ธุรกิจ
GAC เปิดกลยุทธ์ระดับโลก
GAC International (จีเอซี อินเตอร์เนชันแนล) บริษัทในเครือของ Guangzhou Automobile Group Co., Ltd. (GAC Group) เปิดตัวกลยุทธ์ระดับโลก “ONE GAC 2.0” และแผน “ภารกิจประเทศไทย” (Thailand Action) สะท้อนความมุ่งมั่นของ GAC International ในการยกระดับการดำเนินงานในประเทศไทย และในระดับโลก ผ่านแนวทางที่ให้ความสำคัญกับการ “ผลิตเพื่อท้องถิ่น โดยท้องถิ่น”
GAC International พลิกบทบาท “ผู้ส่งออก” สู่ “ผู้สร้างคุณค่าในตลาดโลก”
จากอดีตที่ GAC Group เน้นเพียงการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก GAC International ได้ปรับเปลี่ยนบทบาทใหม่เป็น “ผู้สร้างระบบนิเวศในตลาดเป้าหมาย” ด้วยโมเดลธุรกิจแบบคู่ขนาน ได้แก่
· การส่งออก (Vehicle Export)
· การผลิตในพื้นที่ (Localized Manufacturing)
· การพัฒนาเครือข่ายบริการ และโครงสร้างพื้นฐานพลังงาน (Service Networks and Energy Infrastructure Development)
GAC International เลือกประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร แรงงานที่มีทักษะสูงในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ และนโยบายภาครัฐที่มุ่งสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
Wayne Wei ประธานกรรมการบริหาร GAC International กล่าวว่า เรามองเห็นศักยภาพมหาศาลของตลาดไทย ไม่เพียงแต่ในฐานะตลาดผู้บริโภค แต่ยังรวมถึงการเป็นฐานการผลิต การส่งออก และการพัฒนาเทคโนโลยีระดับภูมิภาค เราต้องการ "เติบโตไปพร้อมกับประเทศไทย" อย่างแท้จริง
ปัจจุบัน GAC International ได้วางรากฐานการดำเนินงานในกว่า 74 ประเทศ ครอบคลุมทั้งภูมิภาคเอเชีย, ตะวันออกกลาง, ยุโรป, แอฟริกา และอเมริกาใต้ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการส่งออกมากกว่า 500,000 คัน ภายในปี 2027 และก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ยานยนต์จีนที่ผู้บริโภคทั่วโลกไว้วางใจ
GAC Group ผู้นำด้านนวัตกรรม และคุณภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน
Guangzhou Automobile Group Co., Ltd. (GAC Group) เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของประเทศจีน มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองกว่างโจว และดำเนินธุรกิจครอบคลุมทั้งการผลิตรถยนต์ การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานใหม่ การผลิตแบทเตอรี ระบบชาร์จ การพัฒนาพแลทฟอร์มการเดินทางอัจฉริยะ และการให้บริการทางการเงินในภาคยานยนต์ โดยจุดเด่นของ GAC Group คือ ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมควบคู่กับการรักษามาตรฐานคุณภาพระดับสูง ผ่านเครือแบรนด์หลัก 3 แบรนด์ ได้แก่
· Aion (ไอออน)-ผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าระดับแนวหน้า มุ่งนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ดีไซจ์นที่โดดเด่น และคุณภาพระดับพรีเมียม เพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ และครอบครัวที่เน้นความคุ้มค่า และสมรรถนะ ปัจจุบัน Aion ครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ในประเทศจีน และกำลังขยายตัวสู่ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว
· Hyptec (ไฮพ์เทค)-แบรนด์ยานยนต์หรูพลังงานใหม่ ที่เปรียบได้กับเรือธงของ GAC Group ด้านเทคโนโลยี และความหรูหรา ด้วยการออกแบบเฉียบคม วัสดุระดับไฮเอนด์ และสมรรถนะเหนือระดับ Hyptec มุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ที่ต้องการประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัยเหนือความคาดหมาย
· GAC Motor (จีเอซี มอเตอร์)-แบรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดภายในประเทศ โดยเน้นไปที่รถยนต์ระดับครอบครัว และภาครัฐ ด้วยดีไซจ์นเรียบหรู สง่างาม เทคโนโลยีที่ใช้งานได้จริง และราคาที่เข้าถึงได้ Trumpchi (ทรัมพ์ชิ) คือ แบรนด์ที่สะท้อนคุณภาพที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างแท้จริง
GAC Group เดินหน้าสร้าง “ระบบนิเวศยานยนต์ใหม่” ที่เชื่อมโยงการผลิต การจำหน่าย และการบริการอย่างไร้รอยต่อ พร้อมลงทุนด้านวิจัย และพัฒนา (R&D) อย่างต่อเนื่อง และดำเนินงานตามแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) โดยได้รับการจัดอันดับใน “Fortune Global 500” อย่างต่อเนื่องถึง 12 ปีซ้อน
ONE GAC 2.0 วิสัยทัศน์เพื่อโลกยานยนต์ยุคใหม่
กลยุทธ์ ONE GAC 2.0 เป็นการอัพเกรดแผนยุทธศาสตร์ระดับโลกของ GAC Group ที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2024 โดยมุ่งเน้นการสร้าง “แบรนด์ระดับโลกที่น่าเชื่อถือ มีคุณภาพสูง และล้ำสมัย” ผ่านหลักการสำคัญ 4 ประการ ได้แก่
· หนึ่งวิสัยทัศน์: ผู้สร้างคุณค่าแห่งการขับเคลื่อน เพื่อชีวิตที่ดียิ่งกว่า
