10 รุ่นรถยอดนิยม 2025

เปรียบเทียบรถยนต์ยอดนิยม 10 รุ่น ประกอบด้วย Aion UT, BYD Dolphin, Geely EX2, Honda City, Jaecoo 5, Mazda 2, MG 3, MG 4, Honda City, Toyota Yaris และ Wuling Binguo ซึ่งมีทั้งรถยนต์น้ำมัน (ICE), รถยนต์ไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในกลุ่ม City Car และ Compact SUV ขอแบ่งกลุ่มเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนดังนี้ครับ 

1. กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยอดนิยม

กลุ่มนี้เน้นความทันสมัยและค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรที่ต่ำที่สุด

2. กลุ่มรถยนต์น้ำมันและไฮบริด (ICE / HEV)

กลุ่มนี้เน้นความอเนกประสงค์ ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จ และราคาขายต่อที่นิ่งกว่า

• Honda City: ยืนหนึ่งเรื่องความแรงจากเครื่องยนต์ 1.0 Turbo หรือประหยัดสุดๆ ด้วยระบบ e:HEV (ไฮบริด) ภายในออกแบบมาให้ใช้สอยได้ดีเยี่ยมที่สุดในกลุ่ม

• Toyota Yaris: ทนทาน ศูนย์บริการเยอะที่สุด อะไหล่หาง่าย เป็นรถที่ "ซื้อแล้วจบ" สำหรับคนเน้นการใช้งานระยะยาว

• Mazda 2: โดดเด่นเรื่องวัสดุภายในที่ดูพรีเมียมที่สุด และการขับขี่ที่เฉียบคม แต่พื้นที่เบาะหลังจะแคบกว่าใครเพื่อน

• MG 3 (Hybrid+): เป็นมวยรองที่มาแรงด้วยระบบไฮบริดใหม่ที่ให้อัตราเร่งดีมากในราคาที่คุ้มค่ากว่าคู่แข่งญี่ปุ่น

เลือกคันไหนดี?

• เน้นความคุ้มค่า/งบจำกัด: Geely EX2 หรือ Wuling Binguo คือคำตอบสำหรับรถไฟฟ้าเริ่มต้น

• เน้นพื้นที่ภายใน (กว้างขวาง): Aion UT และ Honda City ทำได้ดีที่สุดในกลุ่มของตัวเอง

• เน้นขับสนุก/สมรรถนะ: ถ้า EV ต้อง MG 4 ถ้าฝั่งน้ำมัน/ไฮบริดต้อง Mazda 2 หรือ MG 3

• เน้นความพรีเมียม/เทคโนโลยี: Jaecoo 5 จะให้ภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรากว่ารุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกัน

ขนาดตัว

ตารางเปรียบเทียบขนาดตัวถัง (หน่วย: มิลลิเมตร)

ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย

หากเน้นที่คำว่า "ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย" เป็นโจทย์หลัก เรียงลำดับจากรถที่มีพื้นที่ใช้สอยและระยะฐานล้อ (Wheelbase) มากที่สุดไปน้อยที่สุด เพื่อให้เห็นภาพความโปร่งและการวางขา (Legroom) ได้ชัดเจน

(หมายเหตุ: ระยะฐานล้อเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดของความยาวห้องโดยสาร ส่วนความกว้างตัวรถบ่งชี้ความสบายของช่วงไหล่)

อันดับ 1: Aion UT (EV)

• ระยะฐานล้อ: 2,750 มม. (เท่ากับรถ Sedan ขนาดใหญ่)

• ความกว้างตัวรถ: 1,850 มม.

• เหตุผลที่ได้ที่ 1: Aion UT ถูกออกแบบมาเพื่อทุบสถิติห้องโดยสารในกลุ่มรถเล็ก ด้วยฐานล้อที่ยาวเทียบเท่ารถกลุ่ม C-Segment ทำให้มีพื้นที่วางขาเบาะหลังกว้างจนน่าตกใจ และตัวรถที่กว้างที่สุดในกลุ่ม ทำให้การนั่ง 3 คนที่เบาะหลังทำได้จริงที่สุด

อันดับ 2: BYD Dolphin (EV)

• ระยะฐานล้อ: 2,700 มม.

