X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
ร่มไม้ชายศาล
25 Jun 2015
คดีแพรวากะเขามั่ง !?!
สาธุชนคงจำได้ "คดีแพรวา" เมื่อปลายปี 2553 เยาวชนอายุ 17 ปี ขับรถเก๋งขึ้นทางยกระดับโทลล์เวย์ แล้วพุ่งชนรถตู้โดยสารกระเด็นตกจากทางด่วน คนบนรถตู้เสียชีวิต 9 ศพ ผลของคดีอาญาถึงที่สุดเมื่อวันที่ 11 พค. นี่เอง เมื่อศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย ท่านชี้ว่าฎีกาไม่มีสาระสำคัญ พอที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งศาลล่าง การลงโทษจำเลย จึงเป็นไปตามคำตัดสินศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 2 ปี แต่รอลงอาญาไว้ 4 ปี คุมประพฤติโดยให้บำเพ็ญประโยชน์ 48 ชั่วโมง/ปี เป็นเวลา 4 ปี และห้ามขับรถยนต์ จนกว่าอายุจะครบ 25 ปี สิ่งที่ตามมาแน่ๆ คือ คดีแพ่ง ฝ่ายผู้ตายร่วมกันฟ้องร้องจำเลย และผู้ปกครอง หรือบิดามารดา เรียกค่าสินไหมทดแทน รวม 120 ล้านบาท หลังจากศาลสั่งจำหน่ายคดีไว้ก่อน เพื่อรอผลคำตัดสินคดีอาญา ชัวร์ๆ คือ จำเลยดิ้นไม่หลุดข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้บุคคลทั้ง 9 ราย จบชีวิตอย่างน่าอนาถ เหลือแง่เดียว ศาลจะกำหนดให้จำเลย คือ ครอบครัวแพรวา รับผิดเป็นเงินเท่าไร อย่างไร ที่สำคัญ คือ ถ้าศาลรับฎีกาของจำเลย คดีอาญาก็ยืดเยื้ออีกนาน ไม่รู้กี่ปี ยิ่งนาน ฝ่ายผู้ที่สูญเสีย ยิ่งทุกข์หนัก ไม่ได้รับการชดใช้สักที เพราะคดีแพ่งไปต่อไม่ได้ ต้องรอฟังผลคดีอาญาที่ยุติ หรือสิ้นสุดแล้วเสียก่อน บัดนี้คดีอาญายุติแล้ว เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2558 ญาติผู้ตายทั้ง 9 ราย จึงเชคบิลล์พ่อ/แม่ของแพรวาได้เสียที อีกอย่างถ้างานนี้แพรวา บรรลุนิติภาวะแล้วเมื่อตอนเกิดเหตุ ฝ่ายผู้ตายจะซวยกว่านี้ เพราะเรียกร้องจากพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้แม้แต่บาทเดียวนะขอรับ ผมหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อให้แฟนๆ ทราบความคืบหน้า และสะกิดให้รู้ด้วยว่า การให้ลูกหลานเยาวชนขับรถ มันเสี่ยงต่อคนอื่นๆ เสี่ยงต่อความรับผิดของพ่อแม่ผู้ปกครองขนาดไหน ในชีวิตประจำวันอันอีรุงตุงนังของคนยุคนี้ มักละเลย เห็นเป็นเรื่องธรรมดาๆ ทั้งๆ ที่ไม่ธรรมดา เจอคำตัดสินคดีแพ่ง รับรองหน้ามืด ทั้งๆ ที่ไฟสว่างโร่ หากไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ตามมาด้วยคดีล้มละลายเชียวนะ ตบท้ายด้วยคดีรถให้คึกคักเช่นเคย เกี่ยวกับค่าเสียหาย ให้สอดคล้องกับเรื่องราวที่ว่ามาข้างต้น "นายเคลิบเคลิ้ม" หนุ่มพอดีๆ ขับรถเก๋งไปตามถนน ผ่านปากซอย ซึ่งไม่น่าจะมีรถโผล่ออกมา เพราะเจ้าหน้าที่กำหนดไว้ ให้เดินรถทางเดียว หมายถึงมีแต่รถเข้า ไม่มีรถออกจากซอย ที่ไหนได้ "นายหัวเราะ" เพิ่งหนุ่มไม่นาน ขับขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนสาวอีกสอง