ญี่ปุ่น-เริ่มออกโชว์รูมทั่วเกาะญี่ปุ่นไปแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านพ้นไป คือ รถพันธุ์ยุ่นสุดหรูติดป้ายชื่อ โตโยตา คราวน์ (Toyota Crown) รุ่นใหม่ ซึ่งมีทั้งรถขับล้อหลัง รถขับทุกล้อ และมีขุมพลังขับเคลื่อนให้เลือกใช้ถึง 3 แบบนับเป็นรถรุ่นที่ 15 และเป็นทายาทสายตรงของรถรุ่นแรกที่เริ่มเข้าสู่สายการผลิตเมื่อปี 1955 ตัวถังยาว 4.910 ม. กว้าง 1.800 ม. และสูง 1.455-1.465 ม. ออกแบบตามยุทธศาสตร์ TNGA (Toyota New Grown Architecture) ที่ยักษ์ใหญ่เมืองยุ่นยึดเป็นสรณะในปัจจุบัน และผ่านการทดสอบในหลายพื้นที่รวมทั้งที่สนามนืร์บวร์กริง (Nurburgring) อันเลื่องชื่อของเยอรมนี เป็นตัวถังรูปทรงสง่างามซึ่งอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารเชื่อมต่อที่ก้าวล้ำนำยุค และพึงคาดหวังได้จากรถระดับนี้ ตัวอย่างเช่น ระบบ E-Care Health Check Report ซึ่งทำงานผ่านสมาร์ทโฟน ทำให้ผู้ขับรับรู้ข้อมูลต่างๆ ของรถ เช่น ระดับของน้ำมันหล่อลื่น และสถานะของแบทเตอรีได้โดยง่าย ระบบ Helpnet ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบถุงลมนิรภัย ทำหน้าที่เป็นกลไกเชื่อมต่อระหว่างผู้ขับรถกับสถานีตำรวจ หรือสถานีดับเพลิงกรณีประสบอุบัติเหตุ และระบบ Line My Car Account ซึ่งทำให้ผู้ขับสามารถใช้ Line กำหนดเป้าหมายการเดินทางและข้อมูลต่างๆ ระหว่างการเดินทาง มีรถให้ลูกค้าในเมืองยุ่นเลือกใช้มากกว่า 20 โมเดล โดยที่รถขับล้อหลังมีกลไกการขับเคลื่อนให้เลือกถึง 3 แบบ คือ ด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี 180 กิโลวัตต์/245 แรงม้า ด้วยระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊ก ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบเรียง 2,487 ซีซี 135 กิโลวัตต์/184 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 105 กิโลวัตต์/143 แรงม้า และแบทเตอรีนิคเคิล-เมทัล ไฮดไรด์ ให้กำลังสุทธิสูงสุด 166 กิโลวัตต์/226 แรงม้า และด้วยระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊ก ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 6 สูบ 3,456 ซีซี 220 กิโลวัตต์/299 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า และแบท-เตอรีลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสุทธิสูงสุด 264 กิโลวัตต์/359 แรงม้า ส่วนรถขับทุกล้อซึ่งมีอยู่รวม 6 โมเดลเลือกระบบขับไม่ได้ เพราะมีแต่ระบบขับไฮบริดแบบหลัง ตั้งเป้าการขายในญี่ปุ่นไว้ที่ 4,500 คัน/เดือน และกำหนดราคาแนะนำ (MSRP) ซึ่งรวมภาษีผู้บริโภคร้อยละ 8 ไว้แล้ว 4.61-7.19 ล้านเยน หรือประมาณ 1.38-2.16 ล้านบาทไทย