ธุรกิจ
ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์
Motor Expo 2025 แจกรถ 3 คัน บิกไบค์ 1 คัน
“IMC สื่อสากล” ผู้จัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” หรือ Motor Expo 2025 จัดรายการมอบโชคคืนกำไรแก่ลูกค้า รถยนต์ 3 คัน บิกไบค์ 1 คัน
ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์ รองประธานจัดงาน ควบคุมงานด้านการบริหารงานทั่วไป งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 42” กล่าวถึง รายการมอบโชคคืนกำไรให้แก่ผู้ชมงานว่า ปีนี้ยังคงแจกรถยนต์ 3 คัน และบิกไบค์ 1 คัน พร้อมรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ดังนี้
ผู้ชมงานที่จอง/ซื้อรถยนต์ภายในงาน จะได้รับสิทธิ์ชิงโชคในรายการ “ซื้อรถ...ชิงรถ” รางวัลรถยนต์ AVATR 11 รุ่น Standard Range มูลค่า 2,099,000 บาท ระยะเวลาร่วมสนุก 28 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568
ผู้ชมที่ซื้อบัตรเข้าชมงาน มูลค่า 100 บาท จะได้รับสิทธิ์ชิงโชคในรายการ “ซื้อบัตร...ชิงรถ” รางวัลรถยนต์ Mitsubishi Xforce รุ่น Ultimate มูลค่า 1,059,000 บาท ระยะเวลาร่วมสนุก 28 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568
ผู้ชมที่โหลด Motor Expo Application และลงทะเบียน กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน พร้อมชมงานผ่าน Motor Expo Application รับสิทธิ์ชิงรางวัลรถยนต์รถยนต์ Wuling Binguo รุ่น DC Icon มูลค่า 429,000 ระยะเวลาร่วมสนุก 15 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2568
และผู้จอง/ซื้อมอเตอร์ไซค์ภายในงาน จะได้รับสิทธิ์ชิงโชคในรายการ “ซื้อมอเตอร์ไซค์...ชิงบิกไบค์” รางวัลรถจักรยานยนต์ Suzuki รุ่น GSX-8R มูลค่า 419,000 บาท ระยะเวลาร่วมสนุก 28 พฤศจิกายน-10 ธันวาคม 2568
.......................................................................................................................
รถยนต์เดือนกรกฎาคม ยอดขาย เพิ่มขึ้น 5.8 %
Toyota เผย สถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2568 ยอดขายตลาดรวม 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 18,760 คัน เพิ่มขึ้น 13.3 % ในขณะที่รถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 30,342 คัน เพิ่มขึ้น 1.7 % และรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขายทั้งหมด 14,842 คัน ลดลง 8 %
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า ตลาดรถยนต์เดือนกรกฎาคม 2568 มียอดขาย 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.8 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว กลุ่มตลาดรถยนต์นั่งปรับตัวดีขึ้น ด้วยยอดขาย 18,760 คัน เพิ่มขึ้น 13.3 % จากปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ยอดขาย 30,342 คัน เพิ่มขึ้น 1.7 % และตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน ยอดขาย 14,842 คัน ลดลง 8 % รถยนต์ HEV มียอดขาย 11,144 คัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่ 24 % และมียอดขายสะสม 7 เดือนแรกถึง 78,354 คัน คิดเป็นส่วนแบ่ง 51 % ของตลาด XEV ทั้งหมด
สำหรับ Toyota (โตโยตา) ยังคงครองอันดับ 1 ตลาดรถยนต์ ด้วยยอดขายสะสม 7 เดือน 132,049 คัน มีส่วนแบ่งตลาดที่ 37.5 % นำโดย Hilux Revo 29,366 คัน และ Yaris Ativ 30,813 คัน
เดือนสิงหาคม มีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากความกังวลจากหลายปัจจัย และผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจในประเทศ อาจส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ การปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงภาคเอกชนยังคงรอดูนโยบายของรัฐบาลที่บรรเทาผลกระทบจากนโยบายภาษี ทรัมป์
ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์ เดือนกรกฎาคม 2568
