รายงาน(formula)
TOKYO AUTO SALON 2023 งานรวมพล “รถซิ่ง” เลือดซามูไร !
งาน TOKYO AUTO SALON 2023 คือ งานแสดงรถยนต์ที่รวบรวมเอาบรรดารถแข่ง และรถตกแต่ง มากมายหลากหลายรุ่น ทั้งผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นโดยตรง และบรรดาสำนักตกแต่งรถยนต์ชื่อดัง นำมาจัดแสดงอย่างคับคั่ง ในปีนี้เป็นการจัดงานครั้งที่ 41 แล้ว ระหว่างวันที่ 13-15 มกราคม 2023 ผ่านมา ทางผู้จัดงานระบุว่ามีผู้เข้าชมงานทั้งหมด 179,434 คน (มากกว่าปี 2022 ที่มีผู้เข้าชมงานทั้งหมด 126,869 คน) ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์ COVID -19 ที่เริ่มคลี่คลาย และมีสื่อมวลชนจากต่างประเทศไปทำข่าวในงาน รวมถึงทีมงานของเราด้วย !
DAIHATSU
ค่ายรถเล็ก มีรถยนต์น่าสนใจมาจัดแสดงมากมาย คันที่โดดเด่น คือ รถต้นแบบ DAIHATSU COPEN CLUBSPORT (ไดฮัทสุ โคเพน คลับสปอร์ท) โรสเตอร์คันเล็ก ตกแต่งโฉบเฉี่ยว เหมาะสำหรับการนำมาขับทำเวลาต่อรอบในสนามแข่ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมรถต้นแบบที่ใช้งานได้หลากหลาย รวมถึงการเป็นรถยนต์เซอร์วิศในสนามแข่ง นั่นคือ DAIHATSU HIJET JUMBO EXTEND (ไดฮัทสุ ไฮเจท จัมโบ เอกซ์เทนด์) สามารถยืดส่วนท้ายของตัวออกมาได้เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มีมากกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีรถเล็ก ตกแต่งสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งกับ DAIHATSU ATRAI WILDRANGER (ไดฮัทสุ อัตราอิ ไวลด์เรนเจอร์) เอมพีวี ขนาดเล็ก แต่เสริมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการบุกป่าฝ่าดงแบบขีดสุด รวมถึงการติดตั้งเรือพายขนาดเล็กเอาไว้อย่างแนบเนียนบริเวณด้านบนของหลังคารถ ติดตั้งยางสำหรับการลุยเส้นทางสมบุกสมบันเต็มพิกัด
MAZDA
ค่ายรถแห่งนี้ไม่มีรถรุ่นใหม่ๆ มาเปิดตัวในงาน แต่เน้นการตกแต่งรถยนต์หลายรุ่น โดยเฉพาะ MX-5 (เอมเอกซ์-5) ตกแต่งเป็นโรดสเตอร์สไตล์รถแข่ง เสริมโรลล์บาร์เพื่อความปลอดภัยในสนามแข่ง นอกจากนี้ยังตกแต่งแฮทช์แบคอย่าง MAZDA 3 (มาซดา 3) ให้มีความดุดันมากกว่าเดิม โดยเฉพาะซุ้มโป่งล้อขนาใหญ่กว่าเดิม และชุดตกแต่งแบบจัดเต็ม มีมาดที่แตกต่างจากรุ่นปกติที่เน้นความเรียบหรูมากกว่า
HONDA
ค่าย HONDA (ฮอนดา) มีรถยนต์ที่โดดเด่นอยู่กลางบูธ คือ รถต้นแบบ HONDA CIVIC TYPE-R GT (ฮอนดา ซีวิค ไทพ์-อาร์ จีที) ว่าที่รถแข่งรุ่นใหม่ที่จะลงแข่งในรายการ SUPER GT (ซูเพอร์ จีที) ในปี 2024 โดยอิงเส้นสายจากแฮทช์แบคตัวแรง นั่นคือ CIVIC TYPE-R รุ่นล่าสุด โดยจะใช้ลงแข่งในรุ่น GT500 ก่อนหน้านี้จะใช้เส้นสายจากซูเพอร์คาร์อย่าง NSX (เอนเอสเอกซ์) ซึ่งปัจจุบันหยุดการผลิตไปเรียบร้อยแล้ว การหันมาใช้รูปทรงของ CIVIC TYPE-R ถือเป็นความแปลกใหม่พอสมควร โดยตัวแข่งรุ่นใหม่จะวางเครื่องยนต์ด้านหน้า และขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง
