เยอรมนี-เปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ ไปแล้วเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งผ่านพ้นมา คือ รถเก๋งแฮทช์แบคยอดนิยมของยุโรป OPEL ASTRA (โอเพล อัสตรา) รุ่นใหม่ ซึ่งจะเริ่มการผลิต และเปิดรับการสั่งจองในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ แต่ต้องรอจนถึงต้นปี 2022 จึงจะเริ่มการส่งมอบรถนับเป็นรถรุ่นที่ 8 และเป็นรุ่นแรกในยุคที่ OPEL (โอเพล) และคู่ฝาคู่แฝด คือ VAUXHALL (วอกซ์ฮอลล์) มีฐานะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ในเครือข่ายของ STELLANTIS NV (สเตลลันทิส เอนวี) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่เพิ่งก่อกำเนิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2021 จากการรวมตัวของกลุ่มบริษัท GROUPE PSA และ FCA GROUP เป็นรถที่ออกแบบ/พัฒนาโดยละทิ้งสิ่งที่เคยใช้ในรถรุ่นก่อนไปทั้งหมด แล้วเริ่มต้นขึ้นใหม่โดยใช้สถาปัตยกรรมที่เคยใช้มาก่อนแล้วในรถ เอสยูวี รุ่นใหม่บางรุ่น และตั้งชื่อว่า EMP2 ARCHITECTURE มีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ยาว 4.374 ม. กว้าง 1.860 ม. และสูง 1.470 ม. ที่เห็นแล้วไม่อยากเชื่อเลยว่านี่คือรถ OPEL ASTRA เพราะรายละเอียดของตัวถังภายนอกไม่มีจุดไหนเลยที่หลงเหลือร่องรอยของรถรุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะส่วนหน้ารถซึ่งเป็นลักษณะการออกแบบที่ค่ายนี้เรียกชื่อว่า OPEL VIZAR เป็นรถเก๋งขนาดเล็กกะทัดรัดที่ไม่น้อยหน้าใครในเรื่องอุปกรณ์ช่วยขับ ใช้เทคโนโลยีที่ต้องมีการติดตั้งกล้องถ่ายภาพไว้ถึง 4 กล้อง (1 กล้องอยู่ด้านหน้า 1 กล้องอยู่ด้านหลัง 2 กล้องอยู่ด้านข้าง) มี RADAR SENSOR 5 ชุด (1 ชุดอยู่ด้านหน้า 4 ชุดอยู่ที่มุมรถ) และมี ULTRASONIC SENSOR ทั้งด้านหน้า และด้านหลังของรถ จะมีระบบขับรวม 3 แบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน หรือเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะให้กำลังสูงสุดระหว่าง 81 กิโลวัตต์/110 แรงม้า จนถึง 96 กิโลวัตต์/130 แรงม้า และขับด้วยระบบไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ หรือ PLUG-IN HYBRID ซึ่งให้กำลังสูงสุด 2 ขนาด คือ 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า กับ 165 กิโลวัตต์/225 แรงม้า เป็นชุดเดียวกันกับที่ใช้ในรถร่วมเครือ คือ PEUGEOT 308 (เปอโฌต์ 308) ที่รายงานไปแล้วใน “ระเบียงรถใหม่” เดือนมิถุนายน 2021