รถล่าสุด
Lexus LX 500d เอสยูวีหรู 15 ล้านจัดได้... Premium กับ F SPORT
Lexus LX 500d มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบคู่ขนาด 3.3 ลิตร ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Full-Time AWD เสริมด้วยระบบช่วงล่างอัจฉริยะ Active Height Control และ Adaptive Variable Suspension (AVS) ที่ช่วยเรื่องความนุ่มนวลแต่ยังคงสมรรถนะตามสไตล์ออฟโรดระดับตำนาน
นอกจากนี้ โครงสร้างตัวถังแบบ Body-on-Frame รุ่นใหม่ แข็งแกร่งแต่น้ำหนักเบาลง ทำให้ LX 500d ใหม่ ทนทานและควบคุมได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันภายในห้องโดยสารหรูหราในทุกมิติ ใช้วัสดุพรีเมียมและงานออกแบบที่เน้นความประณีต มีพื้นที่กว้างขวางและดูดีตามแบบฉบับ Lexus
LX 500d มีเทคโนโลยีล้ำสมัยครั้งแรกใน Lexus ได้แก่ Fingerprint-authentication Push-start ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยระดับสูงสุด และระบบความปลอดภัย Lexus Safety System Plus 3.0 ที่ช่วยดูแลผู้ขับและผู้โดยสารอย่างรอบด้าน
ภายนอกดุดัน ทรงพลัง สมกับ Lexus LX
ออฟโรดพันธุ์แท้รวมเข้ากับสไตล์หรูคลาสสิกแบบชีวิตในเมือง
ดีไซน์ภายนอกของรถรุ่นนี้เริ่มต้นจากจุดแข็งดั้งเดิมที่เป็นของ LX อย่างระยะฐานล้อ 2,850 มม. และความสูงจากพื้นถึงท้องรถ ซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด และคงคุณสมบัติทั้งหมดนี้ไว้ในการพัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ โดยหลอมรวมความแข็งแกร่งของออฟโรดแท้เข้ากับความหรูอย่างมีสไตล์
ห้องโดยสารที่ลงตัวระหว่างผู้ขับกับตัวรถ
Lexus ได้นำแนวคิด Tazuna Concept มาใช้กับภายในห้องโดยสารของ LX เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและมีสมาธิกับการขับขี่ได้มากขึ้น จอ Head-up Display ชุดมาตรวัด และหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่ทำหน้าที่เป็นระบบนำทาง สวิตช์ควบคุมการขับขี่ เช่น Multi-Terrain Select ถูกจัดวางให้อยู่ในตำแหน่งที่มือเอื้อมถึง ส่วนของสวิตช์ควบคุมเครื่องปรับอากาศและฟังก์ชันอื่นๆ ถูกจัดเรียงอยู่ใต้จอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ในตำแหน่งที่ใช้งานได้สะดวก
รุ่น Premium ยกระดับ ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย
ปุ่มกดสตาร์ท แบบระบบยืนยันลายนิ้วมือ
อีกระดับของความก้าวล้ำด้วยเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งถูกติดตั้งไว้บริเวณกึ่งกลางปุ่มกดสตาร์ท เพียงผู้ขับถือกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ แตะเซนเซอร์พร้อมเหยียบเบรก ระบบจะตรวจสอบลายนิ้วมือที่บันทึกไว้ภายในรถ หากไม่ตรงกัน เครื่องยนต์จะไม่ทำงาน เพื่อเป็นการเสริมความปลอดภัยระดับสูงสุด
จอแสดงผลแบบคู่
แผงหน้าปัดมาพร้อมจอสัมผัสแบบคู่ บน-ล่าง แสดงข้อมูลที่จำเป็นได้พร้อมกันบนแต่ละจอ เช่น ขณะขับขี่บนถนนปกติ หน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ด้านบน จะแสดงแผนที่นำทางแบบเต็มจอ ขณะที่หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ด้านล่างจะแสดงข้อมูลการทำงานของระบบปรับอากาศ ส่วนในโหมดออฟโรด หน้าจอ 12.3 นิ้ว จะแสดงระบบ Multi-terrain Monitor เพื่อตรวจสอบสภาพพื้นผิวถนนและสภาพแวดล้อมรอบรถ ขณะที่หน้าจอ 7 นิ้ว จะแสดงข้อมูลการขับขี่ เช่น ความสูงตัวรถ มุมเอียง และการกดคันเร่ง/เบรก โดยมีสวิตช์ควบคุมฟังก์ชันการขับขี่รวมไว้ในหน้าจอล่างเพื่อความสะดวกสูงสุด