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.8 %
อันดับที่ 1 Toyota 18,160 คัน เพิ่มขึ้น 2.1 % ส่วนแบ่งตลาด 37 %
อันดับที่ 2 Isuzu 5,485 คัน ลดลง 19.1 % ส่วนแบ่งตลาด 11.2 %
อันดับที่ 3 Honda 5,005 คัน ลดลง 8 % ส่วนแบ่งตลาด 10.2 %
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 18,760 คัน เพิ่มขึ้น 13.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 6,395 คัน เพิ่มขึ้น 20.4 % ส่วนแบ่งตลาด 34.1 %
อันดับที่ 2 Honda 2,894 คัน เพิ่มขึ้น 10.3 % ส่วนแบ่งตลาด 15.4 %
อันดับที่ 3 MG 1,710 คัน เพิ่มขึ้น 127.7 % ส่วนแบ่งตลาด 9.1 %
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 30,342 คัน เพิ่มขึ้น 1.7 %
อันดับที่ 1 Toyota 11,765 คัน ลดลง 5.7 % ส่วนแบ่งตลาด 38.8 %
อันดับที่ 2 Isuzu 5,485 คัน ลดลง 19.1 % ส่วนแบ่งตลาด 18.1 %
อันดับที่ 3 Honda 2,111 คัน ลดลง 25.1 % ส่วนแบ่งตลาด 7 %
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 14,842 คัน ลดลง 8 %
อันดับที่ 1 Toyota 6,773 คัน ลดลง 8.1 % ส่วนแบ่งตลาด 45.6 %
อันดับที่ 2 Isuzu 4,515 คัน ลดลง 22.7 % ส่วนแบ่งตลาด 30.4 %
อันดับที่ 3 Ford 1,531 คัน ลดลง 21.4 % ส่วนแบ่งตลาด 10.3 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 3,820 คัน
GWM 1,110 คัน-Toyota 1,106 คัน-Isuzu 904 คัน-Ford 555 คัน-Mitsubishi 124 คัน-Nissan 21 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 11,022 คัน ลดลง 16.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 5,667 คัน ลดลง 11.9 % ส่วนแบ่งตลาด 51.4 %
อันดับที่ 2 Isuzu 3,611 คัน ลดลง 22.9 % ส่วนแบ่งตลาด 32.8 %
อันดับที่ 3 Ford 976 คัน ลดลง 17.8 % ส่วนแบ่งตลาด 8.9 %
สถิติการจำหน่ายรถยนต์ เดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568
1. ตลาดรถยนต์รวม ปริมาณการขาย 351,796 คัน ลดลง 0.7 %
อันดับที่ 1 Toyota 132,049 คัน ลดลง 1.5 % ส่วนแบ่งตลาด 37.5 %
อันดับที่ 2 Isuzu 42,991 คัน ลดลง 19 % ส่วนแบ่งตลาด 12.2 %
อันดับที่ 3 Honda 40,360 คัน ลดลง 17.5 % ส่วนแบ่งตลาด 11.5 %
2. ตลาดรถยนต์นั่ง ปริมาณการขาย 136,242 คัน เพิ่มขึ้น 0.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 46,039 คัน เพิ่มขึ้น 19.3 % ส่วนแบ่งตลาด 33.8 %
อันดับที่ 2 Honda 22,566 คัน ลดลง 17.2 % ส่วนแบ่งตลาด 16.6 %
อันดับที่ 3 BYD 12,132 คัน ลดลง 4.9 % ส่วนแบ่งตลาด 8.9 %
3. ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณการขาย 215,554 คัน ลดลง 1.4 %
อันดับที่ 1 Toyota 86,010 คัน ลดลง 9.9 % ส่วนแบ่งตลาด 39.9 %
อันดับที่ 2 Isuzu 42,991 คัน ลดลง 19 % ส่วนแบ่งตลาด 19.9 %
อันดับที่ 3 Honda 17,794 คัน ลดลง 18 % ส่วนแบ่งตลาด 8.3 %
4. ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน (Pure Pick up และรถกระบะดัดแปลง PPV*) ปริมาณการขาย 109,557 คัน ลดลง 12 %
อันดับที่ 1 Toyota 49,203 คัน ลดลง 13.8 % ส่วนแบ่งตลาด 44.9 %
อันดับที่ 2 Isuzu 28,048 คัน ลดลง 19.6 % ส่วนแบ่งตลาด 34.1 %
อันดับที่ 3 Ford 8,001 คัน ลดลง 17.4 % ส่วนแบ่งตลาด 10 %
*ปริมาณการขายรถกระบะดัดแปลง (ในตลาดรถกระบะขนาด 1 ตัน) 24,534 คัน
Toyota 8,400 คัน-Isuzu 7,087 คัน-Ford 4,272 คัน-GWM 3,473 คัน-Mitsubishi 1,012 คัน-Nissan 290 คัน
5. ตลาดรถกระบะ Pure Pick up ปริมาณการขาย 85,023 คัน ลดลง 17.3 %
อันดับที่ 1 Toyota 40,803 คัน ลดลง 17 % ส่วนแบ่งตลาด 48 %
อันดับที่ 2 Isuzu 30,232 คัน ลดลง 23.2 % ส่วนแบ่งตลาด 35.6 %
อันดับที่ 3 Ford 6,659 คัน ลดลง 18.9 % ส่วนแบ่งตลาด 7.8 %
.......................................................................................................................
