สัมผัส เนินมะปราง กับยานยนต์ซูเพอร์ฮีโร

"เนินมะปราง" เป็นอำเภอเล็กๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ที่เปื่ยมไปด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติ ภูเขาหินทรงแปลกตา ผู้คนที่ยิ้มแย้ม และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนในพื้นที่ "4 WHEELS" ขอพาแฟนๆ ชีวิตอิสระ ไปเยือนดินแดนที่ถูกแอบซ่อนแห่งนี้

มุ่งหน้าสู่ พิษณุโลก กับ ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ทู

    การเดินทางครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่จะได้สัมผัสกับรถที่ออกแบบและผลิตโดยคนไทย (ยกเว้นเครื่องยนต์, ระบบรองรับ และคอนโซลภายใน) อย่าง ทีอาร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ทู จากบริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)   รถที่เราได้มา เป็นรุ่นมาตรฐาน ขนาด 5 ที่นั่ง (มีรุ่น 9 ที่นั่ง และ 11 ที่นั่งด้วย) ที่พัฒนาจาก โตโยตา ไฮลักซ์ รีโว รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ โดยได้รับการออกแบบภายนอกใหม่เกือบทั้งหมด นอกจากรูปทรงที่ดูน่ายำเกรงแล้ว สีของรถ ยังได้แรงบันดาลใจมาจากซูเพอร์ฮีโรอย่าง "ไอรอนแมน" จึงไม่น่าแปลกใจ ที่จะเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเด็กๆ และผู้พบเห็น ตลอดการเดินทาง     เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้า ตามทางหลวงหมายเลข 32 (กรุงเทพฯ-นครสวรรค์) เมื่อถึง จ. นครสวรรค์ ก็เลี้ยวขวา มุ่งต่อไปสู่ จ. พิษณุโลก ตามทางหลวงหมายเลข 117 จากนั้นเลี้ยวขวาอีกครั้ง เข้าสู่ จ. พิจิตร ผ่านแยกสากเหล็ก ไปประมาณ 30 กม. ก็ถึง อ. เนินมะปราง รวมระยะทางทั้งหมด 400 กม.     เส้นทางที่เราใช้เป็นทางสายหลัก จึงเป็นทางตรงยาว และมีหลายเลน ก่อนเดินทางผมแอบหวั่นใจว่ารถทรงเหลี่ยมแบบนี้ ถ้าต้องเดินทางไกลด้วยความเร็วเกิน 100 กม./ชม. จะมีแรงพอให้เร่งแซงหรือไม่ เนื่องจากคันใหญ่ และน้ำหนักมาก แต่เมื่อลองเข้าจริงก็พบว่า รถคันนี้กลับตอบสนองดี ทั้งความเร็วต่ำ และความเร็วสูง รวมถึงเนินชันที่ต้องใช้แรงบิดมหาศาลเพื่อพารถไป คงต้องยกความดีให้เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล เทอร์โบ ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลัง 150 แรงม้า ที่ทำงานผสานกับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะอย่างลงตัว ทำให้รถคันนี้เป็นรถที่ขับง่ายเกินคาด    

เนินมะปราง ความสงบที่หลายคนฝันถึง

    เนินมะปราง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดพิษณุโลกทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 70 กม. ลักษณะส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูนทรงแปลกตา ตั้งตระหง่านเรียงกันเป็นกลุ่มมานานกว่า 300 ล้านปี     เดิมทีพื้นที่แถบนี้เป็นป่าดงดิบ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ และสัตว์ป่านานาชนิด อยู่ห่างไกลผู้คน จะมีเพียงนายพรานเท่านั้น ที่เข้ามาล่าสัตว์ และออกหาของป่าไปขาย ต่อมาได้มีกลุ่มคนจากจังหวัดใกล้เคียงทั้งเพชรบูรณ์ พิจิตร รวมถึงคนพิษณุโลกเอง อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานบริเวณนี้ จนกลายเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ ที่อยู่กันมาก่อนเป็นอำเภอกว่า 40 ปี อาชีพส่วนใหญ่ คือ เกษตรกรรม เช่น ทำนา ทำไร่ ทำสวน ทำให้การดำเนินชีวิตของคนที่นี่เป็นไปอย่างเรียบง่าย นักท่องเที่ยวที่ชอบความสงบ และบรรยากาศชิลล์ๆ จึงต่างหลงมนต์เสน่ห์ของเนินมะปราง  

  สถานที่ไฮไลท์ของเนินมะปราง คือ "บ้านมุง" หมู่บ้านสุดชิลล์ที่อยู่ติดกับภูเขาหินปูนอันสลับซับซ้อน ทอดยาวเรียงตัวรอบหมู่บ้าน ทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงามเกือบทุกมุม ในช่วงเย็นเวลาประมาณ 18.00-19.00 น. ถ้าฝนไม่ตก เราจะได้เห็นฝูงค้างคาวหน้ายักษ์เล็กจมูกปุ่ม หรือชื่อวิทยาศาสตร์ว่า HIPPOSIDEROS HALOPHYLLUS วงศ์ HIPPOSIDERIDAE นับล้านตัว ที่บินออกจากถ้ำบ้านมุง หรือวัดบ้านมุง เพื่อหาอาหารยามค่ำคืน มองเห็นเป็นแนวโค้งยาวหลายกิโลเมตร เป็นภาพที่หาชมได้ยาก    

