DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอเสนอวิธีล้างรถ พร้อมเคลือบสีแบบง่ายๆ ด้วยวิธีที่ถูกต้อง ขั้นตอนไหนบ้างต้องทำก่อน ไปดูกันฝน-ฝุ่น-โคลน ทำลายสีรถ ในช่วงที่ฝนตกใหม่ๆ เรามักจะเจอคราบน้ำฝนเกาะติดกับผิวสีของรถอยู่เสมอ คราบน้ำฝนเหล่านี้จะอันตรายที่สุด ถ้าเป็นฝนกรด จะกัดกร่อนเนื้อสีเอาง่ายๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับมลภาวะในอากาศขณะนั้น นอกจากนี้ น้ำฝนที่นองอยู่บนพื้น ยังเป็นตัวนำเม็ดกรวด ทราย และขี้โคลน ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอยบนผิวสีรถ ทำไมต้องเคลือบสีรถ อย่างที่รู้กันว่า แสงแดดประกอบด้วยรังสีความร้อนที่เป็นอันตรายมากมาย บวกกับมลภาวะในอากาศบ้านเรามีค่อนข้างสูง ทั้งจากฝุ่น ควัน ไอเสียจากรถ หรือแม้แต่มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมในอากาศ ซึ่งล้วนเป็นอันตรายต่อสีรถของคุณแทบทั้งนั้น หากปล่อยไปนานๆ โดยที่ไม่ดูแลรักษา สีรถของคุณจะหมอง เก่า ด้าน จนทำให้สีซีดแตกก่อนเวลาอันควร ดังนั้นการเคลือบสี จึงช่วยปกป้องสีรถโดยตรงจากแสงแดด และมลภาวะต่างๆ อีกทั้งยังสามารถป้องกันรอยขีดข่วนเล็กๆ น้อยๆ ตลอดจนคราบสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากมูลนก ยางไม้ น้ำค้าง ยางมะตอย ฯลฯ ได้อีกด้วย สิ่งเล็กๆ ที่ไม่ควรมองข้าม - ไม่ควรล้างรถเวลากลางคืน ช่วงเวลากลางคืนน้ำจะระเหยได้ช้า อาจทำให้เกิดสนิมในจุดที่เราเช็ดไม่ถึงได้ - ไม่ควรล้างรถกลางแดด แสงแดดทำให้น้ำแห้งเร็วกว่าปกติ จนเราเช็ดไม่ทัน อาจทำให้เกิดคราบฝังแน่นบนผิวสีรถได้ - ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำแล้วเช็ดรถ แทนการล้างรถ ผงฝุ่นต่างๆ จะอยู่กับผ้า ยิ่งเช็ดมากเท่าไร ก็จะเป็นรอยขนแมวมากเท่านั้น - ไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ หรือแปรงต่างๆ ปัดฝุ่น ขณะปัดนั้น ไม้ปัดฝุ่นจะลากฝุ่น หรือเม็ดทราย ไปตามผิวสีรถ ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย น้ำยาเคลือบสีรถยนต์ แบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1. คุณสมบัติเป็นน้ำมัน เช่น น้ำยาเคลือบสีที่ทำจากแวกซ์/ซิลิคอน และ โพลีเมอร์ น้ำยาประเภทนี้จะไม่ทนความร้อน เนื่องจากมีน้ำมันผสมอยู่ หากปะทะกับความร้อนนานๆ น้ำยาอาจจะเปลี่ยนสภาพจากปกป้อง กลายเป็นทำร้ายสีรถได้ น้ำยาประเภทนี้ ดมดูกลิ่นจะคล้ายน้ำมันก๊าด 2. คุณสมบัติเป็นน้ำ เช่น โพลีเอธิลีน ทนต่อความร้อนได้ดี เพราะไม่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม จึงหมดสิทธิ์ที่จะทำร้ายสีรถ เมื่อเจอกับความร้อนของแสงอาทิตย์ และความร้อนจากเครื่องยนต์ 3. คุณสมบัติเป็นน้ำ มีส่วนผสมของคาร์นูบาแวกซ์ สกัดโดยวัตถุดิบธรรมชาติ จะทำสภาพเป็นแผ่นฟีล์มบางๆ เคลือบสีผิวรถ ทนแสงแดด และฝน ยึดเกาะกับสีรถได้นาน รีดน้ำได้ดี สีรถลื่น และเงางาม อุปกรณ์ 1. ผ้าชามัวร์ 2. ผ้าไมโครไฟเบอร์ 3. ผ้าล้างรถ 4. แชมพูล้างรถ 5. สเปรย์เคลือบสีรถ ขั้นตอนการล้างรถ และเคลือบสี 1. เริ่มจากการฉีดน้ำแรงๆ ให้ทั่วผิวรถ เพื่อให้คราบฝุ่น ดิน ทรายต่างๆ หลุดไปมากที่สุด 2. ผสมน้ำสะอาดกับแชมพูล้างรถ ตามส่วนผสมที่ระบุไว้ข้างขวด ลงในกระป๋องใส่น้ำ 3. นำผ้า หรือฟองน้ำ ชุบน้ำยาที่ผสมไว้ เช็ดถูจากบนหลังคาก่อน แล้วไล่ลงมาเป็นส่วนๆ 4. ฉีดน้ำเพื่อล้างคราบแชมพูออกให้หมด โดยไล่จากด้านบนลงด้านล่าง 5. นำผ้าที่เช็ดแล้ว กลับมาล้างในกระป๋อง เพื่อขจัดคราบฝุ่นทราย 6. นำผ้าไปเช็ดในส่วนอื่นๆ แล้วนำมาล้าง วนไปให้ทั่วทั้งคัน 7. หลังจากล้างคราบแชมพูหมดแล้ว ให้นำผ้าชามัวร์ออกเช็ดคราบให้ทั้งคัน 8. เคลือบสีด้วยการฉีดสเปรย์บนพื้นผิว แล้วใช้ผ้าเช็ดให้สะอาด เป็นอันเสร็จ
บทความแนะนำ