รถล่าสุด
MG IM6 รถยนต์ไฟฟ้าสุดล้ำ เตรียมเปิดราคาวันที่ 18 มีนาคม นี้ !!

MG (เอมจี) เดินหน้าสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่วงการยานยนต์ไทย โดยเตรียมนำ New MG IM6 (เอมจี ไอเอม 6) ใหม่ ซึ่งเป็นยนตรกรรมไฟฟ้าระดับพรีเมียมในเครือ SAIC Motor Corporation ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของจีนเข้าสู่ตลาดยานยนต์ไทย หลังจากปรากฏตัวอย่างเป็นทางการครั้งล่าสุดกับเวอร์ชันพวงมาลัยขวาครั้งแรกในโลกที่ประเทศไทยในงาน Motor Expo 2024 ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม โดย IM6 เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ด้วยการผสานนวัตกรรมขั้นสูงเข้ากับงานออกแบบที่เหนือระดับ โดย IM6 ยังชูจุดเด่นในการเป็นยนตรกรรมอีวีระดับพรีเมียมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความหรูหรา เพื่อมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยสำหรับผู้ใช้งาน
เตรียมพร้อมบุกตลาดไทยด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย ภายใต้ชื่อ “New MG IM6”
ในฐานะที่ MG เป็นผู้บุกเบิกในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย MG จึงตัดสินใจนำยนตรกรรมรุ่นเรือธง IM6 เข้ามาทำเปิดตลาดในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “New MG IM6” เพื่อยกระดับตลาดรถยนต์ไฟฟ้าพรีเมียมในประเทศไทยเทียบชั้นอุตสาหกรรมยานยนต์โลก
คลิพรีวิว MG IM6 และ Cyberster จากงาน Thailand International Motor Expo 2024
การเปิดตัว New MG IM6 อย่างเป็นทางการในประเทศไทยจะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้ โดยจะประกาศราคาในวันที่ 18 มีนาคม และ MG พร้อมจะยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของผู้บริโภคชาวไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น ด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ล้ำสมัยระดับโลก พร้อมตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างครบครัน
ความเชื่อมโยงระหว่าง MG และ IM6
IM6 ถือเป็นยานยนต์ที่เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ร่วมกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ 3 ราย ได้แก่ SAIC Motor Corporation ผู้ถือหุ้นใหญ่ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ MG, Zhangjiang Hi-Tech และ Alibaba Group การผนึกกำลังครั้งนี้รวมความเชี่ยวชาญจากหลากหลายด้าน ทั้งประสบการณ์การผลิตรถยนต์อันยาวนานของ SAIC Motor Corporation เทคโนโลยีขั้นสูงจาก Zhangjiang Hi-Tech และความเป็นผู้นำด้านดิจิทอลของ Alibaba Group นับเป็นก้าวใหม่สู่การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยสองปัจจัยหลัก คือ ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า (Electrification) และเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Intelligent Technologies) ด้วยเหตุนี้ IM6 จึงถือกำเนิดขึ้นภายใต้แนวคิด “Intelligence in Motion" โดยมุ่งมั่นที่จะไม่เพียงสร้างสรรค์ยานยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังตั้งเป้าปฏิวัติประสบการณ์การขับขี่ด้วยนวัตกรรมล้ำสมัย โดยวางรากฐานการพัฒนาบนเสาหลัก 3 ประการ ได้แก่
Intelligent Driving Experience - เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ให้เหนือชั้น ด้วยการผสานระบบควบคุมการขับขี่อัตโนมัติขั้นสูงเข้ากับระบบช่วงล่างดิจิทอลที่สามารถปรับตัวได้ตามสภาพถนน ทำให้ผู้ขับขี่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหมือนกำลังควบคุมรถสมรรถนะสูง ไม่ว่าจะขับขี่ในเส้นทางใดก็มั่นใจได้ในสมรรถนะ และความปลอดภัย
Futuristic Safety Technology - เทคโนโลยีที่ได้รับการออกแบบให้ฉลาดล้ำยุค ด้วยระบบ AI ที่สามารถเรียนรู้ และปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้ขับขี่ พร้อมระบบความปลอดภัยอัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์รอบคัน เพื่อคาดการณ์ และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน
Advanced Electrification - นำเสนอนวัตกรรมขั้นสูงด้านพลังงานไฟฟ้า เริ่มจากพแลทฟอร์มไฟฟ้า 800V ที่ชาร์จได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์พลังสูงที่ให้อัตราเร่งระดับซูเพอร์คาร์ พร้อมแบทเตอรีรุ่นใหม่ และระบบระบายอากาศรุ่นล่าสุดที่มีความปลอดภัยสูง และอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ในทุกการเดินทาง
นอกจากดีไซจ์นรถยนต์ที่ล้ำสมัย และเต็มเปี่ยมไปด้วยความอัจฉริยะแล้วนั้น IM6 ยังสะท้อนความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผ่านโลโกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่หน้ารถ โดยนำตัวอักษร “IM” มาเปลี่ยนเป็นเลขฐานสอง (Binary Code) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทอล สะท้อนปรัชญาการออกแบบได้อย่างลงตัว
นอกจากยนตรกรรมที่เป็นที่น่าจับตามองแล้ว IM6 ยังสามารถคว้ารางวัลมากมายในอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรางวัล Red Dot Design Award ปี 2021 และ 2024 จากประเทศเยอรมนี จากระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ IM OS สาขา Brand & Communication Design และรางวัล Product Design Award จาก IM6 ตามลำดับ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงความเป็นเลิศในศาสตร์แห่งการออกแบบ สะท้อนความหรูหรา และตอกย้ำความมั่นใจในระบบความปลอดภัย ด้วยการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว จาก C-NCAP (China-New Car Assessment Programme) อีกด้วย
ความสำเร็จของ IM6 ที่ประเดิมเปิดตัวในประเทศจีน
IM6 ปรากฏตัวครั้งแรกในงาน Geneva Motor Show 2024 โดยเป็นยนตรกรรมอเนกประสงค์อัจฉริยะที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของชาวเมืองด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ภายนอกโดดเด่นด้วยดีไซจ์นที่ผสานความสง่างาม และทรงพลัง โดยได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากสื่อมวลชน และผู้เชี่ยวชาญในวงการยานยนต์ จากทั่วทุกมุมโลก พิสูจน์ได้จากยอดจองที่พุ่งสูงทะลุ 6,000 คันในช่วงเวลาเพียง 12 ชม. แรกของการเปิดจอง นับเป็นความสำเร็จที่เกินความคาดหมาย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อถึงเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 ยอดขายสะสมได้พุ่งทะยานขึ้นไปถึง 70,000 คัน ครองสัดส่วนถึง 57 % ของยอดขายทั้งหมดของแบรนด์
ตัวเลขความสำเร็จอันน่าประทับใจนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงของผู้บริโภคที่มีต่อรถ e-SUV ไฟฟ้าขนาดกลางถึงใหญ่รุ่นนี้เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดยานยนต์ไฟฟ้าสมัยใหม่ได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจุดเด่นสำคัญหลายประการที่ได้รับการกล่าวถึงของยนตรกรรมรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็น การออกแบบที่ผสานความหรูหรา และความทันสมัย ห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือระดับ ระบบขับขี่อัจฉริยะที่ใช้งานง่าย และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ นั่นคือ ระยะเวลาการชาร์จไฟที่รองรับการชาร์จไฟแบบ DC สูงสุดถึง 396 กิโลวัตต์