มุดถ้ำ ย่ำน้ำ ย้อนกาลเวลา ที่ถ้ำผาท่าพล

    นอกจากบ้านมุงแล้ว ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอย่าง เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ที่มีพื้นที่เกือบ 2 พันไร่ พื้นที่บริเวณนี้เป็นภูเขาหินปูนที่สูง มีหน้าผาสูงชันอันเกิดจากการกัดเซาะของน้ำฝนนับหลายล้านปี เกิดเป็นถ้ำต่าง ๆ มากมาย การเข้าชมจะเป็นแบบวงกลม สามารถขับรถไปจอด แล้วลงเดินชมได้เลย     "ถ้ำเรือ" เป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม ภายในถ้ำพบรูปรอยคล้ายเรือคว่ำอยู่บนเพดานถ้ำ เกิดจากน้ำท่วมซ้ำแล้วซ้ำเล่า บริเวณหน้าถ้ำยังสามารถเห็นพืชป่าภูเขาหินปูนได้ชัดเจน     "อักษรญี่ปุ่น" เลยมาอีกนิดจะเจออักษรญี่ปุ่นถูกสลักไว้บนก้อนหินขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่ากองทัพญี่ปุ่นได้เคยเดินทัพผ่านมา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2     "ถ้ำเต่า" ว่ากันว่าแต่ก่อนถ้ำนี้ เคยมีเต่าอาศัยอยู่จำนวนมาก แต่สิ่งที่หน้าแปลก คือ มีหินงอกหินย้อยเอียงออกมาหน้าตัวถ้ำ ราวกับพืชที่ต้องเอียงตัวเพื่อรับแสง     "ถ้ำลอด" เป็นถ้ำที่สามารถเดินทะลุข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ ทางเดินจะสะดวกสบายในหน้าแล้ง แต่ค่อนข้างลำบากในหน้าฝน   "ถ้ำผาแดง" เป็นถ้ำที่มีแร่เหล็กสีแดง เฮมาไทท์ (HEMATITE) เป็นจำนวนมาก สันนิษฐานว่าถ้ำนี้เคยเป็นที่อยู่ของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เนื่องจากตรวจพบเศษภาชนะดินเผามากมาย   นอกจากนี้ยังพบซากดึกดำบรรพ์ของหอยและปะการังอยู่ทั่วบริเวณ เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้ เคยเป็นท้องทะเลมาก่อน และยังมีภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์รูปมือคนบน "เพิงผาหิน" รวมถึงพันธุ์ไม้และร่องรอยสัตว์ป่า การเที่ยวชมถ้ำต้องนำไฟฉายติดมาด้วย ในช่วงฤดูฝนถ้ำบางแห่งอาจเข้าชมไม่ได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมพื้นถ้ำ    

โล้ชิงช้า ชมวิวพาโนรามา ที่บ้านรักไทย

    บ้านรักไทย ตั้งอยู่บนภูเขาสูง ต. ชมพู อ. เนินมะปราง จ. พิษณุโลก เป็นสถานที่พักผ่อน ที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากอยู่บนที่สูง จึงมีอากาศเย็น     ปัจจุบันมีรีสอร์ทเกิดขึ้นมากมาย แต่คนนิยมเที่ยวมากที่สุด คือ บ้านสวนชมวิว เพราะมีไฮไลท์เป็นจุดชมวิวที่มีชิงช้าบนต้นไม้ สามารถมองเห็น อ. เนินมะปราง ได้ทั้งหมดแบบพาโนรามา ในฤดูหนาว พื้นที่แถบนี้จะมีหมอกหนา ไหลเอื่อยๆ ตามลม คล้ายกับที่เขาค้อ หรือภูทับเบิก จ. เพชรบูรณ์ (เนื่องจากมีพื้นที่ติดกัน) ถ้ามาฤดูอื่น ในช่วงเช้าก็ยังพอมีหมอกบางๆ ให้เห็นอยู่บ้าง แต่ถ้าคืนไหนฝนตก จะมีหมอกลงหนาเป็นพิเศษ     ที่บ้านรักไทย ส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวน จึงมีผลไม้กินตลอดไป ตั้งแต่ มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่ ทุเรียน และลำไย ถ้ามาช่วงพฤษภาคม-มิถุนายน จะได้เห็นหิ่งห้อยมากมายไม่แพ้อัมพวา ถ้าใครชอบเดินป่า ช่วงปลายฝนต้นหนาวสามารถไปตั้งแคมพ์ได้ที่ทุ่งโนนสน    

เดินชมน้ำตกไผ่สีทอง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ของคนพิษณุโลก

