ธุรกิจ
Porsche เปิดตัว 911 GTS ใหม่

Porsche ประเทศไทย เปิดตัว Porsche 911 GTS (โพร์เช 911 จีทีเอส) รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid เป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมาพร้อมระบบขับเคลื่อนที่ได้รับการพัฒนาใหม่ เพื่อยกระดับสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้น
Michael Vetter กรรมการผู้จัดการ Porsche ประเทศไทย เปิดเผยว่า 911 GTS ใหม่ที่มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid ก็ได้กลับขึ้นสู่จุดสูงสุดของกลุ่มรถสปอร์ทสมรรถนะสูงอีกครั้ง ด้วยการยกระดับสมรรถนะผ่านระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ที่เป็นหัวใจของ 911 ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการขับขี่ในชีวิตประจำวัน การควบคุมที่เฉียบคม และอารมณ์ความรู้สึกที่ได้รับจากการขับขี่อย่างแท้จริง
911 GTS ใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid เพื่อสมรรถนะที่เหนือชั้น
Porsche เผยโฉม 911 GTS ใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยี T-Hybrid เป็นครั้งแรก เพื่อยกระดับสมรรถนะสู่มาตรฐานใหม่ โดยนับเป็นการอัพเกรดครั้งสำคัญของตระกูล 911 อันเป็นเอกลักษณ์ กับการติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริดสำหรับการใช้งานบนท้องถนนเป็นครั้งแรกในรุ่น 911 Carrera GTS (911 คาร์เรรา จีทีเอส) ระบบไฮบริดสมรรถนะสูงใหม่นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีมอเตอร์ สปอร์ท ช่วยเพิ่มทั้งพละกำลัง และประสิทธิภาพการขับขี่อย่างมีนัยสำคัญ โดยยังสามารถควบคุมน้ำหนักตัวรถให้เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย ยังคงไว้ซึ่งบาลานศ์ และความคล่องตัวตามแบบฉบับของ 911 ได้อย่างลงตัว
911 GTS ใหม่ มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์บอกเซอร์ขนาด 3.6 ลิตร ที่ได้รับการพัฒนาใหม่อย่างเต็มรูปแบบ โดยผสานการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เทอร์โบชาร์เจอร์ และแบทเตอรีแรงดันสูงขนาดกะทัดรัด เพื่อมอบสมรรถนะระดับสูงควบคู่กับการควบคุมน้ำหนักที่แม่นยำ มอเตอร์ไฟฟ้าตัวแรกถูกติดตั้งภายในเทอร์โบชาร์เจอร์ ทำหน้าที่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สามารถสร้างพลังงานไฟ ฟ้าได้สูงสุดถึง 20 กิโลวัตต์ (27 แรงม้า) และยังช่วยให้เทอร์โบตอบสนองได้อย่างฉับไว ลดอาการรอรอบ (Turbo Lag) เพื่อการเร่งที่ลื่นไหลในทุกช่วงความเร็ว
มอเตอร์ไฟฟ้าอีกตัวถูกติดตั้งอยู่ในระบบเกียร์อัตโนมัติ Porsche Doppelkupplung (PDK) 8 จังหวะ ทำหน้าที่ช่วยเสริมแรงบิดของเครื่องยนต์บอกเซอร์ได้สูงสุดถึง 300 นิวทันเมตร และเพิ่มกำลังขับเคลื่อนอีก 40 กิโลวัตต์ ส่งผลให้การตอบสนองของรถแม่นยำและเร้าใจยิ่งขึ้น มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัวทำงานร่วมกับแบทเตอรีแรงดันสูงขนาด 1.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักรวมของตัวรถให้คงไว้ซึ่งความสมดุลอันเป็นเอกลักษณ์ของ 911
นอกจากนี้ Porsche ยังได้ติดตั้งแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนขนาดเล็กสำหรับระบบไฟฟ้าขนาด 12 โวลท์ แทนที่แบทเตอรีทั่วไป เพื่อลดน้ำหนักโดยรวม และเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายกำลังไฟฟ้าภายในระบบของรถอย่างเหมาะสมที่สุด ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีมอเตอร์สปอร์ทเข้ากับยนตรกรรมสำหรับการใช้งานจริงได้อย่างลงตัว
แม้ในขณะที่ไม่มีการช่วยเสริมจากระบบไฟฟ้า เครื่องยนต์บอกเซอร์ขนาด 3.6 ลิตรของ 911 GTS ใหม่ ยังคงให้พละกำลังสูงถึง 357 กิโลวัตต์ (485 แรงม้า) และแรงบิด 570 นิวทันเมตร อย่างไรก็ ตาม เมื่อทำงานร่วมกับระบบ T-Hybrid สมรรถนะโดยรวมของรถจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ด้วยพละกำลังรวมสูงสุด 398 กิโลวัตต์ (541 แรงม้า) และแรงบิด 610 นิวทันเมตร ส่งผลให้รถสามารถเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลาเพียง 3.0 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 312 กม./ชม.