• ความกว้างตัวรถ: 1,770 มม.

• เหตุผล: เป็นเจ้าตลาดที่ขึ้นชื่อเรื่องพื้นที่เบาะหลังที่กว้างขวางเกินตัว พื้นรถที่เรียบสนิท (Flat Floor) ทำให้ผู้โดยสารตอนหลังขยับตัวได้อิสระมาก

อันดับ 3: MG 4 (EV)

• ระยะฐานล้อ: 2,705 มม. (ยาวกว่า Dolphin เล็กน้อย แต่การจัดวางคอนโซลเน้นผู้ขับขี่)

• ความกว้างตัวรถ: 1,836 มม.

• เหตุผล: แม้ฐานล้อจะยาว แต่ด้วยความเป็นรถขับเคลื่อนล้อหลังและการออกแบบแนวสปอร์ต ทำให้รู้สึก "กระชับ" กว่า Dolphin เล็กน้อย แต่ความกว้างของตัวรถช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งในระดับแถวหน้าของกลุ่ม

อันดับ 4: Jaecoo 5 (EV)

• ระยะฐานล้อ: 2,620 มม.

• ความกว้างตัวรถ: 1,860 มม.

• เหตุผล: แม้ฐานล้อจะไม่ยาวเท่ากลุ่ม Hatchback ด้านบน แต่ Jaecoo 5 เป็นทรง SUV ที่มี "เพดานสูง" (Headroom) และตัวรถที่กว้างที่สุด ทำให้ความรู้สึกในห้องโดยสารดูโอ่อ่าและดูแพงที่สุด

อันดับ 5: Geely EX2 (EV)

• ระยะฐานล้อ: 2,650 มม.

• ความกว้างตัวรถ: 1,805 มม.

• เหตุผล: มีระยะฐานล้อที่พอๆ กับรถ B-Segment ทั่วไป แต่การเป็น SUV ขนาดเล็กทำให้มีพื้นที่เหนือศีรษะดีกว่ารถเก๋ง การนั่งโดยรวมถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐานรถครอบครัวเริ่มต้น

อันดับ 6: Honda City (ICE / HEV)

• ระยะฐานล้อ: 2,589 มม. (Sedan) / 2,589 มม. (Hatchback)

• ความกว้างตัวรถ: 1,748 มม.

• เหตุผล: นี่คือ "ราชาแห่งการจัดเนื้อที่" ของรถน้ำมัน แม้ฐานล้อจะสั้นกว่ารถไฟฟ้าด้านบน แต่ Honda ออกแบบให้เบาะหลังนั่งสบายที่สุด มีองศาการเอนที่พอเหมาะ และมีพื้นที่วางขาที่กว้างกว่ารถน้ำมันทุกรุ่นในลิสต์นี้

อันดับ 7: Toyota Yaris / ATIV (ICE)

• ระยะฐานล้อ: 2,620 มม. (ATIV) / 2,550 มม. (Hatchback)

• ความกว้างตัวรถ: 1,740 มม.

• เหตุผล: Yaris ATIV (Sedan) มีพื้นที่เบาะหลังกว้างมากในระดับที่น่าพอใจ แต่ถ้าเป็นรุ่น Yaris Hatchback พื้นที่เบาะหลังจะค่อนข้างกระชับกว่าพอสมควร

อันดับ 8: MG 3 Hybrid+ (HEV)

• ระยะฐานล้อ: 2,570 มม.

• ความกว้างตัวรถ: 1,797 มม.

• เหตุผล: ตัวรถมีความกว้างขวางในระดับกลางๆ เน้นการนั่งที่กระชับสไตล์ยุโรป พื้นที่ห้องโดยสารไม่ได้กว้างโดดเด่นเท่า City หรือ Dolphin

อันดับ 9: Wuling Binguo (EV)

• ระยะฐานล้อ: 2,560 มม.

• ความกว้างตัวรถ: 1,708 มม.

