ผมชอบชมภาพยนตร์ที่มีตอนจบแบบ “หักมุม” เพราะนอกจากจะสนุกตื่นเต้นแล้ว ยังเป็นการวัดไอคิวตัวเองด้วยว่าจะ “รู้ทัน” ผู้เขียนบท หรือผู้กำกับ ก่อนจะถึงตอน “หักมุม” หรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ทันหรอกครับ โดนหักมุมจนคอเคล็ดแทบทุกครั้งไปเปรียบเทียบกับกรณีใบขับขี่แบบดิจิทอล ก็เช่นเดียวกัน ทั้งผม และผู้ใช้รถทั่วไป ต่างโดนผู้กำกับ หรือ (ใครก็ไม่รู้) หลอกหักมุมจน “เหวอ” ไปตามๆ กัน เริ่มจากกรมการขนส่งทางบก ประกาศผ่านสื่ออย่างหรูหราว่า ได้เปิดใช้ระบบใบขับขี่แบบดิจิทอลผ่านแอพพลิเคชัน DLT GR LICENCE แล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2562 ประชาชนสามารถดาวน์โหลดใบขับขี่ของตนเองลงในสมาร์ทโฟน เพื่อใช้แสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรณีถูกเรียกตรวจได้ โดยไม่ต้องพกใบขับขี่ตัวจริงอีกต่อไป แต่ในขณะที่เรากำลังโหลดภาพใบขับขี่ลงสมาร์ทโฟน หรือกำลังวิ่งไปต่อคิวเพื่อขอทำใบขับขี่รุ่นใหม่ด้วยความภูมิใจในไทยแลนด์ 4.0 ที่ไม่แพ้ชาติใดในโลก อยู่นั่นเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ออกมา “หักมุม” อย่างได้จังหวะจะโคนราวกับ เอม ไนท์ ชยามาลาน แห่ง THE SIXTH SENSE โดยบอกหน้าตาเฉยว่า ใบขับขี่แบบดิจิทอล ยังไม่มีกฎหมายรองรับ จนกว่า พรบ. จราจรทางบกฉบับใหม่จะประกาศใช้ ซึ่งต้องรออีกอย่างน้อย 6 เดือน เพราะตอนนี้ท่านเพิ่งส่งให้ที่ประชุม สนช. พิจารณาวาระแรก ! แถมขู่สำทับด้วยว่า ใครอยากเท่ก็โหลดใบขับขี่แบบดิจิทอลไป แต่ถ้าไม่มีใบขับขี่ตัวจริงมาแสดงแก่ตำรวจละก็ รับรองโดนปรับ (หรือโดน...) แน่นอนนะจ๊ะ คำถามที่กระหึ่มตามมา คือ ทำไมพวกคุณถึงไม่คุยกันให้เรียบร้อยก่อน ราวกับว่าไม่รู้จักกัน พูดต่างภาษา หรืออยู่คนละประเทศอย่างนั้นแหละ อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักดูหนังหักมุม ผมก็พอกล้อมแกล้มบันเทิงไปกับเรื่องนี้ได้ โดยคิดเสียว่า นี่เป็นหนังต่อจากภาคแรก เรื่อง “ไม่จ่ายค่าปรับจราจรต่อภาษีไม่ได้” ซึ่งตำรวจ โดนขนส่ง หักมุมอย่างเจ็บแสบ เลยตามมาหักมุมล้างแค้นแบบทีใครทีมัน คิดได้แบบนี้ก็สนุกสนาน และอยากดูภาคต่อไปใจจะขาด !