นอกเหนือจากตัวแข่งแล้ว ในบูธของ HONDA ยังมีรถรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น CIVIC TYPE-R ที่ตกแต่งโดยสำนักคู่บุญอย่าง MUGEN (มูเกน) เพิ่มความดุดันให้กับตัวถังรอบคัน รวมถึงสปอยเลอร์ท้ายที่มีความโดดเด่นกว่าเดิม รวมถึงล้อแมกลายใหม่ เอกลักษณ์ของสำนักตกแต่ง MUGEN นอกจากนี้ยังมีครอสส์โอเวอร์อย่าง ZR-V (เซดอาร์-วี) ขุมพลังไฮบริด กับชุดตกแต่งจากทางผู้ผลิต หรือชุดตกแต่งโดย MUGEN ก็มีให้เลือกเช่นกัน
MITSUBISHI
อีกหนึ่งค่ายรถที่มีรถยนต์มากมายมาจัดแสดงในบูธ MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) เปิดตัวครั้งแรกกับแฮทช์แบคระดับ เค-คาร์ กับ DELICA MINI (เดลีคา มีนี) รูปทรงด้านหน้าเน้นสันเหลี่ยมตามแบบฉบับค่าย 3 เพชรยุคปัจจุบัน แลดูโฉบเฉี่ยว เน้นการใช้งานในตัวเมือง ประตูด้านหลังเป็นแบบเลื่อนเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า เพื่อประหยัดเนื้อที่ขณะเข้าจอด เนื่องจากพื้นที่ในตัวเมืองมีค่อนข้างจำกัด ถัดมา คือ รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก รับ เค-คาร์ เช่นกัน EK X EV (อีเค เอกซ์ อีวี) กวาดรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของประเทศญี่ปุ่นเมื่อปีที่แล้วมาได้หมาดๆ ในงานนี้ถูกนำมาตกแต่งเน้นมาดลุย อรรถประโยชน์รอบด้าน อีก 1 คันที่น่าสนใจ คือ กระบะตัวแข่ง MITSUBISHI TRITON (มิตซูบิชิ ทไรทัน) สามารถคว้าแชมพ์รายการแรลลีครอสส์คันทรีที่ประเทศไทยมาได้
NISSAN
หนึ่งในค่ายรถที่มีความโดดเด่นรอบด้าน ทั้งรถสปอร์ท และรถยนต์ไฟฟ้า โดยในบูธมีการเปิดตัว NISSAN GT-R (นิสสัน จีที-อาร์) โฉมล่าสุด ปรับเส้นสายให้มีความแตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดจากส่วนของกระจังหน้าที่ปราดเปรียวกว่าเดิม ปรับปรุงระบบรองรับให้เฉียบคม เป็นการบ่งบอกว่ารถสปอร์ทประจำค่ายคันนี้ แม้จะทำตลาดมานานกว่า 10 ปี แต่ยังคงทำตลาดต่อไปอีกระยะหนึ่ง ขณะที่รถสปอร์ทรุ่นเล็กลงมาอย่าง FAIR LADY Z (แฟร์ เลดี เซด) นำมาตกแต่งเป็นสีส้ม พร้อมชุดตกแต่งรอบคัน เป็นสีพิเศษที่ชวนให้นึกถึง FAIR LADY Z รุ่นคลาสสิค นอกจากนี้ยังมีแฮทช์แบคขุมพลังไฮบริด NOTE E-POWER (โนท อี-เพาเวอร์) รูปทรงลงตัว แต่ยังไม่จำหน่ายในบ้านเรา รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของค่าย นั่นคือ ARIYA (อรียา) ครอสส์โอเวอร์ขนาดใหญ่ ถูกนำมาตกแต่งในธีมเมืองเกียวโต เน้นความเรียบหรู และที่ขาดไม่ได้ คือ ตัวแข่ง SUPER GT ที่เพิ่งคว้าแชมพ์มาได้จากการแข่งในปี 2022
SUBARU
ตรงกลางบูธโดดเด่นกับรุ่นใหม่ของ SUBARU IMPREZA (ซูบารุ อิมพเรซา) ทำตลาดเป็นเอกเทศจากตัวแรงอย่าง WRX หรือ STI รูปทรงโดยรวมยังคงความคมเข้ม ภายใต้ตัวถังแบบซีดาน จัดเป็นรถที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในญี่ปุ่น อีกรุ่นเด่น คือ การนำครอสส์โอเวอร์รุ่นล่าสุด นั่นคือ SUBARU CROSSTREK (ซูบารุ ครอสส์ทเรค) หรือในบ้านเราใช้ชื่อว่า XV (เอกซ์วี) ตกแต่งแบบเน้นการลุยแบบสมบุกสมบันเต็มพิกัด กับชื่อ BOOST GEAR CONCEPT (บูสต์ เกียร์ คอนเซพท์) จุดที่น่าสนใจ คือ เสริมการใช้งานต่างๆ เอาไว้อย่างแนบเนียน ภายใต้ส่วนประกอบภายนอกที่ทำให้ตัวรถดูดุดันขึ้น ยางสำหรับการลุยทางโคลน สามารถกางเทนท์ และเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้มากมาย สำหรับการใช้งานในป่าเขา อีกหนึ่งคัน คือ ครอสส์โอเวอร์ขนาดเล็ก SUBARU REX URBAN SUV (ซูบารุ เรกซ์ เออร์เบิน เอสยูวี) มาตกแต่งให้มีความบึกบึนเกินตัว และการใช้งานแบบอเนกประสงค์ได้ดียิ่งขึ้น