แสงสร้างบรรยากาศภายใน แบบหลากสี
แสงไฟส่องสว่างทางอ้อมที่ช่วยขับเน้นรูปทรงและวัสดุที่สวยงามภายในห้องโดยสารทั่วทั้งบริเวณที่นั่งด้านหน้า เพิ่มมิติแห่งสีสันและบรรยากาศสุดหรู โดยมีธีมสีให้เลือกถึง 14 แบบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์ธรรมชาติอันงดงาม รวมถึงสามารถปรับแต่งได้เองอีก 50 สี ให้คุณเปลี่ยนบรรยากาศภายในให้สอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึก
ฟังก์ชันนวดผ่อนคลาย (เบาะหน้า)
เบาะหน้ามาพร้อมฟังก์ชันนวดด้วยถุงลมที่ติดตั้งอยู่ในพนักพิงและเบาะรองนั่ง สามารถเลือกนวดแบบทั้งตัวหรือเฉพาะจุด ให้ร่างกายและจิตใจรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ ระบบพยุงเอวแบบถุงลม (Air Lumbar Support) ได้ผสานความยืดหยุ่นและการรองรับที่มั่นคง ปรับตามสรีระและองศากระดูกสันหลังของแต่ละบุคคล เพื่อคงท่าทางการขับขี่ที่เหมาะสมสะดวกสบายสูงสุด
พื้นที่เก็บสัมภาระ เพิ่มด้วยการพับเบาะแถวที่ 3 หรือแถวที่ 2 ทั้งบางส่วนหรือทั้งหมด
ออกแบบให้ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนพื้นที่ใช้งาน สามารถรองรับการจัดเก็บได้สะดวกแม้ขณะเบาะหลังตั้งตรง และปรับขยายได้ตามต้องการด้วยการพับเบาะแถวที่ 3 หรือแถวที่ 2 ทั้งบางส่วนหรือทั้งหมด เพื่อให้เหมาะกับจำนวนผู้โดยสารและสัมภาระที่หลากหลาย
โครงสร้างที่แข็งแกร่ง ผสานพลังเครื่องยนต์อย่างลงตัว ถ่ายทอดการขับขี่ที่ทั้งนุ่มนวลและมั่นใจ ตามแบบ Lexus Driving Signature
แพลตฟอร์ม GA-F และน้ำหนักที่เบาลงถึง 200 กก.
LX ยังคงโครงสร้างตัวถังแบบ Body-on-frame ไว้ การนำแพลตฟอร์ม GA-F มาใช้ร่วมกับการออกแบบตัวรถใหม่ทั้งคันตั้งแต่ระบบพื้นฐาน รวมถึงจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลง การปรับลดน้ำหนักลงอย่างชัดเจน และโครงสร้างตัวถังที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ได้ช่วยยกระดับสมรรถนะการขับขี่
เครื่องยนต์ดีเซล V6 ขนาด 3.3 ลิตร
เครื่องยนต์ดีเซล V6 ทวินเทอร์โบแบบสองทาง ขนาด 3.3 ลิตร ถูกออกแบบและปรับจูน ใช้ชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อรองรับการขับขี่ในสภาพออฟโรดที่สมบุกสมบัน ระบบเทอร์โบสามารถสลับการทำงานเป็น ซิงเกิลเทอร์โบ เพื่อให้ได้อัตราเร่งที่ทรงพลังในช่วงความเร็วต่ำ และเป็นทวินเทอร์โบเพื่อให้การเร่งต่อเนื่องราบรื่นในช่วงความเร็วสูง เทคโนโลยีการเผาไหม้แบบ Low Flow ยังช่วยเสริมทั้งสมรรถนะการขับขี่และประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม
ระบบกันสะเทือนช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการควบคุม
ระบบกันสะเทือนที่ให้ทั้งความนุ่มนวลในการขับขี่ การทรงตัวที่มั่นคง แม้ขณะเบรก และเสถียรภาพที่โดดเด่นด้วยการดูดซับแรงกระแทกและแรงสะเทือนจากพื้นถนน สำหรับการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด ระบบยังช่วยให้ล้อทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้ยางสัมผัสพื้นผิวถนนได้ทุกสภาพ แม้บนพื้นผิวขรุขระที่ยางมักลอยตัวขึ้น โดยถ่ายทอดกำลังขับสู่พื้นถนนอย่างมั่นคง ช่วยเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้ยิ่งมั่นใจ