    ออกจากบ้านรักไทย ไปทาง อ. วังทอง ไม่ไกลนัก จะพบกับ "น้ำตกไผ่สีทอง" แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดที่เพิ่งค้นพบเมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยชาวบ้านแถบนั้น   น้ำตกไผ่สีทอง มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ชั้นที่ 1-4 และ 6-8 จะเป็นชั้นเล็กๆ แต่ชั้นที่ 5 และ 9 จะมีความสูงอย่างชัดเจนกว่า 15 ม. ทำให้สวยงามที่สุด น้ำตกแห่งนี้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเบญจพรรณ ที่มีเส้นทางเดินเท้าเพื่อชมธรรมชาติระยะทาง 1.5 กม. ได้อีกด้วย ทางเข้ายังเป็นดินลูกรัง ถ้ามาช่วงฤดูฝน ต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น ปัจจุบันทาง จ. พิษณุโลก กำลังพัฒนาเส้นทางเข้าน้ำตกให้สะดวกมากขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต    

สักการะพระพุทธชินราช วัดคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก

    ถ้าเรามาถึงเมืองพิษณุโลก สถานที่ที่ต้องสักการะให้ได้ก่อนกลับ คือ พระพุทธชินราช เนื่องจากเป็นศูนย์รวมความศรัทธาของคนทั้งจังหวัด รวมถึงจังหวัดใกล้ๆ อย่างเต็มเปี่ยม     พระพุทธชินราช ตั้งอยู่ในอุโบสถ์ "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ" หรือ "วัดใหญ่" ในภาษาชาวบ้าน เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่ากลางเมืองพิษณุโลก พระพุทธชินราช เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสุโขทัย ได้รับยกย่องว่ามีพุทธลักษณะที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศไทย เส้นพระวรกายอ่อนช้อย พระขนงโก่ง พระนาสิกโด่ง ชายผ้าสังฆาฏิแยกเป็นเขี้ยวตะขาบ นิ้วพระหัตถ์ทั้ง 4 ยาวเสมอกัน ประดิษฐานอยู่ในซุ้มเรือนแก้วที่คาดว่าน่าจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ว่ากันว่าใครที่ได้มาสักการะ จะมีแต่ความโชคดี แคล้วคลาดปลอดภัย    

ชมพระราชวังจันทน์ แผ่นดินถิ่นกำเนิดพระนเรศวร

    จากวัดใหญ่ ถ้าหันมองไปที่แม่น้ำน่าน เราจะพบกับพระราชวังจันทน์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดใหญ่พอดี พระราชวังจันทน์ เป็นโบราณสถานเก่าแก่ที่สำคัญ และเป็นถิ่นกำเนิดของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชอีกด้วย     ภายในประกอบด้วยศูนย์ประวัติศาสตร์พระราชวังจันทน์ เป็นพิพิธภัณฑ์บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาต่างๆ ของ จ. พิษณุโลก ทางทิศใต้เป็นวัดวิหารทอง ที่ประดิษฐสถานพระอัฏฐารสองค์จำลองเท่าขนาดจริง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ นอกกำแพงพระราชวังจันทน์ คือ วัดศรีสุคต และวัดโพธิ์ทอง ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้นอกกำแพงพระราชวังจันทน์ นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้ทุกวัน "ฟรี" ในเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.    

แผนที่

   

ที่กิน

    ในตัวเมืองพิษณุโลก มีร้านอาหารที่โด่งดังมากมาย แต่เราเลือกร้าน "ภัตตาคาร ส.เลิศรส" เนื่องจากเป็นร้านเก่าแก่ ที่คนพิษณุโลกฝากท้องกันมามากกว่า 50 ปี ผมสั่งเมนูขึ้นชื่ออย่าง "คะน้าไข่ตุ๋นปลาเค็ม" ที่รสชาติกลมกล่อม กินแล้วมีรสเค็ม หวาน และมัน ตัดกันอย่างพอดี ต่อมาเป็นเมนู "ไก่ทอด" ที่ใครมาก็ต้องสั่ง ไก่ถูกหมักตามแบบฉบับทางร้าน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่ที่ทำเอง เนื้อไก่มีความกรอบหอมเครื่องเทศ เพลิดเพลินยิ่งนัก สุดท้ายเป็นเมนูต้มยำปลากด เนื้อปลากดที่สด บวกกับเครื่องต้มยำที่ถึง ช่างอร่อยอย่าบอกใคร    

ที่นอน

    มาเที่ยวเนินมะปรางทั้งที ต้องมาพักผ่อนที่บ้านรักไทยให้จงได้ "บ้านสวนริมผา" ตั้งอยู่ริมเขาฝั่งทิศตะวันออกของบ้านรักไทย เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม มองเห็น อ. เนินมะปราง ได้แบบ 360 องศา ผมพักห้องริมสุด เป็นบ้านนอคดาวน์รูปวงรี สามารถพักได้ถึง 4 คน ต่อ 1 หลัง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบถ้วน ลุงดำผู้ดูแล ให้การต้อนรับ และมีอัธยาศัยดี ในราคาเริ่มต้นที่ 1,000 บาทเท่านั้น    

ขอขอบคุณ

บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ที่เอื้อเฟื้อพาหนะสำหรับการเดินทางครั้งนี้