ศึก MotoGP สนามประเทศไทย รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024 ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ ขณะเกมการแข่งขันเข้มข้นระดับ 5 ดาว ท่ามกลางแฟนความเร็วตลอด 3 วันมากถึง 205,343 คน ผลรุ่นใหญ่ “ฟรานเชสโก บันยาญา”แชมพ์โลก 2 สมัยชาวอิตาเลียนจาก Ducati (ดูคาติ) เข้าวินพร้อมตีตื้น “ฮอร์เก มาร์ติน” คู่แข่งชาวสแปนิชจาก พรามัค เรซิง เหลือ 17 คะแนน ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ฮีโรนักบิดชาวไทยจาก Idemitsu Honda Asia Team สร้างผลงานสุดประทับใจ สตาร์ทกริด 13 แซงคว้าทอพ 4 ในรุ่น Moto2 ส่วน “ไอ โอกูระ” นักบิดญี่ปุ่นได้ฉลองแชมพ์อย่างยิ่งใหญ่กับแฟนชาวไทยที่บุรีรัมย์
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมพ์โลก MotoGP 2024 สนาม 18 รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024 ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศ ที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์
ไฮไลท์อยู่ที่การขับเคี่ยวเพื่อลุ้นแชมพ์โลกพรีเมียร์คลาสส์ โดยก่อนแข่ง “ฮอร์เก มาร์ติน” นักบิดสแปนิชจาก พรีมา พรามัค เรซิง มีคะแนนนำ ฟรานเชสโก บันยาญา แชมพ์โลก 2 สมัยชาวอิตาเลียนจาก Ducati Lenovo Team อยู่ทั้งสิ้น 22 คะแนน โดยก่อนแข่ง “เมนกรังด์ปรีซ์” มีฝนตกลงมาส่งผลให้ต้องประกาศเป็น “Wet Race” แข่งขันท่ามกลางผิวทแรคเปียก ชิงชัยทั้งสิ้น 26 รอบสนาม
กริดสตาร์ทในเรศนี้มี “บันยาญา” เป็นเจ้าของโพล ขนาบข้างด้วยทีมเมทชาวอิตาเลียนอย่าง “เอเนีย บาสเตียนินี” ในกริดที่ 2 หลังเพิ่งคว้าชัยชนะสปรินท์มาในวันเสาร์ ส่วน “มาร์ติน” เริ่มเกมจากกริดที่ 3 ในแถวหน้าเช่นกัน และอีกตัวแปรสำคัญ คือ “มาร์ค มาร์เกซ” แชมพ์โลก 8 สมัยจาก เกรซินี เรซิง ในกริดที่ 5
เริ่มเกมเป็น “มาร์ติน” ที่ออกนำได้ก่อนหลังผ่านโค้งแรก ตามด้วย “มาร์เกซ” และ “บันยาญา” ที่แม้จะพลาดในช่วงออกตัวแต่ก็สามารถกลับสู่ความเร็วที่ดีได้ ก่อนจะแชมพ์โลกชาวอิตาเลียนจะขยับขึ้นเป็นหัวแถวได้ในรอบที่ 4 และปิดจอบคว้าชัยชนะไปครองได้สำเร็จด้วยเวลา 43 นาที 38.108 วินาที เหนือ “มาร์ติน” ในอันดับ 2 อยู่ 2.905 วินาที ส่วนอันดับ 3 ได้แก่ “เปโดร อคอสตา” นักบิดสแปนิชจาก เรดบูล แกสแกส เทคทรี ที่มาไล่แซงช่วงท้ายอย่างสุดมันส์ ตามหลัง 3.8 วินาที
ขณะที่อันดับ 4 และ 5 ตกเป็นของ “ฟาบิโอ ดิ จิอันนันโตนิโอ” นักบิดอิตาเลียนจาก เปอร์ตามินา เอนดูโร วีอาร์46 ตามด้วย “แจค มิลเลอร์” นักแข่งชาวออสเตรเลียนจาก Redbull KTM Factory Racing ในอันดับ 5 ด้าน “มาร์ค มาร์เกซ” พลาดล้มที่โค้ง 8 ขณะลุ้นแซง บันยาญา ก่อนนำรถเข้าป้ายในอันดับ 11
สถานการณ์ลุ้นแชมพ์โลกของรุ่นใหญ่ ยังคงดำเนินอย่าเข้มข้น โดยชัยชนะของ “บันยาญา” ทำให้สามารถบีบระยะเข้าไปหา “มาร์ติน” เหลือเพียง 17 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันทั้งสิ้น 2 Grand Prix และ 2 สปรินท์
ด้านผลการแข่งขันในรุ่น Moto2 เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่แฟนชาวไทยลุ้นอย่างหนัก เมื่อ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ซูเพอร์สตาร์ชาวไทยจาก Idemitsu Honda Asia Team สร้างผลงานสุดประทับใจ ด้วยการออกตัวจากกริดที่ 13 ไล่แซงคว้าอันดับ 4 หลังมีธงแถงช่วง 2 รอบสุดท้าย หลังจากที่มีฝนตกลงมา
ส่วนผู้ชนะได้แก่ “แอรอน คาเนต” นักบิดสแปนิชจาก ฟานติค เรซิง ด้วยเวลา 32 นาที 2.751 วินาที ตามด้วย “ไอ โอกูระ” นักบิดญี่ปุ่นจาก เอมที เฮลเมตส์-เอ็มเอสไอ ในอันดับ 2 ตามหลัง 3.684 วิ นาที เพียงพอให้เขาคว้าแชมพ์โลก Moto2 ในฤดูกาลนี้ไปครอง ได้ฉลองอย่างยิ่งใหญ่กับแฟนชาวไทยที่บุรีรัมย์ ขณะที่อันดับ 3 เรศนี้ ได้แก่ “มาร์กอส รามิเรซ” นักบิดสแปนิชจาก อเมริกันส์ เรซิง ตามหลัง 4.683 วินาที
โดยผลการแข่งขันในรุ่นเล็กอย่าง Moto3 ต้องมาตัดสินกันถึงโค้งสุดท้าย ชัยชนะตกเป็นของ “ดาวิด อลอนโซ” นักบิดโคลัมเบียนแชมพ์โลกปีนี้จาก ซีเอฟ โมโต กาวิโอตา อัสพาร์ ทีม ด้วยเวลา 20 นาที 29.345 วินาที เฉือน “ลูกา ลูเนตตา” นักบิดอิตาเลียนจาก ซิค58 สควอดรา คอร์เซ อันดับ 2 เพียง 0.353 วินาที ตามด้วย “คอลลิน วายเยอร์” นักบิดดัตช์จาก ลิควิ โมลี ฮัสควานา อินแทค จีพี ตามหลัง 0.522 วินาที ส่วน “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดไทยจาก Honda Asia Team ฟอร์มเยี่ยมสตาร์ทจากกริดที่ 25 บิดคว้าอันดับ 17 ตามหลังผู้ชนะ 17.262 วินาที
สำหรับ PT Grand Prix of Thailand 2024 ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ โดยได้รับความสนใจจากแฟนความเร็วทั่วโลก ขณะเดียวกันก็มีผู้ชมเข้าสู่สนามตลอดทั้งสุดสัปดาห์มากถึง 205,343 คน โดยฤดูกาลหน้า สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท ได้รับการยืนยันให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันสนามแรกของปี ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์-2 มีนาคม 2025 รวมถึงการเป็นสนามทดสอบ “Pre-Season Test” ในวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ทไทย