SUZUKI
อีกหนึ่งค่ายรถเล็กที่ไม่มีรถยนต์รุ่นใหม่จาก SUZUKI (ซูซูกิ) แต่ร่วมมือสำนักตกแต่ง DAMD นำรถนต์หลากหลายรุ่นมาเสริมมาดตัวลุย ไม่ว่าจะเป็น เอสยูวี ขนาดเล็ก JIMNY (จิมนี) ที่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำมาตกแต่งเสริมมาดหรู ดูใกล้เคียงกับ เอสยูวี ขนาดใหญ่ราคาแพงกว่า HUSTLER (ฮัสต์เลอร์) แฮทช์แบคขนาดเล็ก ทรงกล่อง โค้งมน ก็ถูกนำมาเสริมมาดแกร่งกับเขาด้วยเหมือนกัน หรือรถยนต์ที่สามารถเปิดหลังคาสำหรับใช้งานค้างแรมระหว่างเข้าแคมพ์ นั่นคือ EVERY LITTLE D (เอเวอรี ลิทเทิล ดี) แสดงให้เห็นว่าบรรดารถเล็กของค่าย ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ไหน สามารถนำมาเสริมมาดแกร่งได้อย่างลงตัว
TOYOTA
หนึ่งในค่ายรถยักษ์ใหญ่ ชูจุดเด่นกับแนวคิดที่น่าสนใจของการบรรจบกันระหว่างอดีต และอนาคต รถคันที่จัดแสดงบนเวที คือ TOYOTA COROLLA (โตโยตา โคโรลลา) รุ่นคลาสสิคของ “ขาซิ่ง” หลายคน เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อคู่หลัง จึงถูกนำมาปรับแต่งเป็นรถยนต์ดริฟท์ของหลายคนในญี่ปุ่น ทั้ง 2 คันมากับรูปแบบที่แตกต่าง โดยรุ่นย่อย TRUENO (ทรูโน) ถูกวางเครื่องยนต์ไฮโดรเจน ซึ่งเป็นหนึ่งทางเลือกของพลังงานที่ TOYOTA นำเสนอตลอดมา อีก 1 คัน คือ LEVIN (เลวิน) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กลายเป็นรถ EV อย่างเต็มตัว แต่องค์ประกอบอื่นๆ ยังคงถูกรักษาเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยแบบสปอร์ท และระบบเกียร์แบบธรรมดา
นอกจากรถรุ่นคลาสสิคกับพลังงานทางเลือกใหม่ ในบูธของ TOYOTA ยังจัดแสดงรถยนต์ตัวแรงภายใต้ชื่อ GR หรือ GAZOO RACING ที่มากันครบตั้งแต่รุ่นเล็ก GR YARIS (จีอาร์ ยารีส) หรือ GR COROLLA (จีอาร์ โคโรลลา) ถูกเสริมชุดตกแต่งตัวถังที่ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์มาอย่างดี เสริมประสิทธิภาพการขับขี่ขึ้นมาอีกขั้น นอกจากนี้ยังมีรถแข่งที่คว้าแชมพ์จากการแข่งหลายรายการ ที่น่าสนใจ คือ รถแข่งที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน ที่ทาง TOYOTA เพิ่งนำมาแข่งแบบเอนดูรานศ์ในบ้านเราช่วงปลายปีที่ผ่านมา และขับโดยอดีตประธานบริษัท นั่นคือ อกิโอะ โตโยดะ
นอกเหนือจากค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นแล้ว เรายังพบค่ายรถสัญชาติยุโรปบางแห่งมาเปิดบูธในงานด้วย ที่โดดเด่นกว่าใคร คือ บูธ ของ BMW (บีเอมดับเบิลยู) เน้นตัวสปอร์ทครบครันกับรหัส M ด้านหน้าบูธมีการออกแบบให้เห็นกระจังหน้าแบบไตคู่ขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ล่าสุดของตัวสปอร์ทจากค่ายรถแห่งนี้ ด้านในยังมีรุ่นพิเศษของ BMW M4 (บีเอมดับเบิลยู เอม 4) เสริมชุดตกแต่งตัวถังรอบคัน ผลิตจำนวนจำกัดสำหรับลูกค้าชาวญี่ปุ่น และยังจัดแสดงรถแข่งในรายการ SUPER GT ในคลาสส์ GT300 และมีผลงานที่น่าพอใจ