• เหตุผล: เป็นรถขนาดกะทัดรัด เน้นความคล่องตัว ภายในออกแบบมาให้นั่ง 4 คนได้พอดีๆ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ ในลิสต์ถือว่าเล็กกว่าอย่างชัดเจน

อันดับ 10: Mazda 2 (ICE)

• ระยะฐานล้อ: 2,570 มม.

• ความกว้างตัวรถ: 1,695 มม.

• เหตุผล: เป็นรถที่เน้นผู้ขับขี่เป็นหลัก ห้องโดยสารตอนหลังแคบที่สุดในบรรดารถทั้งหมดนี้ ทั้งพื้นที่วางขาและพื้นที่กระจกที่ทำให้รู้สึกอึดอัดกว่ารุ่นอื่น

สรุปฟันธงเพื่อความกว้างสบาย:

• ถ้าอยากได้ "กว้างที่สุดในประวัติศาสตร์รถเล็ก": ไปที่ Aion UT

• ถ้าอยากได้ "กว้างแบบรถเก๋งยอดนิยม": ไปที่ Honda City

• ถ้าอยากได้ "กว้างแบบโปร่งโล่งสไตล์ SUV": ไปที่ Jaecoo 5

การเปรียบเทียบพื้นที่เบาะหลัง (Rear Seat Space)

หัวข้อนี้วัดกันที่ความสบายของผู้นั่งหลัง โดยพิจารณาจากพื้นที่วางขา (Legroom) และความกว้างของตัวรถ

สรุปคำแนะนำ:

• ถ้าคุณต้องการรถที่ "ผู้โดยสารตอนหลังแฮปปี้ที่สุด" (นั่งสบาย กว้างขวาง): ให้เลือก Aion UT หรือ Honda City

พละกำลัง

หากเน้นที่ "พละกำลัง" (Performance) เป็นหลัก รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะได้เปรียบอย่างมากในเรื่องของแรงบิดที่มาแบบทันทีทันใด โดยเฉพาะกลุ่มขับเคลื่อนล้อหลังหรือขับเคลื่อนสี่ล้อ

นี่คือการเรียงลำดับทั้ง 10 รุ่น (รวมรุ่นย่อยที่แรงที่สุดของแต่ละโมเดล) โดยเน้นไปที่ แรงม้า แรงบิด และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ครับ

ตารางเปรียบเทียบพละกำลัง (เรียงจากแรงที่สุดลงไป)

เจาะลึกกลุ่ม "ตัวตึง" เรื่องความแรง

1. MG 4 (XPOWER): ราชาแห่งแรงม้า

ถ้าโจทย์คือพละกำลัง รุ่นนี้คือ "ที่สุด" แบบทิ้งห่างเพื่อนร่วมรายการไปไกล ด้วยมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และอัตราเร่งระดับ Supercar (3.8 วินาที) หากคุณชอบหลังติดเบาะ คันนี้คือคำตอบเดียวครับ

2. Jaecoo 5 & BYD Dolphin (Extended): พลังไฟฟ้าสายมาตรฐาน

ทั้งสองรุ่นให้ฟีลการขับขี่ที่กระฉับกระเฉงมาก แรงม้าช่วง 200 ตัวถือว่าเกินพอสำหรับการเร่งแซงในชีวิตประจำวัน โดย Dolphin Extended จะเด่นเรื่องแรงบิดที่สูงกว่าเล็กน้อย ทำให้จังหวะออกตัวรู้สึกพุ่งกว่า

3. MG 3 Hybrid+: มวยรองบ้าพลัง

เป็นรถที่ "คุ้มค่าที่สุดในแง่แรงม้าต่อราคา" เพราะในกลุ่มรถที่ไม่ใช่ไฟฟ้าล้วน MG 3 Hybrid+ ให้แรงม้ามาถึง 194 ตัว ซึ่งเกือบเท่ารถยุโรปบางรุ่น ทำให้มันเป็นรถ Small Car ที่ขับสนุกและเร่งแซงได้มั่นใจที่สุดในกลุ่มไฮบริด

