ค่ายรถแรง เมร์เซเดส-เอเอมจี ส่งสปอร์ทตัวธงเข้าร่วมการแข่งขัน โดยทีมที่ได้รับการสนับสนุนโดยตรง คือ กรุพ เอม เรซิง ส่งรถแข่งจำนวน 2 คันเข้าร่วมในคลาสส์ จีที 3 กับหมายเลขแบบ “ตองสาม” 888 และ 999 โดยในปีก่อนหน้าสามารถคว้าแชมพ์ประเภททีมได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังส่งทีมแข่งในคลาสส์ จีที 4 กับรถแข่งที่พัฒนาจาก เมร์เซเดส-เอเอมจี จีทีเอส โดยใช้หมายเลข 666ในรอบจับเวลาเพื่อหาตำแหน่งบนกริดสตาร์ท ในช่วงแรกเป็นรถแข่งหมายเลข 999 ทำเวลาได้เป็นอันดับที่ 1 โดยจะเป็นตำแหน่งสตาร์ทของเรศที่ 1 ขณะที่การจับเวลาช่วงที่ 2 เป็นผลงานของรถแข่งร่วมทีม กรุพ เอม เรซิง หมายเลข 888 ทำเวลาได้เป็นอันดับ 1 โดยจะเป็นตำแหน่งสตาร์ทของเรศที่ 2 และไม่น้อยหน้ากัน คือ ผลงานของทีมในคลาสส์ จีที 4 หมายเลข 666 สามารถคว้าตำแหน่งที่ 1 จากจุดสตาร์ทควบทั้ง 2 ช่วงของการจับเวลา การแข่งขัน บลองค์แปง จีที ซีรีส์ เอเชีย 2018 อุดมไปด้วยทีมแข่งระดับหัวแถว พร้อมรถแข่งตัวแรงมากมายหลายยี่ห้อ เช่น แฟร์รารี 488 จีที 3 ลัมโบร์กินี อูรากัน จีที 3 เอาดี อาร์ 8 จีที 3 เป็นต้น รถแข่งที่สามารถยืนอยู่หัวแถวได้จึงต้องมีสมรรถนะที่ถึงพร้อม ทีมงานมากประสบการณ์ และการร่วมมือร่วมใจของนักแข่ง สิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำให้ทีม กรุพ เอม เรซิง คือ หนึ่งในทีมแข่งที่สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันรายการนี้ กับรถแข่งเมร์เซเดส-เอเอมจี จีที 3 ทั้ง 2 คัน การแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิท จ. บุรีรัมย์ มีทั้งหมด 2 เรศ โดยในเรศแรกเป็นชัยชนะของรถแข่งหมายเลข 999 สามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 ขณะที่เพื่อนร่วมทีมหมายเลข 888 ประสบปัญหาเรื่องยาง ทำให้ยากต่อการไต่อันดับขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันเรศที่ 2 เป็นโอกาสของรถแข่งหมายเลข 888 ขึ้นมาเป็นผู้นำแบบรวดเดียวจบ ตลอดระยะเวลา 1 ชม. เต็ม ผลัดเปลี่ยนผู้ขับ 2 คน ทำให้ทีม กรุพ เอม เรซิง ได้คะแนนสะสมประเภททีมในคลาสส์ จีที 3 อย่างเป็นกอบเป็นกำในสนามนี้ ส่วนทางด้านคลาสส์ จีที 4 รถแข่งหมายเลข 666 สามารถคว้าชัยชนะ ได้อันดับ 1 ทั้ง 2 เรศอย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน
บทความแนะนำ