BYD ส่งออก Dolphin ไปยุโรป
BYD ประเทศไทย ผลิตรถยนต์รุ่น BYD Dolphin (บีวายดี ดอลฟิน) เพื่อส่งออกไปยังยุโรปเป็นครั้งแรก พิสูจน์คุณภาพรถยนต์ที่ผลิตขึ้นจากไทยให้เป็นที่ประจักษ์ พร้อมดำเนินงานตามนโยบายรัฐ EV3.5
หยู่ปิน เคอ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หลัง BYD ประเทศไทย ได้ส่งมอบรถยนต์ครบ 90,000 คัน ไปเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เราได้ก้าวสู่อีกขั้นของความสำเร็จ ด้วยการผลิต BYD Dolphin เพื่อการส่งออกไปยังยุโรปเป็นครั้งแรก ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเรา ที่จะร่วมสร้างการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในประเทศไทย ไปพร้อมกับการพิสูจน์ฝีมือการผลิตรถยนต์ระดับแนวหน้าของไทยให้ชาวโลกได้พิสูจน์ และยังเป็นการลดมลพิษผ่านการเพิ่มจำนวน รถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่
โรงงาน BYD ประเทศไทย ที่ผลิตรถยนต์รุ่น BYD Dolphin เพื่อส่งออกไปยัง 4 ประเทศทางยุโรป เป็นครั้งแรกกว่า 900 คัน ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่เรือขนส่งรถยนต์ BYD Zhengzhou จะออกเดินทางจากประเทศไทยสู่ยุโรป เพื่อลำเลียงรถยนต์พลังงานใหม่ที่มีคุณภาพ และผลิตด้วยฝีมือคนไทย ไปส่งมอบให้ผู้บริโภคชาวตะวันตก
ประธานวงศ์ พรประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ Rever กล่าวว่า Rever ภาคภูมิใจที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย ไปพร้อมกับการรักษ์โลก ผ่านการดำเนินงานร่วมกับ BYD ประเทศไทย โดยความสำเร็จครั้งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณภาพการผลิตรถยนต์ระดับโลกจากฝีมือคนไทย ซึ่งจะนำไปสู่ความไว้วางใจจากนานาประเทศ ในการตั้งประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ ที่มีคุณภาพสูงของภูมิภาค และนำไปสู่การลงทุนเพิ่มในอุตสาหกรรม การผลิตรถยนต์ของไทยในอนาคต
“การส่งออกรถยนต์พลังงานใหม่อย่าง BYD Dolphin จากไทยสู่ยุโรป นับเป็นอีกหนึ่งพันธกิจที่ BYD ประเทศไทย และ Rever มีร่วมกันว่า เราจะร่วมกันลดมลพิษจากท้องถนนให้ได้มากที่สุด เพื่อสิ่งแวดล้อมที่สะอาดกว่าสำหรับทุกคน ซึ่งในตอนนี้ไม่ได้จำกัดแค่ท้องถนนของประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังก้าวข้ามเขตแดนสู่อีกซีกโลกด้วย"
นับเป็นการดำเนินงานตามเป้าหมายของโรงงาน ซึ่งมีทั้งผลิตเพื่อการจำหน่ายในประเทศ และเพื่อการส่งออก พร้อมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ ตามนโยบาย EV3.5 ของภาครัฐ เพื่อร่วมกับขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำของศูนย์การผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ของภูมิภาค โดยในอนาคต BYD จะพัฒนารุ่นรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อส่งออกไปยุโรปในปี 2026
