ขณะขับผ่านแอ่งโคลน ให้ใช้เทคนิคหักพวงมาลัยซ้าย/ขวา สลับกันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้หน้ายางตะกายพื้นผิวของโคลนได้ดีขึ้น สำหรับแอ่งโคลนไม่ลึกมาก ให้ใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในตำแหน่งเกียร์ 4H หรือ PART TIME HIGH ซึ่งจะมีการกระจายกำลังที่เพียงพอ พร้อมกับใช้ความเร็วที่เหมาะสม หากแอ่งโคลนลึก ให้เปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในตำแหน่งเกียร์ 4L หรือ PART TIME LOW เพื่อเพิ่มกำลังฉุดลากมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อด้านหน้ามีทางขึ้นเนินชันรออยู่
ทางลาดเอียง
ในเส้นทางที่ลาดเอียงมากๆ ถ้าขับรถพรวดพราดลงมาเลยอาจทำให้เสียหลัก และหากเบรคจนล้อลอค รถจะพลิกคว่ำได้ ควรใช้วินช์เพื่อโรยตัวรถลงมา หากหาต้นไม้ใหญ่ไม่ได้ ต้องใช้สมอบก หรือหลักยึดหลายๆ ตัวทำงานร่วมกัน โดยคล้องยึดเข้ากับรถที่มีวินช์ ก่อนที่จะโยงสายเคเบิลไปยังรถที่โรยตัวลงไป
ทางเนินหิน
การขับขึ้นทางชันที่เต็มไปด้วยโขดหิน ต้องอาศัยจังหวะการโยกพวงมาลัยซ้าย/ขวาช่วย เพื่อแกะรอยทาง โดยจังหวะการหมุนพวงมาลัยจะต้านการถอยของรถ ที่สำคัญ อย่าหมุนพวงมาลัยมากเกินไป เพราะอาจทำให้รถหลุดไลน์ และเกิดอุบัติเหตุได้ หรือทางที่ดี ใช้วินช์ช่วยดึงขึ้นไป โดยใช้รอกช่วยทดแรง พร้อมใส่เกียร์ 4L-1 อย่าเร่งเครื่องมาก เพราะล้อจะตะกุยหิน อาจทำให้ยางฉีกขาด เสียหาย รั่วซึม
เนินดิน
เมื่อขับผ่านยอดเนินดินสูงๆ ต้องระวังให้ดี เพราะใต้ท้องรถอาจจะไปติดกับยอดเนิน ทำให้ล้อลอยไม่สามารถขับข้ามผ่านไปได้ หากเจอปัญหานี้อาจต้องใช้แม่แรง หรือไฮ-ลิฟท์ แจค ช่วยยก ถ้าไม่มีแม่แรงติดรถมา ให้ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่มารองหนุนใต้ยาง แล้วโยกรถไปด้านหน้า/หลังเบาๆ พร้อมเข้าเกียร์เดินหน้า และถอยหลังสลับไป/มา จะทำให้รถเคลื่อนที่ออกจากยอดเนินได้
ทางลาดชัน
การขับขึ้นทางลาดชันที่ทำมุมเอียงมากๆ อย่าขับจ่อตามกันขึ้นไปเด็ดขาด ให้ขับไปทีละคัน เมื่อคันหนึ่งถึงที่หมายข้างบนเรียบร้อยแล้ว คันต่อไปค่อยๆ ขับขึ้นไป หากรถคันหน้าเกิดเสียจังหวะ หรือหมดกำลังก่อนถึงที่หมาย จะต้องถอยหลังกลับมาตั้งหลักใหม่ ถึงช้าอีกนิดแต่รับรองปลอดภัยแน่นอน และควรใช้เกียร์ 4L ช่วยเรื่องเบรค เพราะถ้าใช้เบรคมาก เบรคอาจเกิดการไหม้ได้ 
