่วไป
• Sport Mode - โหมดการขับขี่แบบสปอร์ท ที่ช่วยปรับการทำงานของเครื่องยนต์ให้พร้อมตอบสนองการเร่งได้ดียิ่งขึ้น เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ
อีกทั้งระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย (Deceleration Paddle Selectors) ที่ช่วยหน่วงความเร็วรถ ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องแตะเบรคบ่อย ๆ เมื่อขับรถตามคันหน้าหรือในจังหวะที่กำลังจะติดไฟแดง โดยเมื่อผู้ขับขี่ถอนเท้าออกจากคันเร่ง จะสามารถควบคุมอัตราการชะลอความเร็วของรถได้โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมช่วงระยะการลดความเร็วได้ 4 ระดับ อีกทั้งเมื่อขับรถลงทางลาด ผู้ขับขี่สามารถควบคุมช่วงระยะการลดความเร็วได้ ส่งผลให้สามารถรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยกับรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าได้ นอกจากนี้ขณะลดความเร็ว ยังสามารถช่วยชาร์จไฟฟ้ากลับเข้าสู่แบทเตอรีได้อีกด้วย มอบความสะดวกสบายควบคู่ไปกับความปลอดภัย
ทุกรุ่นย่อยมาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda Sensing
• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรค (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือน และช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
• ใหม่! ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ (Adaptive Driving Beam: ADB) (เฉพาะรุ่น e:HEV RS) โดยระบบจะปรับการทำงานของไฟสูง-ต่ำ แยกอิสระซ้าย-ขวา อัตโนมัติ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืนและปรับองศาของแสงไฟเพื่อลดการรบกวนรถยนต์ด้านหน้าหรือรถที่กำลังสวนทางมา
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (Lead Car Departure Notification System: LCDN)
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.honda.co.th/