โรงงาน BYD ประเทศไทย เป็นโรงงานแห่งแรกของ BYD ที่ตั้งอยู่นอกประเทศจีน โดยครอบคลุมพื้นที่ 600 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรม WHA จังหวัดระยอง มีกำลังการผลิตสูงสุด 150,000 คัน/ปี ปัจจุบัน มีการผลิตรถยนต์จากที่นี่ด้วยกัน 4 รุ่น ประกอบด้วย BYD Dolphin, BYD Atto 3 (บีวายดี อัตโต 3) รวมถึง BYD Sealion 6 DM-I (บีวายดี ซีไลออน 6 ดีเอม-ไอ) ซึ่งมีสัดส่วน Local Content ประมาณ 45-50 % และยังได้รับใบรับรอง Made in Thailand นอกจากนั้น ยังผลิต BYD Seal 5 DM-I Super Hybrid (บีวายดี ซีล 5 ดีเอม-ไอ ซูเพอร์ ไฮบริด) ซีดานขนาดกลางรุ่นแรกของไทย ที่ใช้ขุมพลังพลัก-อิน ไฮบริด PHEV
เรือ BYD Zhengzhou เป็น 1 ใน 7 ลำ ของกองเรือขนส่งรถยนต์ ซึ่งเป็นของ BYD เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง ช่วยให้ส่งออกไปต่างประเทศ ให้เพียงพอกับความต้องการรถยนต์ BYD ที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก ทั้งยังลดต้นทุนการเดินทาง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อย CO₂ และมลภาวะ รวมถึงลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง เนื่องจากขับเคลื่อนด้วย Dual-Fuel และยังมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดย BYD มีแผนเพิ่มเรือขนส่งรถยนต์เป็น 8 ลำ ภายในปี 2026
.......................................................................................................................
Volvo เปิดศูนย์บริการ Service Center รูปโฉมใหม่
วอลโว่ คาร์ (ประเทศไทย)ฯ ประกาศเปิดศูนย์บริการ Service Center รูปโฉมใหม่ล่าสุด ตามมาตรฐาน Volvo (โวลโว) ที่ Volvo GT Auto สาขาพัฒนาการอย่างเป็นทางการ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการดูแลรถ Volvo แบบครบวงจร พร้อมให้บริการด้านการบำรุงรักษา และซ่อมแซมด้วยมาตรฐานระดับโลก อีกทั้งบริการหลังการขายโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้การรับอบรมตามมาตรฐาน Volvo ให้ผู้ใช้บริการมั่นใจในคุณภาพ และความรวดเร็ว เพื่อให้สามารถจัดการเวลาได้อย่างสะดวกสบาย โดยศูนย์บริการ Volvo GT Auto สาขาพัฒนาการให้บริการครอบคลุมพื้นที่เขตสวนหลวง หัวหมาก และพื้นที่ใกล้เคียง
เพื่อเป็นการฉลองการเปิดศูนย์บริการแห่งใหม่ Volvo GT Auto สาขาพัฒนาการ มอบข้อเสนอ Service สุดพิเศษ “Welcome Home” ให้แก่ลูกค้าที่ซื้ออะไหล่ที่ Volvo GT Auto สาขาพัฒนาการ ตั้งแต่วันนี้-31 ตุลาคม 2568 จะได้รับสิทธิพิเศษ ดังนี้
ส่วนลด 20 % สำหรับอะไหล่ อาทิ ปีกนก, แรคพวงมาลัย, เพลาขับ, แบทเตอรี และส่วนลด 20 % เมื่อซื้อคู่ และส่วนลด 15 % เมื่อเลือกซื้ออย่างใดอย่างหนึ่ง อาทิ ผ้าเบรค และจานเบรค, ชุดใบปัดน้ำฝนหน้า-หลัง และน้ำยาล้างกระจก, ชอคอับหน้า และชอคอับหลัง
.......................................................................................................................
