Motorcycle
ไทยฮอนด้าฯ มอบหมวกกันนอค 2,000 ใบ

ไทยฮอนด้าฯ ผู้ผลิต และจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ Honda (ฮอนดา) ในประเทศไทย มอบหมวกกันนอคขนาดเล็กสำหรับเด็ก และเยาวชน จำนวน 2,000 ใบ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ให้แก่เครือข่ายด้านความปลอดภัย ทั้ง 8 เครือข่าย ได้แก่ มูลนิธิเมาไม่ขับ, เครือข่ายเป็นหูเป็นตาเพื่อสังคม, สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ, ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย, บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด, มูลนิธิความปลอดภัยทางถนน, แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจร ระดับจังหวัด (สอจร.) และสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย อีกทั้งยังจัดเวทีเสวนา “ทำอย่างไร ให้คนไทย สวมหมวกกันนอค” เพื่อร่วมกันส่งเสริมความปลอดภัยในการขับขี่ต่อสังคมไทยต่อไป
ดร.อารักษ์ พรประภา ประธาน บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด กล่าวว่า ความปลอดภัย คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการขับขี่รถจักรยานยนต์ และจุดเริ่มต้นของความปลอดภัยที่ทุกคนสามารถทำได้ทันที คือ การสวมหมวกกันนอคทุกครั้งไม่ว่าจะใกล้ หรือไกล ไทยฮอนด้าฯ เชื่อว่าการปลูกฝังพฤติกรรมนี้ตั้งแต่วัยเด็ก และเยาวชน จะเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยลดการสูญเสียบนท้องถนนได้อย่างยั่งยืน ในวันนี้ต้องขอขอบคุณภาคีความปลอดภัยทุกเครือข่ายที่ได้เข้ามาร่วมมือ เพื่อผลักดันให้วัฒนธรรมการสวมหมวกกันนอคเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย และช่วยสร้างอนาคตของประเทศให้แข็งแรงบนพื้นฐานของความปลอดภัยที่ยั่งยืน
สำหรับโครงการฮอนด้าเมืองไทยปลอดภัย ได้จัดตั้งขึ้นมากกว่า 37 ปี เคียงคู่สังคมไทย เพื่อสร้างสร้างสรรค์สังคมแห่งการขับขี่ปลอดภัย สำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในประเทศไทย อีกทั้งในปีนี้ยังเป็นวาระครบรอบ 60 ปี ไทยฮอนด้าฯ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในการสวมหมวกกันนอค ผ่านการส่งมอบหมวกกันนอค จำนวน 112,440 ใบ มูลค่า 112 ล้านบาท ให้แก่หน่วยงานการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อกระจายต่อให้แก่เหล่าเยาวชนในพื้นที่
นอกจากพิธีมอบหมวกกันนอคแล้ว ภายในงานยังมีบรรยายพิเศษ เรื่อง “หลักสูตรการอบรมความปลอดภัยเกี่ยวกับเด็ก” ปลูกฝังให้เยาวชนได้ทราบถึงสาเหตุเชิงลึกเกี่ยวกับการตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยทางถนนที่ยั่งยืน โดยนักวิชาการสาธารณสุข และเวทีเสวนาในหัวข้อ “ทำอย่างไร ให้คนไทย สวมหมวกกันนอค” สะท้อนถึงความท้าทายสำคัญของสังคมไทย เพราะปัจจุบันคนไทยส่วนใหญ่ยังละเลยการสวมหมวกกันนอค และมองว่าไม่จำเป็น ทั้งที่ในความเป็นจริง อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และการไม่สวมหมวกกันนอคถือเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่นำไปสู่การสูญเสียที่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด การเสวนาครั้งนี้จึงเป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนแนวทางรณรงค์ การบังคับใช้กฎหมาย และการปลูกฝังวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยให้หยั่งรากอย่างแท้จริง