Multi-terrain Select
ผู้ขับสามารถเลือกโหมดได้ถึง 6 แบบ ที่เหมาะสมกับสภาพถนนแบบออฟโรด ในโหมด AUTO ระบบจะใช้ข้อมูลจากเซนเซอร์หลายตัวในการประเมินสภาพถนนขณะขับ และเลือกโหมดที่เหมาะสมที่สุดโดยอัตโนมัติ ทำให้การขับขี่มีสมรรถนะสูงสุดในทุกสภาพถนนโดยไม่ต้องสลับโหมดเอง
รุ่น F SPORT ยกระดับด้วยฟีเจอร์และสไตล์ตกแต่งที่โดดเด่น
ดีไซน์ภายนอก…ความสปอร์ทที่แตกต่างของ F SPORT
ส่วนหน้าของ F SPORT ถูกปรับให้ต่ำลง สัมผัสได้ทันทีถึงความสปอร์ทดูทรงพลัง โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าแบบ Spindle Grille ลายตาข่าย F-mesh พร้อมกรอบชุบโครเมียมรมดำ Jet Black ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน ลายตาข่าย F-mesh บริเวณกันชนหลังส่วนล่าง ล้ออะลูมินัม ขนาด 22 นิ้ว สีพิเศษเฉพาะ F SPORT
ดีไซน์ภายใน…เอกลักษณ์ F SPORT
โทนสี Flare Red โดดเด่นสะกดทุกสายตา อันเป็นเอกลักษณ์ของ F SPORT ตกแต่งด้วยฮาโดริอะลูมินัม ที่ได้แรงบันดาลใจจากลายดาบญี่ปุ่น สร้างบรรยากาศความสนุกที่เข้ากับการขับขี่สไตล์สปอร์ต ความใส่ใจอีกระดับในการขับขี่แบบสปอร์ตยังนำไปสู่การออกแบบเบาะพิงที่เสริมด้านข้างและเบาะนั่งที่แน่นขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นคงของท่านั่งขณะเข้าโค้ง พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนังแท้ลายฉลุเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ แป้นเหยียบและที่พักเท้าอะลูมินัมที่ผ่านการปรับแต่งเพื่อสมรรถนะ พร้อมสัญลักษณ์ F SPORT บนพนักพิงศีรษะ พวงมาลัย และแผ่นกันรอยขอบประตู
สมรรถนะพิเศษเฉพาะรุ่น F SPORT
สไตล์ที่โดดเด่นของ F SPORT ได้ถูกถ่ายทอดอยู่ในสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ ด้วยชุดอุปกรณ์ยกระดับสมรรถนะที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นชอคอัพสมรรถนะสูงด้านหน้าและหลัง เหล็กกันโคลงด้านหลัง และเฟืองท้ายลิมิเทดสลิป Torsen LSD ที่ช่วยกระจายแรงขับได้อย่างเหมาะสมตามน้ำหนักที่กดลงบนล้อทั้งหลังซ้ายและขวา ช่วยเพิ่มการยึดเกาะของยางขณะเร่งออกจากโค้ง นอกจากนี้การปรับจูนระบบพวงมาลัยไฟฟ้าและระบบกันสะเทือนปรับไฟฟ้ายังช่วยเพิ่มความเสถียรในการควบคุมได้เฉียบคมยิ่งขึ้นโดยเฉพาะบนถนนปกติ ควบคู่ไปกับการตอบสนองที่เร้าใจสไตล์สปอร์ต ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ F SPORT
สีภายนอก Lexus LX 500d
ขาว White Nova Glass Flake มีเฉพาะรุ่น F SPORT
เงิน Sonic Quartz มีเฉพาะรุ่น Premium
เทา Sonic Titanium
เทาเข้ม Manganese Luster
ดำ Graphite Black Glass Flake
เขียวทอง Terrane Khaki Mica Metallic
สีภายใน Lexus LX 500d
รุ่น Premium 2 สี Hazel หรือ Black
สี Hazel
สี Black
รุ่น F SPORT 2 สี Flare Red หรือ Black
สี Flare Red
สี Black
ราคา The All-new Lexus LX 500d
รุ่น Premium 15,000,000 บาท
รุ่น F SPORT 15,500,000 บาท
ติดตามข้อมูลข่าวสารของเลกซัสเพิ่มเติมได้ที่ www.lexus.co.th
ช่องทางออนไลน์ Official Account : Lexus Thailand
และ Line Official Account @lexusthailand











