Porsche เผยโฉมนิทรรศการใหม่ "Raceborn"
Porsche (โพร์เช) ฉลอง 1 ปี Curvistan Bangkok เผยโฉมนิทรรศการใหม่ "Raceborn" จัดรถในตำนาน Porsche 956 LH ส่งตรงจาก Porsche Museum ประเทศเยอรมนี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมด้วย Porsche 911 Carrera รุ่นล่าสุด (992.2) ที่มาพร้อมลวดลายพิเศษ ได้แรงบันดาลใจจาก Porsche 956
Curvistan Bangkok พื้นที่ไลฟ์สไตล์สุดสร้างสรรค์ด้านยานยนต์ และดีไซจ์น ใจกลางย่านทองหล่อ ซอยสุขุมวิท 38 เปิดตัวนิทรรศการพิเศษในโอกาสครบรอบ 1 ปี ภายใต้ชื่อ “Raceborn” ถ่ายทอดเรื่องราวมอเตอร์สปอร์ทอันทรงคุณค่าของ Porsche ผ่านการจัดแสดงเชิงประสบการณ์ที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งมอเตอร์สปอร์ทอย่างแท้จริง
นับตั้งแต่เปิดในปี 2567 Curvistan ได้กลายเป็นจุดหมายทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ที่ดึงดูดทั้งผู้รักรถยนต์ ผู้สนใจงานดีไซจ์น และผู้ที่หลงใหลใน Porsche แนวคิดของ Curvistan ถูกสร้างสรรค์โดย Stefan Bogner ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Curves และชานนท์ เรืองกฤติยา นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนักสะสม Porsche ชาวไทย โดยผสมผสานพื้นที่แกลเลอรี งานออกแบบ คาเฟ และการเล่าเรื่องราวด้านยานยนต์เข้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน พร้อมนิทรรศการหมุนเวียนตามธีมที่เปลี่ยนแปลงตลอดปี ภายใต้การสนับสนุนจากพิพิธภัณฑ์ Porsche ประเทศเยอรมนี Porsche ประเทศไทย และ Porsche Asia Pacific ทำให้ Curvistan กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมของกรุงเทพฯ
นิทรรศการ “Raceborn” ที่เพิ่งเปิดตัว ถ่ายทอดจุดกำเนิดที่แท้จริงของ Porsche บนสนามแข่ง โดยอ้างอิงจากความสำเร็จตลอดหลายทศวรรษในรายการ Endurance Racing, Formula E และการแข่งขันในระดับลูกค้า (Customer Motorsport) ภายในงานได้คัดสรรรถแข่งระดับตำนาน ซึ่งหาชมได้ยากจากคลังประวัติศาสตร์ของ Porsche มาจัดแสดง โดยมีไฮไลท์สำคัญ คือ รถแข่ง Porsche 956 ที่ถูกส่งตรงจาก Porsche Museum เมืองสชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี มาจัดแสดงเป็นพิเศษ
ไมเคิล เวตเตอร์ กรรมการผู้จัดการ Porsche ประเทศไทย กล่าวว่า Porsche 956 คือ ตำนานที่เปลี่ยนโฉมหน้าวงการมอเตอร์สปอร์ท และการที่ได้นำรถคันนี้มาจัดแสดงที่กรุงเทพฯ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเรา นี่คือโอกาสที่แฟนชาวไทยจะได้สัมผัสกับมรดกแห่งความเป็น "Raceborn" ของ Porsche อย่างใกล้ชิด ใน 7 เดือนแรกของปีนี้ Porsche ประเทศไทย มียอดการจดทะเบียนเพิ่มขึ้นถึง 29 % สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหล และความผูกพันของลูกค้าชาวไทยที่มีต่อวัฒนธรรมมอเตอร์สปอร์ทของ Porsche และ Curvistan ก็เป็นเวทีที่สมบูรณ์แบบในการเฉลิมฉลองจิตวิญญาณนี้ร่วมกัน
ไฮไลท์สุดพิเศษของนิทรรศการครั้งนี้ คือ Porsche 956 “LH” หรือ “Langheck”/“Longtail” รถแข่งในตำนานที่ไม่เพียงแต่คว้าชัยชนะในสนาม หากยังเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แก่วงการมอเตอร์สปอร์ทในยุคนั้น เปิดตัวครั้งแรกในปี 1982 รถรุ่นนี้ คือ คำตอบของ Porsche ต่อกติกาใหม่ของ FIA Group C ด้วยการผสานเทคโนโลยีอากาศพลศาสตร์ล้ำสมัยเข้ากับโครงสร้างแชสซีส์แบบอลูมิเนียมโมโนคอกที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของรถแข่ง Porsche ที่ใช้โครงสร้างในลักษณะนี้
