X
Driven
Driving Impression
Test Drive
Test Drive Data
New Cars
รถใหม่ในประเทศ
รถใหม่ต่างประเทศ
News
ข่าวรอบโลก
ข่าวสารยานยนต์
All Around
เครื่องเสียง/Gadgets
แต่งรถ
ดูแลรักษารถยนต์
สาระสะใจ
วาไรตี้ยานยนต์
สถิติยอดจำหน่ายรถยนต์
TV Programs
รายการ โลกรถยนต์
รายการ Carnatomy
รายการ พี่น้องลองรถ
รายการ เรื่องรถ…เรื่องง่าย
รายการ คุณลุงใจดี
About Autoinfo
About Us
Advertise With Us
Privacy Policy
Terms of use
Car Buyer's Guide
ติดตามเราได้ทาง
X
Popular search in Autoinfo
50,000+ contents and images from writers
#1
Deepal S07
Hilux Champ
BYD Seal
BYD
NETA
TATA
หัวชาร์จรถ EV
รถกระบะ
ยอดขายรถยนต์
ราคารถยนต์
รถ EV
เปิดตัวรถใหม่
วิธีไหว้แม่ย่านาง
ฤกษ์ออกรถใหม่
พ่วงแบทเตอรี
วิธีดูแลรักษารถยนต์
ต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์
DIY...คุณทำเองได้
18 Mar 2014
ตรวจเชครถ ก่อนเดินทางไกล
เมษายน เดือนแห่งเทศกาลสงกรานต์ ที่มีวันหยุดยาวหลายวัน หลายคนเริ่มวางแผนออกเที่ยวต่างจังหวัด ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพื่อให้การเดินทางไกลเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีความสุข คุณต้องตรวจเชคความพร้อมของรถ ซึ่งมีวิธีง่ายๆ ดังนี้
ตรวจเชคภายนอกรถ
- ยางปัดน้ำฝน...ทดลองเปิดใช้งาน หรือถ้าปัดไม่สะอาด เปลี่ยนใหม่ทันที - ยาง...ตรวจเชคสภาพดอกยาง ความดันลมยาง รวมถึงเชคนอทล้อดูว่าขันแน่นดีหรือไม่ - ร่องรอยน้ำมันรั่ว...ก้มดูใต้ท้องรถ บริเวณห้องเครื่อง ว่ามีรอยคราบน้ำมันหรือไม่ - ไฟส่องสว่าง...ตรวจเชคไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว และไฟอื่นๆ รวมถึงระดับของไฟหน้า ว่ายังปกติดีอยู่หรือไม่
ตรวจเชคภายในรถ
- แตร...ทดลองกดดู ต้องมีเสียงดังเป็นปกติ - ฟิวส์...ตรวจเชคฟิวส์ต่างๆ รวมถึงฟิวส์สำรอง ต้องมีขนาดค่ากระแสตามกำหนด - ยางอะไหล่ และแม่แรง...ตรวจเชคลมยางอะไหล่ และต้องแน่ใจว่า แม่แรง และด้ามขัน ใช้งานได้ปกติ - แผงควบคุม และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง...ตรวจเชคสวิทช์ ไฟเลี้ยว ปัดน้ำฝน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ สามารถใช้งานได้ปกติ
ตรวจใต้ฝากระโปรงหน้ารถ
- ระดับน้ำหล่อเย็น...ตรวจดูบริเวณหม้อพักสำรอง ควรมีน้ำอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพัก - กรองอากาศ...ตรวจเชคแผ่นกรองอากาศ ต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ถ้าสกปรกมากให้เปลี่ยน ถ้ายังพอใช้ได้ให้เป่า - แบทเตอรี...เชคระดับน้ำกลั่น ให้อยู่ในระดับที่กำหนด (ดูได้จากเส้นวัดข้างตัวแบทเตอรี) รวมถึงขั้วต่อแบทเตอรีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ - หม้อน้ำ และท่อยาง...ตรวจดูหน้าหม้อน้ำ ต้องไม่มีสิ่งใดมาขวางทางระบายอากาศ และตรวจดูท่อยางต้องอยู่ในสภาพดี - สายพานต่างๆ...ต้องไม่มีรอยแตกลายงา หรือเลอะน้ำมันต่างๆ สายพานต้องตึงกำลังดี และไม่มีเสียงดัง - ระดับน้ำมันต่างๆ...ตรวจดูว่าระดับน้ำมันเบรค คลัทช์ และน้ำมันเพาเวอร์ อยู่ในระดับที่เหมาะสม - ระดับน้ำมันเครื่อง...ตรวจเชคเมื่อเครื่องเริ่มเย็นแล้ว ระดับน้ำมันเครื่องต้องอยู่ระหว่าง F กับ L (ควรเติมให้ถึง F จะดีที่สุด) - ท่อน้ำมันเชื้อเพลิง...ตรวจดูว่าท่อน้ำมันว่ามีรอยแตกลายงา เปื่อย และยังแน่นพอดีอยู่หรือไม่
ความดันลมยางที่เหมาะสม ควรเติมเท่าใด ?