นอกเหนือจากการยกระดับด้านขุมพลัง Porsche (โพร์เช) ยังได้ปรับปรุงด้านอากาศพลศาสตร์ และระบบช่วงล่างของ 911 GTS ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุม โดยมาพร้อมระบบกันสะ เทือน Porsche Active Suspension Management (PASM) ที่ปรับระดับความสูงของตัวรถให้ต่ำลง 10 มม. เสริมด้วยระบบเลี้ยวล้อหลัง (Rear-Axle Steering) ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น GTS ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในความเร็วสูง และความคล่องตัวในความเร็วต่ำ ขณะเดียวกัน ระบบควบคุมช่วงล่าง Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) ยังได้รับการผสานเข้ากับระบบไฮบริดโดย ตรง เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง และการทรงตัวในทุกสภาพถนน
ด้านดีไซจ์น และสมรรถนะทางอากาศ 911 GTS ใหม่ติดตั้งช่องระบายอากาศแบบแอคทีฟ พร้อมดิฟฟิวเซอร์ด้านหน้าที่สามารถปรับการไหลเวียนของอากาศโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มแรงกด และลดแรงต้าน ช่วยเสริมประสิทธิภาพ และการยึดเกาะถนนในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง ปิดท้ายด้วยชุดแอโรไดนามิคเสริม และล้อดีไซจ์นใหม่ ที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มความโดดเด่นด้านรูปลักษณ์ แต่ยังยกระดับการตอบสนอง และเสถียรภาพของรถในทุกสภาวะการขับขี่อย่างแท้จริง
ภายนอกของ Porsche 911 GTS ใหม่ ได้รับการปรับดีไซจ์นให้ทันสมัย และทรงพลังยิ่งขึ้น ด้วยชุดไฟหน้าแบบ Matrix LED ดีไซจ์นใหม่ กันชนหน้าที่ได้รับการออกแบบให้มีมิติ และความโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น พร้อมส่วนท้ายที่เสริมเส้นสายให้ดูแข็งแกร่ง แถบไฟท้ายดีไซจ์นใหม่พร้อมโลโก "Porsche" แบบฝังในตัว สะท้อนความประณีตในทุกรายละเอียด และช่วยเพิ่มความรู้สึกของความกว้างและความดุดันให้แก่ตัวรถ สำหรับรุ่น Carrera GTS ยังมาพร้อมระบบไอเสียสปอร์ทแบบเฉพาะตัวที่ออกแบบมาเพื่อมอบเสียงเครื่องยนต์ที่เร้าใจยิ่งขึ้น
ภายในห้องโดยสาร Porsche ได้พลิกโฉมการออกแบบภายในของ 911 GTS ใหม่สู่ระบบดิจิทอลเต็มรูปแบบ โดยเปลี่ยนจากการใช้กุญแจแบบหมุนสตาร์ทมาเป็นปุ่มกด พร้อมติดตั้งแผงหน้าปัดแบบ ดิจิทอลขนาด 12.6 นิ้ว ซึ่งสามารถปรับแต่งการแสดงผลได้ตามความต้องการของผู้ขับขี่ ระบบ Porsche Communication Management (PCM) ได้รับการอัพเกรดให้รองรับการใช้งาน Apple Car Play อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้สามารถเข้าถึง และควบคุมฟังค์ชันต่างๆ ของรถผ่านอุปกรณ์ Apple ได้โดยตรง นอกจากนี้ ยังเสริมความสะดวกสบายด้วยช่องชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย ระบบช่วยขับขี่ที่พัฒนาให้ทันสมัยยิ่งขึ้น และฟีเจอร์การสตรีมวีดีโอเพื่อเติมเต็มประสบการณ์การเดินทางในทุกมิติ
911 GTS T-Hybrid ใหม่ เปิดให้สั่งจองอย่างเป็นทางการแล้วในประเทศไทย โดยมีให้เลือกครบทั้งตัวถังแบบ Coupe, Cabriolet และ Targa พร้อมระบบขับเคลื่อนทั้งแบบล้อหลัง และขับเคลื่อน 4 ล้อ ทุกรุ่นมาพร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติอัจฉริยะ Porsche Doppelkupplung (PDK) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับรุ่น 911 Carrera GTS ราคาเริ่มต้นที่ 17.4 ล้านบาท
นอกจากนี้ Porsche ยังนำ Curvistan Bangkok พื้นที่ไลฟ์สไตล์มัลทิฟังค์ชันชื่อดังจากย่านทองหล่อ มาจัดแสดงอย่างเต็มรูปแบบ ถ่ายทอดบรรยากาศของ Porsche Community ที่เปี่ยมด้วยความหรูหรา และรสนิยม พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่เสมือนห้องนั่งเล่นสุดเอกซ์คลูซีฟ ที่อบอวลด้วยเสน่ห์ของยนตรกรรมระดับตำนาน เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสสมรรถนะ ความประณีต และมรดกแห่งแบรนด์ Porsche อย่างใกล้ชิดในบรรยากาศอันเป็นกันเอง
นอกจากนี้ ผู้เข้าชมยังจะได้พบกับข้อเสนอ และแคมเปญสุดพิเศษสำหรับรถยนต์ Porsche หลากหลายรุ่นภายในงาน ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ใกล้ชิดกับยนตรกรรมระดับตำนาน พร้อมสัมผัสจิตวิญ ญาณแห่งการขับขี่ที่ Porsche นำเสนอได้อย่างสมบูรณ์แบบ อย่าพลาดโอกาสพิเศษนี้ ! งานจัดแสดงตั้งแต่วันนี้-6 เมษายน 2568