ขับเคลื่อนด้วย เครื่องยนต์ 6 สูบนอน เทอร์โบคู่ ที่พัฒนามาจากรุ่น 936 Porsche 956 สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 365 กม./ชม. บนทางตรง Mulsanne อย่างน่าทึ่ง และได้สร้างชื่อเสียงอย่างรวดเร็วในวงการ Endurance ด้วยชัยชนะต่อเนื่องหลายรายการที่การแข่งขัน 24 Hours of Le Mans โดยมีนักแข่งในตำนาน Sir Jacky Ickx เป็นผู้ขับขี่ รวมถึงการคว้าชัยชนะอันดับ 1, 2 และ 3 ในปีเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่
แต่สิ่งที่สร้างความประทับใจที่สุดของ Porsche 956 เกิดขึ้นในปี 1983 เมื่อ Stefan Bellof นักแข่งในตำนาน ขับ Porsche 956 ทำรอบสนามที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้บนสนาม Nürburgring Nordschleife ด้วยเวลา 6 นาที 11.13 วินาที ซึ่งถือเป็นสถิติที่อยู่ยาวนานถึง 35 ปี ก่อนที่ Timo Bernhard ขับ Porsche 919 Evo เวอร์ชันไฟฟ้า ทำลายสถิติใหม่
ด้วยดีไซจ์นอันงดงาม สมรรถนะล้ำสมัย และบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการแข่งขัน Group C ทำให้ Porsche 956 ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในรถแข่งที่ทรงเกียรติที่สุดตลอดกาล การปรากฏตัวของรถคันนี้ในกรุงเทพฯ ถือเป็นโอกาสอันหายาก ที่แฟนๆ ผู้หลงใหลในความเร็วจะได้สัมผัสไอคอนตัวจริงแห่งโลกมอเตอร์สปอร์ทอย่างใกล้ชิด
ปิดท้ายด้วย 911 Carrera ที่มาพร้อมลวดลายพิเศษซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก 956 LH เพิ่มความโดดเด่นสะดุดตาให้แก่นิทรรศการ โดยลวดลายดังกล่าวเป็นการแสดงความเคารพต่อยุคทองของการแข่งขัน Group C ที่ Porsche ครองความยิ่งใหญ่ ถ่ายทอดสายสัมพันธ์ระหว่างอดีต และปัจจุบันอย่างงดงาม และเชื่อมโยงกับจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จบนสนามแข่งของแบรนด์
เมื่อรวมทั้งหมดแล้ว นิทรรศการ Raceborn ที่ Curvistan Bangkok ถือเป็นเครื่องย้ำเตือนอย่างชัดเจนว่า รถสปอร์ท รถยนต์อเนกประสงค์ และรถยนต์ไฟฟ้าของ Porsche ทุกคันมีดีเอนเอที่หล่อหลอมมาจากสนามแข่งที่ท้าทายที่สุดของโลก ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนพันธุ์แท้มอเตอร์สปอร์ท ผู้หลงใหลใน Porsche หรือเพียงแค่สนใจอยากสัมผัสรถยนต์ที่สร้างประวัติศาสตร์ Raceborn สามารถมอบประสบการณ์ที่กระตุ้นความรู้สึกได้เทียบเท่ากับเสียงเครื่องยนต์ซึ่งเป็นหัวใจของนิทรรศการ
นิทรรศการ Raceborn เปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ต่อหน้าสื่อมวลชนจากประเทศไทย และทั่วโลก โดยงานเปิดตัวปิดท้ายด้วยพาร์ทีสุดคึกคัก เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 1 ปีของ Curvistan Bangkok
นิทรรศการเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม-15 พฤศจิกายน 2568 ที่ Curvistan Bangkok ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 38 ติดกับ BTS ทองหล่อ เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 08.00-21.30 น.