ความดันลมยาง ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ ของการเดินทางไกล การเติมแรงดันลมยางให้ได้ระดับที่เหมาะสมนั้น ต้องนำค่าต่างๆ จากน้ำหนักบรรทุก ความเร็วเฉลื่ย รวมถึงค่าต่างๆ ของยางและวงล้อมาคำนวณ ถึงจะได้ค่าที่เหมาะสม แต่อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะรถทุกคัน ผู้ผลิตจะมีตัวเลขความดันที่เหมาะสมมาให้อยู่แล้ว (ส่วนใหญ่จะติดไว้บริเวณประตูด้านคนขับ) การเลือกเติมลมยางให้เหมาะสม จะทำให้รถมี เสถียรภาพ ความนุ่มนวล และเกิดความปลอดภัยสูงสุด แต่หากต้องเดินทางไกล และใช้ความเร็วสูง อาจเติมลมมากกว่าปกติประมาณ 3-5 ปอนด์ ช่วยลดการบิดตัวของโครงสร้างยาง ทำให้เกิดความร้อนน้อยลง ความดันลมยางทั่วไป รถเก๋ง ประมาณ 28-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว ส่วนรถพิคอัพ ประมาณ 35-40 ปอนด์/ตารางนิ้ว (ไม่บรรทุกหนัก)
อุปกรณ์
1. เครื่องวัดลมยาง 2. ถุงมือ 3. กระดาษทิชชู
ขั้นตอนการตรวจเชคเบี้องต้น
1. เชคสภาพของดอกยาง ความดันลมยาง รวมถึงนอทล้อ ว่าขันแน่นดีหรือไม่ 2. ก้มดูใต้ท้องรถ บริเวณใต้ห้องเครื่อง ว่ามีร่องรอยน้ำมันรั่วซึมหรือไม่ 3. เชคไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรค ไฟเลี้ยว หรือไฟอื่นๆ ว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่ 4. เชคใบปัดน้ำฝน ถ้าเห็นว่าเป็นเส้นๆ ปัดไม่สะอาด เปลี่ยนใหม่ทันที 5. เชคลมยางของล้ออะไหล่ รวมถึงแม่แรง ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้หรือไม่ 6. เชคสวิทช์ควบคุมต่างๆ เช่น ไฟเลี้ยว สวิทช์ปัดน้ำฝน กระจกไฟฟ้า ฯลฯ ให้แน่ใจว่าสามารถทำงานได้ปกติ 7. เชคระดับน้ำหล่อเย็นบริเวณหม้อพักสำรอง ควรมีน้ำอยู่ถึงระดับสูงสุดในถังพัก 8. เชคกรองอากาศให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี ถ้าสกปรกมากให้เปลี่ยน ถ้ายังพอใช้ได้ให้เป่า 9. เชคระดับน้ำกลั่น ให้อยู่ในค่าที่กำหนด (ดูได้จากเส้นวัดข้างตัวแบทเตอรี) รวมถึงขั้วต่อแบทเตอรีให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้ 10. เชคระดับน้ำมันต่างๆ เช่น เบรค คลัทช์ และน้ำมันเพาเวอร์ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม 11. เชคระดับน้ำมันเครื่อง (ตอนเครื่องเย็นแล้ว) ระดับน้ำมันเครื่องต้องอยู่ระหว่าง F กับ L (ควรเติมให้ถึง F จะดีที่สุด) 12. เชคสายพานต่างๆ ต้องไม่มีรอยแตกลายงา และเลอะน้ำมันหล่อลื่น ความตึงของสายพานต้องตึงกำลังดี ไม่มีเสียงดัง
อ่านต่อ
เรื่องโดย : วิธวินท์ ไตรพิศ
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน เมษายน ปี 2557
คอลัมน์ Online : DIY...คุณทำเองได้
ลิงค์สำหรับแชร์ :
https://autoinfo.co.th/article/18199
แชร์บทความ
Follow autoinfo.co.th
บทความแนะนำ คอลัมน์
DIY...คุณทำเองได้
DIY...คุณทำเองได้
21 May 2022
ล้างเคลือบรถ ทำเองได้ ประหยัดด้วย
DIY...คุณทำเองได้
17 Apr 2022
เติมน้ำยาแอร์ ทำเองได้ ไม่จำกัดฤดู
DIY...คุณทำเองได้
17 Dec 2021
เปลี่ยน แบทเตอรี ด้วยวิธีติดเครื่องยนต์