ฝ่าฝืนกฎหมายกลางกรุงซะงั้น บิดรถย้อนศรออกจากซอยเข้าถนนใหญ่ ด้วยเห็นเป็นยามค่ำคืนละมั้ง เลขที่ออก โดนรถยนต์จิ้มท้าย ด้านขวาตรงท่อไอเสีย ล้อหลังเกือบหลุด ที่แย่ คือ นายหัวเราะ กลับบ้านเก่าก่อนวัยอันควร ไม่ได้หัวเราะอีก สองสาวบาดเจ็บไปตามเรื่อง หลังจากนั้น พ่อแม่ นายหัวเราะ จ้างทนายฟ้อง นายเคลิบเคลิ้ม กับ "บริษัทประกันจ่ายไวนักแล จำกัด" ให้ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหม กรณีที่ทำให้ นายหัวเราะ ตาย เป็นเงิน 2 ล้าน 3 แสนกว่าบาท พร้อมดอกเบี้ย จำเลยพากันสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง อ้างว่า นายหัวเราะ ประมาทอย่างเห็นๆ ทะลึ่งขับรถย้อนศร โผล่พรวดออกจากซอย ศาลชั้นต้นนั่งบัลลังก์ หน้าเฉยแบบจ่าเฉย ให้เกรงขาม มองว่าไม่เข้าใครออกใคร ฟังความทุกฝ่าย แล้วตัดสินยกฟ้อง ให้ นายเคลิบเคลิ้ม แกเคลิบเคลิ้มด้วยความดีใจ บริษัทประกัน ฯ ซึ่งรับประกันรถเก๋งก็โล่งใจ พ่อแม่ นายหัวเราะ ยากจน จึงขออุทธรณ์แบบอนาถา ไม่เสียค่าธรรมเนียม ศาลไต่สวนแล้วอนุญาต ศาลอุทธรณ์เพ่งดูสำนวนคดีนี้จบแล้ว ไม่กลัวเมื่อย พิพากษายืน ยกฟ้องโจทก์เช่นเคย โจทก์พยายามต่อไป เพื่อให้ได้เงิน ขอฎีกาแบบอนาถา ศาลโอเครับฎีกา ศาลฎีกางานเข้าแยะ กัดฟันคว้าสำนวนคดีนี้ที่มาถึงคิว ส่องดูแล้วชี้ขาดว่า ตามพฤติการณ์ในการขับรถของทั้งสองฝ่าย ดูสิว่าใครประมาทยิ่งหย่อนกว่ากัน งานนี้ถ้า นายเคลิบเคลิ้ม ระมัดระวังตามสมควร ย่อมเห็นรถมอเตอร์ไซค์ ที่นายหัวเราะ ขับมา แล้วชะลอรถ ก็ไม่เกิดการเฉี่ยวชน ขณะเดียวกัน นายหัวเราะ นั้นใช่ย่อย ทะลึ่งขี่รถย้อนศร ออกจากซอย ไม่ยักหยุดดูรถที่จะมาทางขวา (กลัวเจอตำรวจ ผมว่าเอง) จึงเกิดเหตุ อีแบบนี้ศาลมองว่า นายเคลิบเคลิ้ม และ นายหัวเราะ ประมาทพอกัน โจทก์ และ นายเคลิบเคลิ้ม จึงไม่อาจเรียกร้องค่าเสียหายต่อกัน ตาม ปพพ. มาตรา 442, 223 บริษัทประกันภัยจ่ายไวนักแล ฯ พลอยสบายโก๋ไปด้วย ไม่ต้องรับผิดงานนี้ แม้แต่แดงเดียว ศาลฎีกาทนเมื่อยอีกหน พิพากษายืน ยกฟ้องของโจทก์ซะ อยากจะบอกว่า การขับรถเป็นเรื่องหมูๆ ก็จริง แต่ถึงตาย หรือเลี้ยงไม่โตได้เสมอ ไม่ใช่แค่นั้น หากก่อความเสียหายให้หลายๆ คน หรือเขาเสียหายเยอะจัด โดนเรียกค่าสินไหมนะเอ้อ ไม่จ่าย ล้มละลายก็มี ขอบอก จากคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 17868/2556 คดีรถ ตีพิมพ์ใน "ฟอร์มูลา" ส่งไป 12 พค. 2558
อ่านต่อ
เรื่องโดย : จอมยุทธ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2558
คอลัมน์ Online : ร่มไม้ชายศาล
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/11834
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
ร่มไม้ชายศาล
ร่มไม้ชายศาล
15 Dec 2016
แย่งทางแยก/รถไฟฟ้า
ร่มไม้ชายศาล
11 Nov 2016
ต้องอย่างนี้สิน่า
ร่มไม้ชายศาล
7 Oct 2016
"นี่ละพี่ไทย !"