.......................................................................................................................
เติมน้ำมันผิด ทำยังไงดี ?
การเติมน้ำมันเชื้อเพลิงผิด หรือเติมสลับชนิด อาจเป็นปัญหาเสี่ยงรถดับ สตาร์ทไม่ติด หรือเครื่องพัง แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ หากคุณรู้ทัน และทำตามขั้นตอนอย่างถูกวิธี
![]()
ทำอย่างไรถ้าเติมน้ำมันผิด
1. กรณีเครื่องยนต์ดับ ถ่ายน้ำมันในถังออกให้หมด และไล่ระบบน้ำมันใหม่
2. เติมน้ำมันที่ถูกต้องเข้าไปใหม่ จากนั้นไล่ระบบน้ำมันอีกครั้ง
3. ถอดหัวเทียนออกมาทำความสะอาดใหม่สำหรับรถเบนซิน ส่วนรถดีเซลให้ถอดเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง
4. สตาร์ทเครื่องยนต์อีกครั้ง ขณะสตาร์ทจะมีอาการติดยาก หรือติดแล้วดับ ให้พยายามสตาร์ทต่อไป จนกว่าจะติดนิ่ง ไม่ดับ จากนั้นปล่อยให้รถเดินเครื่องเองสักพัก
5. เมื่อเครื่องยนต์เดินเรียบดีแล้ว ให้ลองเร่งเครื่อง พร้อมกับเปิดฟังค์ชันที่ต้องใช้ หากไม่มีสิ่งผิดปกติใดเกิดขึ้น แปลว่าการถ่ายน้ำมันเสร็จสิ้น
** หากรู้ว่าเติมน้ำมันผิดก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์ ดังนั้น ห้ามสตาร์ทรถยนต์โดยเด็ดขาด เพราะน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมผิดจะถูกดูดเข้าไปในระบบน้ำมันเชื้อเพลิงทันที (แจ้งพนักงานปั๊มให้ติดต่อช่างมาดูดน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมผิดออกจากถังน้ำมัน)
เติมน้ำมันผิด มีอาการอย่างไร ?
อาการหลังจากเติมน้ำมันรถผิดที่สังเกตได้ คือ หากเติมน้ำมันสลับกันทั้งเครื่องยนต์เบนซิน หรือดีเซล เครื่องยนต์จะสามารถติดได้ระยะหนึ่ง ก่อนจะเกิดอาการสะดุด และดับไปในที่สุด ซึ่งเมื่อเครื่องยนต์ดับลงจะไม่สามารถสตาร์ทติดได้อีก สาเหตุเพราะเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล ระดับการเผาไหม้ของน้ำมันทั้ง 2 ตัวไม่เท่ากัน ทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์สะดุด จังหวะลูกสูบของรถยนต์ไม่สามารถทำงานต่อได้ จึงเกิดอาการเครื่องดับตามมาในที่สุด
เครื่องยนต์ดีเซลเติมน้ำมันเบนซิน > เครื่องยนต์ดีเซลที่เติมน้ำมันผิดเป็นเบนซินเข้าไป เมื่อขับไปได้สักระยะจะมีการกระตุกขึ้น ควันจากท่อไอเสียจะมีสีดำเข้มผิดปกติ และเครื่องยนต์จะดับลงจนไม่สามารถสตาร์ทติด
เครื่องยนต์เบนซินเติมน้ำมันดีเซล > เครื่องยนต์เบนซินที่เติมน้ำมันผิดเป็นดีเซลเข้าไป เมื่อเหยียบคันเร่งเพื่อทำความเร็ว เสียงเครื่องยนต์จะดังผิดปกติ รถจะไม่สามารถทำความเร็วได้ และจะมีระบบไฟแจ้งเตือนขึ้นมาที่หน้าปัดก่อนเครื่องยนต์จะดับลง และสตาร์ทติดได้ยาก