4. Honda City e:HEV: แรงบิดมอเตอร์ที่ไว้ใจได้

แม้แรงม้าจะดูน้อยกว่า MG 3 แต่ แรงบิด 253 นิวตันเมตร จากมอเตอร์ไฟฟ้าของ Honda ทำงานได้สมูทและตอบสนองไวมาก อัตราเร่งช่วง 0-60 กม./ชม. ทำได้ดีเยี่ยม เหมาะกับการมุดในเมือง

ข้อสังเกต:

• Toyota Yaris ATIV (HEV) แม้จะมีมอเตอร์ช่วย แต่ถูกเซ็ตมาเพื่อเน้นความประหยัดและการขับขี่ที่นุ่มนวล พละกำลังจึงไม่ได้ดุดันเท่าฝั่ง MG หรือ Honda

• Mazda 2 และ Wuling Binguo จะรั้งท้ายในหัวข้อนี้ เนื่องจาก Mazda เน้นการควบคุมที่คม (Handling) มากกว่าความแรงทางตรง ส่วน Wuling เน้นใช้งานในเมืองแบบประหยัดพื้นที่และพลังงานครับ

หากคุณอยากลองสัมผัส "ความแรง" ในงบประมาณที่จำกัดที่สุด ผมแนะนำให้ไปลองขับ MG 3 Hybrid+ เทียบกับ BYD Dolphin ดูครับ คุณจะเห็นความต่างของพละกำลังที่ชัดเจนมาก!

ระบบความปลอดภัย (Safety Features)

ผมขอแบ่งระดับความปลอดภัยออกเป็น 3 กลุ่มตามเทคโนโลยีที่ได้รับครับ:

กลุ่ม A: จัดเต็มที่สุด (Full ADAS & 5-Star Safety)

• BYD Dolphin / MG 4: ได้มาตรฐาน Euro NCAP 5 ดาว มีระบบช่วยขับอัตโนมัติ (ACC, AEB, Lane Keep) และระบบเตือนจุดอับสายตาที่แม่นยำ

• Jaecoo 5: ให้ถุงลมนิรภัยมาเยอะ (บางรุ่นมีถุงลมกลาง) และมีระบบช่วยขับ ADAS เวอร์ชั่นล่าสุดที่ทำงานละเอียดกว่ารุ่นเก่า

• Honda City (e:HEV): มี Honda SENSING ที่ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน (ACC with LSF) ทำงานได้สมูทที่สุดในกลุ่มแบรนด์ญี่ปุ่น

กลุ่ม B: ความปลอดภัยมาตรฐานสูง (Solid Safety)

• Toyota Yaris ATIV: มี Toyota Safety Sense มาให้ครบในรุ่นท็อป แต่ระบบช่วยประคองรถในเลนอาจจะไม่เนียนเท่าฝั่ง EV หรือ Honda

• Aion UT / Geely EX2: ใช้โครงสร้างตัวถังนิรภัยที่เน้นปกป้องแบตเตอรี่เป็นพิเศษ และมี ADAS พื้นฐานมาให้ครบ (เบรกอัตโนมัติ, เตือนออกนอกเลน)

• MG 3 Hybrid+: ให้ระบบความปลอดภัยมาเยอะเกินราคา แต่ความนิ่งของระบบเซนเซอร์อาจยังเป็นรองแบรนด์ใหญ่อยู่นิดหน่อย

กลุ่ม C: ความปลอดภัยพื้นฐาน (City Safety)

• Mazda 2: แม้จะมีระบบความปลอดภัย แต่ด้วยอายุโมเดลที่นาน เทคโนโลยีบางอย่างจึงไม่ทันสมัยเท่าคู่แข่ง

• Wuling Binguo: เน้นการใช้งานในเมือง ระบบช่วยเหลือจึงมีแค่พื้นฐาน (ABS, EBD, ถุงลมคู่หน้า) ไม่เหมาะกับการเน้นระบบช่วยขับอัตโนมัติ

สรุปคำแนะนำ:

• ถ้าคุณต้องการรถที่ "ปลอดภัยระดับมาตรฐานสากลและฉลาด": ให้เลือก BYD Dolphin, MG 4 หรือ Jaecoo 5