· หนึ่งเป้าหมาย: มุ่งสู่การเป็นแบรนด์ยานยนต์ระดับโลก ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ นวัตกรรม และความน่าเชื่อถือในระดับสากล
· หนึ่งภาพลักษณ์: เป็นพันธมิตรที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภคทั่วโลก
· หนึ่งแผนปฏิบัติในท้องถิ่น: ขับเคลื่อนด้วยแผนโลคัลไลซ์ โดยผสานแผนงานเข้ากับท้องถิ่น การให้บริการ
และการสร้างคุณค่าให้แก่ประเทศไทย
แผนนี้ได้รับการสนับสนุนผ่าน 5 มาตรการหลัก
1. การพัฒนาผลิตภัณฑ์
2. การขยายช่องทางจัดจำหน่าย
3. การยกระดับบริการลูกค้า
4. การผลิตอัจฉริยะ
5. การสร้างระบบพลังงาน และการเดินทางที่สมบูรณ์
“ภารกิจประเทศไทย” การลงมือปฏิบัติจริงในภาคสนาม
ภายใต้กรอบของ ONE GAC 2.0 GAC International ได้เปิดตัว “ภารกิจประเทศไทย” อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง “ระบบนิเวศยานยนต์ครบวงจร” สำหรับตลาดไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในแง่ผลิตภัณฑ์ การผลิต การขาย และบริการหลังการขาย โดยมีไฮไลท์ดังนี้
ด้านผลิตภัณฑ์-GAC ได้เปิดตัวรถยนต์ 2 รุ่นใหม่ เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุม และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย
· Aion UT: รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ มาพร้อมดีไซจ์นสไตล์มิลาน เทคโนโลยี L2+ และระบบความปลอดภัยระดับโลก
· M8 PHEV: รถเอมพีวีหรู ระบบพลัก-อิน ไฮบริด ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มครอบครัว และลูกค้าระดับผู้บริหาร
ช่องทางจัดจำหน่าย-ตั้งเป้าเปิดโชว์รูมใหม่ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศมากยิ่งขึ้น ด้วยหลักแนวคิด “ครบจบในที่เดียว” เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้าถึง และยกระดับประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า
บริการหลังการขาย-นำระบบ GSSW (GAC International Sales and Service Workflow) มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมระบบดิจิทอลที่ช่วยให้บริการโปร่งใส และรวดเร็ว เช่น แอพพลิเคชันดูสถานะการซ่อมบำรุงแบบเรียลไทม์
การผลิตอัจฉริยะ-โรงงาน GAC ในประเทศไทย เริ่มเดินสายผลิตตั้งแต่ปี 2024 โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับ “โรงงานอัจฉริยะต้นแบบ” ที่ประเทศจีน และตั้งเป้าดำเนินการผลิตเต็มกำลังภายในปลายปี 2026 และมีแผนส่งออกรถยนต์จากประเทศไทยไปสู่ตลาดในภูมิภาคอาเซียน
ระบบพลังงาน และการเดินทาง-GAC มุ่งมั่นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยอย่างครบวงจร เพื่อรองรับอนาคตแห่งการขับเคลื่อนพลังงานสะอาด
· แผน “100 เมือง 1,000 จุดชาร์จ” ภายในปี 2027 เริ่มจากสร้าง 25 สถานี 76 หัวชาร์จ ในปี 2025
· ตั้งศูนย์บริการซ่อมแบทเตอรีเชิงลึกแห่งแรกในกรุงเทพฯ
· ร่วมมือกับ Grab และพันธมิตรในประเทศ เพื่อยกระดับ “อีโคซิสเตม” ด้านการเดินทาง
· เปิดศูนย์ฝึกอบรมบุคลากร EV ร่วมกับมหาวิทยาลัยไทย เพื่อสร้างบุคลากรรองรับอุตสาหกรรมในอนาคต
เป้าหมายที่ชัดเจน เติบโตอย่างยั่งยืน และมีส่วนร่วมกับสังคมไทย
GAC International ในประเทศไทย มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการมีส่วนร่วมในสังคมไทย ผ่านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ได้มุ่งเพียงยอดขาย หรือการขยายฐานผู้ใช้เท่านั้น
หนึ่งในความร่วมมือที่โดดเด่น คือ การสร้างศูนย์ฝึกอบรมด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV Training Center) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) จังหวัดนครราชสีมา โดย GAC International ได้ทำการส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Aion Y Plus (ไอออน วาย พลัส) เพื่อใช้เป็นอุปกรณ์การเรียนการสอน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างทักษะเชิงเทคนิคให้แก่นักศึกษา และปูรากฐานในการพัฒนาบุคลากรด้านอุตสาหกรรม EV ของประเทศไทยในระยะยาว นอกจากนี้ GAC ยังได้ร่วมมือกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อร่วมกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด ผ่านการก่อสร้างสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการภายใต้แผน “100 เมือง 1,000 จุดชาร์จ” โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับการเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย และสร้างระบบนิเวศพลังงานที่มีความมั่นคง และยั่งยืน การลงทุนเชิงกลยุทธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า GAC International ไม่เพียงเข้ามาทำธุรกิจ แต่ยังตั้งใจเป็น “พลเมืองที่ดีของสังคมไทย” พร้อมสนับสนุนการศึกษา พลังงานสะอาด และการจ้างงานในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
