1. คริพโทคอคโคซิส นีโอฟอร์แมนส์ (CRYPTOCOCCOSIS NEOFORMANS) เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะค่อยๆ สะสม ก่อให้เกิดโรคปอด หากเข้าสู่กระแสโลหิต จะมีผลต่ออวัยวะในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เช่น ที่ระบบประสาท กระดูก และข้อ รวมถึงบริเวณผิวหนัง และเยื่อบุด้วย
2. อัลคาลิจีนส์ เอสพี (ALCALIGENES SP) เป็นสาเหตุของโรคติดเชื้อในเลือด ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ และระบบทางเดินปัสสาวะ
3. อี โคไล (E COLI) ทำให้เกิดโรคอุจจาระร่วง ติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ไส้ติ่งอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ แผลติดเชื้อ และโลหิตติดเชื้อ หากเป็นเชื้อ ซูโดโมนัส เอรูจิโนซา (PSEUDOMONAS AERUGINOSA) เป็นเชื้อประเภทฉวยโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อระบบทางเดินปัสสาวะเช่นกัน โลหิตเป็นพิษ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดอักเสบ หนองฝีต่างๆ และโรคตาอักเสบ เป็นต้น
สูตรลับขจัดคราบเบาะ
กำจัดกลิ่น ให้ใช้ผงฟู หรือแป้งข้าวโพดโรยบนเบาะ หรือพรม ทิ้งไว้ 30 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดออก แต่ถ้ากลิ่นติดแน่นให้โรยทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วจึงดูดออก
ขจัดคราบเลือด ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นเช็ดเบาๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมด
คราบเหนียวเหนอะหนะ ใช้ผงฟูทาทับรอยเปื้อน แล้วใช้มือถูเบาๆ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเช็ดออก ทาซ้ำอีกถ้ารอยเปื้อนยังไม่หมด
คราบไขมัน ใช้แป้งข้าวโพดทาทับรอยเปื้อน ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมง จากนั้นเช็ดออก
คราบเขม่า หรือเถ้าถ่าน ให้ใช้เกลือทาทับบางๆ แล้วเช็ดออก
คราบปัสสาวะเด็ก หรือสัตว์เลี้ยง เช็ดด้วยน้ำธรรมดา 1 ครั้ง จากนั้นใช้น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับสบู่เหลว 1 ช้อนชา เช็ดถูบริเวณรอยเปื้อน ทิ้งไว้ 15 นาที จึงเช็ดออก
อุปกรณ์
1. เครื่องทำความสะอาดพรม
2. เครื่องดูดฝุ่น
3. ขวดฉีดละอองน้ำใส่น้ำเปล่า
4. แปรงสีฟัน
5. น้ำยาทำความสะอาด
6. ผ้าสะอาด
ขั้นตอนการซักเบาะ ซักพรม
1. นำเครื่องดูดฝุ่น ทำความสะอาดเบาะเบื้องต้นก่อน
2. ฉีดละอองน้ำลงบนเบาะให้หมาดๆ
3. นำเครื่องทำความสะอาดพรมออกมาติดตั้งให้เรียบร้อย
4. ใช้ปลายหัวดูด ดูดคราบน้ำสกปรกออกให้หมด
5. หากคราบยังไม่ออก ให้ฉีดน้ำยาทำความสะอาดเพิ่มเข้าไป
6. นำแปรงสีฟันขัดออกเบาๆ โดยให้เน้นขัดตรงคราบฝังแน่น
7. ใช้เครื่องทำความสะอาดดูดน้ำออกอีกครั้ง แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้ง
8. นำรถไปผึ่งกลางแดดประมาณ 30 นาที เป็นอันเสร็จ
บทความแนะนำ