เสน่ห์ของงาน TOKYO AUTO SALON อยู่ที่บรรดาสำนักตกแต่งรถยนต์หลากหลายค่าย มาจัดแสดงกันครบ ไม่ว่าจะเป็นค่าย HKS กับอุปกรณ์ตกแต่ง และอุปกรณ์เสริมสมรรถนะแบบครบวงจร พร้อมการจัดแสดงรถที่ตกแต่งมาแล้วอย่าง NISSAN FAIR LADY Z หรือ TOYOTA GR 86 ถัดมา คือ ค่าย BLITZ มีความแหวกแนวกับการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาตกแต่งตัวถังรอบคันกับ NISSAN ARIYA นับเป็นก้าวแรกของสำนักตกแต่งรถยนต์ที่จะต้องหันมาตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จะทำตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตอันใกล้ อีกหนึ่งค่ายดังอย่าง GREEDY และ TRUST กับชุดเสริมสมรรถนะรอบคัน ทั้งระบบของเครื่องยนต์ และระบบรองรับ นำเสนอผ่านรถสปอร์ท TOYOTA GR 86 ขณะที่ค่ายดังอย่าง SPOON มากับตัวแรงรุ่นใหม่ นั่นคือ HONDA CIVIC TYPE-R หรืออีกหนึ่งสำนักตกแต่งที่เน้นการเสริมตัวถังให้มีความุดัน และมีความกว้างมากขึ้นเป็นิเศษ นั่นคือ LIBERTY WALK นปีนี้แหวกแนวกับการนำซูเพอร์คาร์ระดับคลาสสิคอย่าง FERRARI F40 (แฟร์รารี เอฟ 40) มาเสริมความโฉบเฉี่ยวได้อย่างน่าสนใจ
จากการเดินดูรอบงานแล้ว เราสังเกตได้ว่า ส่วนใหญ่รถยนต์ที่นำมาจัดแสดง ยังคงเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป บรรดารถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีให้เห็นในหลายบูธ แต่ไม่ถึงกับแพร่หลายมากนัก อย่างไรก็ตาม มีค่ายรถยนต์ไฟฟ้ามาจัดแสดงในงานเช่นกัน นั่นคือ BYD (บีวายดี) จากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีรถยนต์ทั้งหมด 3 รุ่น นั่นคือ ATTO 3 (อัตโท 3) SEAL (ซีล) และ DOLPHIN (ดอลฟิน) โดยมีแผนทำตลาดในญี่ปุ่นปีนี้ นับเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง เนื่องจากตลาดในญี่ปุ่นมีการแข่งขันสูงมาก และหลายคนยังนิยมรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นบ้านเกิดมาเป็นลำดับแรก
นอกเหนือจากรถยนต์มากมายหลายรุ่นแล้ว ในงาน TOKYO AUTO SALON 2023 ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ใหชมกันอีก ไม่ว่าจะเป็นลานกิจกรรมกลางแจ้ง ร้านขายรถของเล่นจากค่าย TOMICA พร้อมรุ่นเฉพาะที่มีขายเฉพาะในงานนี้สำหรับนักสะสมทั้งหลาย บรรดาสำนักตกแต่ง รวมถึงผู้จัดงานก็มีร้านขายของ และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องมากมาย เรียกได้ว่าเป็นงานที่สร้างความเพลิดเพลิน และสนุกสนานให้แก่ผู้มาร่วมงานได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งงานที่ผู้ชื่นชอบโลกยานยนต์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
ABOUT THE AUTHOR
ภูเขม หน่อสวรรค์
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2566
คอลัมน์ Online : รายงาน(formula)